ใบหน้าของซูโหย่วซินแดงเถือกมากยิ่งขึ้น
ก้มหน้าถือปิ่นโตพลางพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ : “พวกเขาบอกว่า……พวกเขาบอกว่า……ยังไงก็ตาม พี่ให้เงินหนูมามากขนาดนี้แล้ว หนูไปซื้อข้าวกินเองได้นี่คะ! ไม่ต้องมาส่งให้หนูแล้ว โอเคไหมคะ?”
สุดท้ายเธอจึงรวบรวมความกล้า เงยหน้าขึ้นมามองซ่งซานสี่
ใบหน้าแดงเถือกไปจนถึงต้นคอ
ดวงตากลมโตที่งดงาม เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำตาที่เขินอาย แต่ก็ดูน่าเอ็นดูเล็กน้อย
ใบหน้าของซ่งซานสี่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงง “โหย่วซิน เธอเป็นอะไรกันแน่?”
“หนู…..หนู……”
ซูโหย่วซินยากที่จะปิดบังความเขินอาย จึงก้มหน้าพลางถอยหลังกลับไปอย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายก็ตอบกลับอย่างเร่งรีบ: “หนูไม่อยากให้พวกเขาบอกว่าพี่ชอบหนู ไม่รักเดียวใจเดียว……”
เสียงเบามากถึงมากที่สุด หลังจากพูดจบ ก็หันหลังเอามือปิดหน้าแล้ววิ่งกลับเข้าไปในตึกหอพัก
ร่างบางที่น่าหลงใหลนั่น เหมือนกำลังบินหนี
ซ่งซานสี่รู้สึกงงงัน: “......”
จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา
เด็กมัธยมปลายพวกนี้นี่นะ ในใจคิดแต่เรื่องอะไรกันเนี่ย?
เห้อ!
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเย่เสี่ยวหยูที่ยังเรียนมัธยมปลายในตอนนี้ จะประสบพบเจอกับคำซุบซิบนินทายังไงบ้าง?
เย่เสี่ยวหยูก็เป็นเด็กผู้หญิงที่งดงามมากถึงมากที่สุดคนหนึ่งเหมือนกัน
ซ่งซานสี่นึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองดูห้องทำงานของผู้ดูแลหอ
เงาร่างของป้าเมิ่งหายไปจากริมหน้าต่างแล้ว
ซ่งซานสี่ทราบมาโดยตลอดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีความรับผิดชอบมาก ๆ คอยแอบสอดส่องเขามาโดยตลอด
เขาจึงก้าวเท้ายาวเดินเข้าไปทันที
หยิบเงินสดออกมาสองหมื่น “ป้าเมิ่งครับ คุณรับเงินนี้ไว้นะครับ”
เมิ่งเสี่ยวหลันชะงัก “ซ่งซานสี่ นี่นายหมายความว่ายังไง?”
“ความคิดของเด็ก ๆ ว่องไว วิจารณ์คนอื่นในทางลบ และผมก็ไม่เหมาะที่จะมาส่งข้าวให้โหย่วซินต่อแล้วจริง ๆ รบกวนคุณช่วยเอาเงินก้อนนี้มอบให้โรงอาหารของโรงเรียน นี่คือค่าข้าวเดือนหนึ่งของโหย่วซิน บอกให้เซฟที่ดีที่สุดของโรงอาหาร ใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ทำอาหารให้โหย่วซินกินวันละสามมื้อ คุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และเป็นคุณป้าที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ ดังนั้นคุณก็ทานข้าววันละสามมื้อพร้อมกับโหย่วซินเถอะครับ! ถ้าเงินไม่พอคุณค่อยบอกผม”
เมิ่งเสี่ยวหลัน: “......”
สองคน ค่าครองชีพสองเดือน สองหมื่น
เธอไม่กล้าจินตนาการเลย!
แต่ทว่าซ่งซานสี่ทิ้งนามบัตรไว้หนึ่งใบ ก็หันหลังแล้วเดินจากไปเลย
เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร
เมื่อวิ่งไล่ตามออกไป ซ่งซานสี่ก็จากไปไกลแล้ว
มองดูนามบัตรที่เขาทิ้งไว้ เมิ่งเสี่ยวหลันหลุดหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ฟรีแลนซ์ หนุ่มอินโทรเวิร์ตสายชอบใช้ชีวิต ซ่งซานสี่……”
หลังจากผ่านไป 20 นาที ณ โรงจอดรถนอกโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าลีล
ซ่งซานสี่จอดรถลงแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองรอบหนึ่ง
โรงงานนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่เลย
ไอ้แก่หยางต้าหลี่นั่น ทำงานเก่งจริง
หวนนึกกลับไปถึงอดีต โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของที่บ้านกว้างใหญ่กว่านี้อีก
หากซูโหย่วหรงชอบทำอาชีพเดิม เป็นเถ้าแก่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เขาไม่รังเกียจที่จะสร้างโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าขึ้นมาใหม่หนึ่งโรงงาน
แต่ตอนนี้เขาแค่อยากพาภรรยาไปเดินห้าง ซื้อเสื้อผ้าฤดูหนาวที่เหมาะกับเธอที่สุด และซื้อน้ำหอมเครื่องประดับที่หรูหราที่สุด มีหน้ามีตาที่สุด
เดินมาถึงหน้าประตูห้องรปภ. ด้วยเสื้อผ้าที่หรูหราเรียบร้อย
รปภ. ก็เห็นเช่นกันว่าเขาขับรถหรูมา จึงถามว่าคุณมาหาใครอย่างเกรงใจ?
ซ่งซานสี่บอกว่าผมมาหาซูโหย่วหรง
ตอนนี้ซูโหย่วหรงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
เป็นนางแบบของโรงงาน งดงามอย่างยิ่ง สวยกว่าซุปตาร์ซะอีก
เหล่าคนงานอาจจะไม่รู้จัก แต่พวกรปภ. นั้นรู้จักทุกคนเลย
ปล่อยให้เขาเข้าไปโดยตรง และชี้ตำแหน่งออฟฟิศและห้องพักเที่ยงของซูโหย่วหรงให้เขาอย่างกระตือรือร้นด้วย บอกว่าตอนนี้เธอกำลังกินข้าวเที่ยงอยู่ น่าจะอยู่ในห้องพักเที่ยงฝั่งหอพักคนงานหญิง
ซ่งซานสี่กล่าวขอบคุณอย่างเกรงใจ ก่อนจะไปตามหาซูโหย่วหรง
รปภ. สองคนที่มองดูเงาหลังนั่นอยู่ข้างหลังรู้สึกอิจฉามาก
“เห้ออ คนสวยนี่เป็นอาหารของผู้ชายรวยจริง ๆ!”
“ก็ใช่ไง! ผู้ชายคนนั้นทั้งหนุ่มทั้งหล่อ แถมยังรวยขนาดนี้……”
“......”
ไม่นานนัก ซ่งซานสี่ก็มาถึงหอพักของเหล่าพนักงานออฟฟิศระดับกลางเป็นต้นไป
คนงานหญิงทั่วไปนั้นไม่มีเวลาและสถานที่พักผ่อน มากสุดก็แค่มีหอพักรวม
สอบถามผู้ควบคุมรอบหนึ่ง แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่เชื่อใจเขา ถามว่านายเป็นใคร ที่นี่คือหอพักคนงานหญิง บุกรุกมั่วซั่วไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก
อัพเดทหน่อยครับ...
อัพเดทหน่อยเถอะ...
อัพเดทตอนหน่อยครับแอด...