เจ้าพ่อกบฏโลก นิยาย บท 74

คาดไม่ถึงเลยว่าซ่งซานสี่จะเงียบงันไปชั่วขณะ

“โหย่วหรง ไม่ใช่ว่าผมเคยพูดไปแล้วเหรอ? หากคุณต้องการหย่า ผมสามารถทำให้ได้ แต่อย่างน้อย...”

ซูโหย่วหรงรู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร เช่นนั้นเธอจึงพูดขัดบทสนทนาเขา

“ไม่ต้องพูดถึงพันล้านอะไรนั่นหรอก เงินนั้นไม่ได้หามาได้โดยง่าย ฉันก็แค่อยากพาเถียนเถียนไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ในเมื่อยินดีที่จะหย่า ในตอนบ่ายหากทนายของฉันติดต่อคุณไป คุณก็เซ็นชื่อให้เรียบร้อย อย่างไรเสียฉันก็เซ็นชื่อไปแล้ว หากคุณมีเงื่อนไขเพิ่มเติม คุณสามารถแจ้งเขาได้เลย”

“โอเค ให้ทนายติดต่อผมมาก็แล้วกัน ผมจะคุยกับเขา”

“โอเคค่ะ”

หลังจากวางสาย ซุโหย่วหรงจ้องมองพี่สาวด้วยท่าทีประหลาดใจมาก

ซูโหย่วชิงเองก็สับสนเช่นกัน

สองพี่น้องต่างก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

ปฏิกิริยาของซ่งซานสี่นั้นเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก

“โหย่วหรง ซ่งซานสี่ไม่โกรธ ไม่ระเบิดอารมณ์ เธอไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติเหรอ?”

“จะปกติหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว คนแบบนี้ ฉันไม่สามารถอยู่ร่วมกับเขาได้อีกแล้ว”

“อันที่จริง...” ขณะที่ซูโหย่วชิงกล่าว เธอยิ้มขื่นขมอีกครั้งและส่ายศีรษะ “เธอไม่คิดว่านิสัยของเขานั้นเปลี่ยนไปมากและไม่คิดว่าเขากำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยงั้นเหรอ?”

“แล้วเรื่องผู้หญิงหม้ายคนนั้น จะอธิบายยังไง? หลี่รุ่ยหยาง จะอธิบายได้อย่างไร?”

ซูโหย่วชิงถึงกับพูดไม่ออก เธอส่ายศีรษะ “แล้วถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิดล่ะ?”

“เข้าใจผิด?” ซูโหย่วหรงเลิกคิ้วขึ้น “พี่เขยจะทำร้ายฉันงั้นเหรอ? หลี่รุ่ยหยาง ฉันเห็นทุกอย่างเองกับตา พี่ใหญ่ พี่เป็นอะไรไป เข้าข้างเขาเหรอ?”

“ไม่ใช่...” ใบหน้าของซูโหย่วชิงแดงก่ำ “เธอคือน้องสาวของฉัน ฉันจะไม่เข้าข้างเธอได้อย่างไร? เพียงแต่หลายวันที่ผ่านมา สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าซ่งซานสี่นั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาได้ทำเรื่องที่เขาไม่ควรจะทำ”

“นั่นก็คือความรู้สึกเท่านั้น ความรู้สึกสามารถหลอกลวงกันได้ เขาเป็นโรคนั้น สามารถอยู่ได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร ยังทนอยู่ได้อย่างไร? คุณว่าใช่หรือไม่?”

ขณะกล่าว ใบหน้าของสองพี่น้องพลันแดงระเรื่อ

ภายในความคิดของทุกคนต่างก็ตระหนักได้

ซูโหย่วชิงทอดถอนหายใจและกล่าว “เฮ้อ ก็ใช่..ไม่พูดแล้ว ไปกันเถอะ วันนี้มื้อเที่ยงพาเถียนเถียนไปทานอาหารยุโรปกันไหม?”

“ดีเลย! พวกเราไปร้านอาหารฝรั่งยูโรปากันไหม?”

“ได้เลย! ราคาแพงหน่อย แต่บรรยากาศดีมาก รสชาติอาหารก็ไม่เลว ฉันเลี้ยงเอง”

“ไม่ได้สิพี่ใหญ่ ฉันเลี้ยงเองดีกว่า! รายรับของฉันสูงกว่าพี่มากนะ! หลังจากนี้ชีวิตในแต่ละวันของฉันก็จะยิ่งดีขึ้น น่าเสียดาย ไม่สามารถเรียกน้องสามออกมาทานอาหารด้วยกันได้...”

สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ซูโหย่วหรงและซ่งซานสี่มาทานอาหารด้วยกันเป็นครั้งแรก

ทว่าซ่งซานสี่ในเวลานั้นหยิ่งยโสและมีทิฐิ

ทานอาหารยุโรป สั่งสุดยอดอาหารฝรั่งเศสแห่งจงไห่ในราคา 5,000 หยวน

จากนั้น เรียกพนักงานให้มาหั่นเนื้อสเต็กเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นให้นำตะเกียบมาคู่หนึ่ง

ในตอนนั้นมีเงิน เป็นคนอารมณ์ร้อน

ตอนนี้ เมื่อได้ลองคำนวณดูแล้ว เวลาผ่านมาเนิ่นนานนับสองปีแล้วที่ไม่ได้ไปทานอาหารที่นั่นเลย

เถียนเถียนอยากทานอาหารยุโรปมาโดยตลอด!

แต่ทว่าที่บ้านนั้นไม่มีเงิน!

แต่ตอนนี้หลังจากตัดสินใจหย่า ซูโหย่วหรงเองก็มีเงินติดตัวอยู่หลายพันหยวน

ดังนั้นสามารถฟุ่มเฟือยได้เล็กน้อย

ทางด้านนี้ ซ่งซานสี่กำลังขับรถ เตรียมตัวทานอาหารกลางวันก่อน จากนั้นจะไปเยี่ยมฮู๋ห่ายเม่ยที่โรงพยาบาล

รถของเขาขับตรงไปยังร้านอาหารฝรั่งยูโรปา

ร้านอาหารยุโรปแห่งจงไห่ ในสายตาของเขามีเพียงแค่ยูโรปาเท่านั้น

ในชีวิตนี้ เขาออกมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุสิบหกปี เขาทำงานอยู่ที่นี่สองปีจากนั้นก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัย

เมื่อไปถึงที่นั่น รถมายบัคได้รับการต้อนรับอย่างดีที่สุดจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในลานจอดรถ

คนผู้นั้นนำทางรถไป ขับผ่านลานจอดรถโล่งกว้าง เข้าไปยังลานจอดรถด้านใน

ขึ้นลิฟต์เฉพาะ

ขึ้นไปยังชั้นสอง โซนจอดรถวีไอพี

บริเวณนั้นมีพนักงานสาวสวยคอยต้อนรับโดยเฉพาะ

ซ่งซานสี่เลือกโซนทานอาหารที่ดีที่สุด

มองเห็นรอบข้างได้อย่างกว้างขวาง เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์

ขณะที่กำลังจะสั่งอาหาร ชำเลืองมองไปยังลานจอดรถโล่งกว้างที่อยู่ด้านล่าง

ตู้ไห่ผิงขับรถสภาพยับเยินของเขาและเพิ่งจอดรถ

สองพี่น้องซูโหย่วหรงพาเถียนเถียนมาด้วยและกำลังจะลงจากรถเช่นกัน

เถียนเถียนสวมเสื้อผ้างดงามที่ซ่งซานสี่ซื้อมาให้ จูงมือคุณแม่พลางกระโดดโลดเต้น

เป็นเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยที่มีชีวิตชีวาและดูน่ารักน่าชัง

ซูโหย่วหรงไม่ได้แต่งเติมใบหน้าของเธอ เธอยังดูอ่อนวัยมากและงดงามเป็นอย่างมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก