เจ้าพ่อกบฏโลก นิยาย บท 59

ใบหน้าของซูโหย่วซินแดงเถือกมากยิ่งขึ้น

ก้มหน้าถือปิ่นโตพลางพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ : “พวกเขาบอกว่า……พวกเขาบอกว่า……ยังไงก็ตาม พี่ให้เงินหนูมามากขนาดนี้แล้ว หนูไปซื้อข้าวกินเองได้นี่คะ! ไม่ต้องมาส่งให้หนูแล้ว โอเคไหมคะ?”

สุดท้ายเธอจึงรวบรวมความกล้า เงยหน้าขึ้นมามองซ่งซานสี่

ใบหน้าแดงเถือกไปจนถึงต้นคอ

ดวงตากลมโตที่งดงาม เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำตาที่เขินอาย แต่ก็ดูน่าเอ็นดูเล็กน้อย

ใบหน้าของซ่งซานสี่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงง “โหย่วซิน เธอเป็นอะไรกันแน่?”

“หนู…..หนู……”

ซูโหย่วซินยากที่จะปิดบังความเขินอาย จึงก้มหน้าพลางถอยหลังกลับไปอย่างต่อเนื่อง 

สุดท้ายก็ตอบกลับอย่างเร่งรีบ: “หนูไม่อยากให้พวกเขาบอกว่าพี่ชอบหนู ไม่รักเดียวใจเดียว……”

เสียงเบามากถึงมากที่สุด หลังจากพูดจบ ก็หันหลังเอามือปิดหน้าแล้ววิ่งกลับเข้าไปในตึกหอพัก

ร่างบางที่น่าหลงใหลนั่น เหมือนกำลังบินหนี

ซ่งซานสี่รู้สึกงงงัน: “......”

จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา

เด็กมัธยมปลายพวกนี้นี่นะ ในใจคิดแต่เรื่องอะไรกันเนี่ย? 

เห้อ!

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเย่เสี่ยวหยูที่ยังเรียนมัธยมปลายในตอนนี้ จะประสบพบเจอกับคำซุบซิบนินทายังไงบ้าง?

เย่เสี่ยวหยูก็เป็นเด็กผู้หญิงที่งดงามมากถึงมากที่สุดคนหนึ่งเหมือนกัน 

ซ่งซานสี่นึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองดูห้องทำงานของผู้ดูแลหอ

เงาร่างของป้าเมิ่งหายไปจากริมหน้าต่างแล้ว

ซ่งซานสี่ทราบมาโดยตลอดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีความรับผิดชอบมาก ๆ คอยแอบสอดส่องเขามาโดยตลอด

เขาจึงก้าวเท้ายาวเดินเข้าไปทันที 

หยิบเงินสดออกมาสองหมื่น “ป้าเมิ่งครับ คุณรับเงินนี้ไว้นะครับ”

เมิ่งเสี่ยวหลันชะงัก “ซ่งซานสี่ นี่นายหมายความว่ายังไง?”

“ความคิดของเด็ก ๆ ว่องไว วิจารณ์คนอื่นในทางลบ และผมก็ไม่เหมาะที่จะมาส่งข้าวให้โหย่วซินต่อแล้วจริง ๆ รบกวนคุณช่วยเอาเงินก้อนนี้มอบให้โรงอาหารของโรงเรียน นี่คือค่าข้าวเดือนหนึ่งของโหย่วซิน บอกให้เซฟที่ดีที่สุดของโรงอาหาร ใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ทำอาหารให้โหย่วซินกินวันละสามมื้อ คุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และเป็นคุณป้าที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ ดังนั้นคุณก็ทานข้าววันละสามมื้อพร้อมกับโหย่วซินเถอะครับ! ถ้าเงินไม่พอคุณค่อยบอกผม”

เมิ่งเสี่ยวหลัน: “......”

สองคน ค่าครองชีพสองเดือน สองหมื่น

เธอไม่กล้าจินตนาการเลย!

แต่ทว่าซ่งซานสี่ทิ้งนามบัตรไว้หนึ่งใบ ก็หันหลังแล้วเดินจากไปเลย 

เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร 

เมื่อวิ่งไล่ตามออกไป ซ่งซานสี่ก็จากไปไกลแล้ว

มองดูนามบัตรที่เขาทิ้งไว้ เมิ่งเสี่ยวหลันหลุดหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ 

“ฟรีแลนซ์ หนุ่มอินโทรเวิร์ตสายชอบใช้ชีวิต ซ่งซานสี่……”

หลังจากผ่านไป 20 นาที ณ โรงจอดรถนอกโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าลีล

ซ่งซานสี่จอดรถลงแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองรอบหนึ่ง

โรงงานนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่เลย

ไอ้แก่หยางต้าหลี่นั่น ทำงานเก่งจริง

หวนนึกกลับไปถึงอดีต โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของที่บ้านกว้างใหญ่กว่านี้อีก

หากซูโหย่วหรงชอบทำอาชีพเดิม เป็นเถ้าแก่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เขาไม่รังเกียจที่จะสร้างโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าขึ้นมาใหม่หนึ่งโรงงาน

แต่ตอนนี้เขาแค่อยากพาภรรยาไปเดินห้าง ซื้อเสื้อผ้าฤดูหนาวที่เหมาะกับเธอที่สุด และซื้อน้ำหอมเครื่องประดับที่หรูหราที่สุด มีหน้ามีตาที่สุด 

เดินมาถึงหน้าประตูห้องรปภ. ด้วยเสื้อผ้าที่หรูหราเรียบร้อย 

รปภ. ก็เห็นเช่นกันว่าเขาขับรถหรูมา จึงถามว่าคุณมาหาใครอย่างเกรงใจ?

ซ่งซานสี่บอกว่าผมมาหาซูโหย่วหรง

ตอนนี้ซูโหย่วหรงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก

เป็นนางแบบของโรงงาน งดงามอย่างยิ่ง สวยกว่าซุปตาร์ซะอีก

เหล่าคนงานอาจจะไม่รู้จัก แต่พวกรปภ. นั้นรู้จักทุกคนเลย

ปล่อยให้เขาเข้าไปโดยตรง และชี้ตำแหน่งออฟฟิศและห้องพักเที่ยงของซูโหย่วหรงให้เขาอย่างกระตือรือร้นด้วย บอกว่าตอนนี้เธอกำลังกินข้าวเที่ยงอยู่ น่าจะอยู่ในห้องพักเที่ยงฝั่งหอพักคนงานหญิง 

ซ่งซานสี่กล่าวขอบคุณอย่างเกรงใจ ก่อนจะไปตามหาซูโหย่วหรง

รปภ. สองคนที่มองดูเงาหลังนั่นอยู่ข้างหลังรู้สึกอิจฉามาก 

“เห้ออ คนสวยนี่เป็นอาหารของผู้ชายรวยจริง ๆ!”

“ก็ใช่ไง! ผู้ชายคนนั้นทั้งหนุ่มทั้งหล่อ แถมยังรวยขนาดนี้……”

“......”

ไม่นานนัก ซ่งซานสี่ก็มาถึงหอพักของเหล่าพนักงานออฟฟิศระดับกลางเป็นต้นไป

คนงานหญิงทั่วไปนั้นไม่มีเวลาและสถานที่พักผ่อน มากสุดก็แค่มีหอพักรวม  

สอบถามผู้ควบคุมรอบหนึ่ง แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่เชื่อใจเขา ถามว่านายเป็นใคร ที่นี่คือหอพักคนงานหญิง บุกรุกมั่วซั่วไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก