เจ้าพ่อกบฏโลก นิยาย บท 86

สรุปบท บทที่ 86 หน้าที่ของภรรยา: เจ้าพ่อกบฏโลก

สรุปเนื้อหา บทที่ 86 หน้าที่ของภรรยา – เจ้าพ่อกบฏโลก โดย Anonymous

บท บทที่ 86 หน้าที่ของภรรยา ของ เจ้าพ่อกบฏโลก ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anonymous อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ทะเลสาบหนิงไห่ ได้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว

บนผิวน้ำแข็ง มีผู้ใหญ่และเด็กเล่นสเกตน้ำแข็ง ค่อนข้างเยอะ

พระอาทิตย์ยามตกดินนี้ แสงอบอุ่นอ่อนโยน

สองพี่น้องตระกูลซู เดินชมทิวทัศน์อยู่บนถนนริมแม่น้ำ

พี่สาวคนโตเพียบพร้อมและสง่างาม ขนาดรูปร่างเตี้ยกว่าเล็กน้อย มีรูปลักษณ์เป็นสาวอ่อนหวานและใจดีเป็นอย่างมาก

ดวงตาที่อบอุ่นนั้น มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวานมากๆคนหนึ่ง

ซูโหย่วหรงน้องสาว เป็นคนหัวแข็งสติปัญญาดี

ใบหน้ายิ่งงดงาม ดวงตาเย็นชาเป็นประกาย

แวบแรก เธอก็คือเทพธิดาที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง

สองคนพี่น้องเดินอยู่ในสายลมยามเย็น ดึงดูดสายตาของผู้คนที่สัญจรมากมาย

บนลานสเกตบนพื้นผิวทะเลสาบ มีบางคนมองพวกเธอ ไม่ระวัง ล้มบ้าง หรือชนบ้าง

ทำให้เกิดเสียงหัวเราะดังมาเป็นระลอกๆ

เรียกได้ว่า สองพี่น้องคู่นี้สวยมากเลยทีเดียว

ซูโหย่วชิงพูดเสียงเบา: “โหย่วหรง รู้สึกไหมว่า ซ่งซานสี่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เปลี่ยนไปจนทำให้รู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อเกินไป”

ซูโหย่วหรงพยักหน้า ไม่รู้จะพูดอะไร

ถึงแม้ว่า เธอจะรับปากซ่งซานสี่ เก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ

แต่ ก่อนที่เธอยังไม่ได้หาข้อพิสูจน์เสร็จสิ้น อย่างไรก็ยังไม่ต้องเชื่อเขามากเกินไปจะดีกว่า

เธอเองก็ตัดสินใจ ยังคงจะทำงานตามเดิม

เงินที่ซ่งซานสี่ให้ ยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้

ถ้าหากว่า วันใดวันหนึ่งที่ชายหนุ่มคนนี้กลายเป็นคนเลวขึ้นมาอีกครั้ง

หญิงสาว ยังคงจะต้องพึ่งพาตนเอง

“ถ้าหากเขาเป็นแบบนี้ตลอดไป ก็คงจะดี เธอกับเถียนเถียน ก็ไม่ต้องรับความลำบากมากมายแบบนั้นแล้ว ใช่แล้ว เธอได้ถามเขาแล้วหรือยัง การตัดสินลงโทษของแม่หม้ายคนนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ซูโหย่วหรงยิ้มด้วยความเจ็บปวดทันที พูดว่า: “เคยถาม พี่เขยพูดเกินจริงไปหน่อย แม่หม้ายชื่อว่าหลินลั่วเจียว ตัดสินลงโทษเหมือนว่าจะใส่ร้ายไปหน่อย เธอมีลูกสาวฝาแฝดคู่หนึ่ง ยังเป็นเพื่อนนักเรียนกับเถียนเถียน ความสัมพันธ์ดีมากๆ”

“หา? งั้นหรือ? นี่มันบังเอิญมาก หรือว่าที่ทั้งสองคนได้รู้จักกัน ก็คือที่โรงเรียนอนุบาล?”

“พวกเขา......”ซูโหย่วหรงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คิดถึงที่ซ่งซานสี่อธิบายขึ้นมา พูดโน้มน้าวด้วยเจตนาดี ด้วยเหตุนี้ จึงพูดว่า:

“หลินลั่วเจียว เบื้องหลังมีบุคคลใหญ่โตเปิดบริษัทอยู่ เธอกำลังช่วยดูแล บุคคลใหญ่โตคนนี้เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของบิดาซานสี่ การเปลี่ยนแปลงของซานสี่ มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลใหญ่โตคนนี้ บุคคลใหญ่โตใช้ชีวิตเงียบๆ ไม่เผยตัวตนต่อสังคม ซานสี่บอกว่า อย่าได้สืบข่าวของเขาโดยเด็ดขาด”

“อ่อ......”ซูโหย่วชิงพยักหน้า อดไม่ได้ที่จะเชื่อ “แล้ว......นี่ก็สุดยอดแล้วละ! โหย่วหรง ดูเหมือนว่า มีบุคคลใหญ่โตคอยกดเอาไว้ ซานสี่จะไม่กลายเป็นคนเลวอีกแล้ว”

“ใครจะไปรู้กับเขาละ? อย่างไรก็ตาม หลายปีมานี้ เขาก็เลวมามากแล้ว”

“แต่ว่า เธอดู หลายวันมานี้ เขาทั้งเล่นหุ้น ทั้งทำกับข้าว ทำงานบ้าน แถมยังใจกว้างขนาดนี้ มอบรถให้พวกเราคนละคัน เขาปฏิบัติต่อเธอ ก็คือจริงใจใช่ไหมล่ะ? เบนท์ลี่ย์ สู้รถมายบัคคันนั้นที่เธอขับเมื่อก่อนนี้ ที่เขาขับอยู่ตอนนี้ไม่ได้ แต่ว่าที่จงไห่ ก็คือรถหรูชั้นหนึ่งนะ!”

ซูโหย่วหรงยิ้ม ส่ายหน้า “พี่ เสียเปรียบถูกหลอกมามากแล้ว ฉันไม่เหมือนพี่แบบนั้น ไม่ขี้ระแวงอะไร คนอื่นทำไร ก็คือแบบนั้น ยังไงฉันป้องกันไว้สักหน่อยดีกว่า ผู้หญิง บางทีก็พึ่งพาผู้ชายไม่ได้ ยังไงก็ต้องพึ่งพาตนเองนะ!”

ซูโหย่วชิงรู้นิสัยของน้องสาว พยักหน้า “ที่เธอพูดก็ถูก แต่ว่า พี่คิดว่าซ่งซานสี่ในตอนนี้ ยังสามารถพึ่งพาได้อยู่ พวกเธอ ก็ไม่ต้องหย่ากันหรอก ยังไงก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิต เข้าใจไหม?”

“ใช้ชีวิต?”

ซูโหย่วหรงมองดูสีหน้าท่าทางของพี่สาว อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง

พี่สาว พูดอย่างมีเลศนัย

แต่ว่าเวลานี้ คิดๆดูแล้ว ซูโหย่วหรงก็เขินอายอยู่บ้างเล็กน้อย

ถึงขนาด มีความหวาดกลัวอยู่บ้างเล็กน้อย

ซ่งซานสี่ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ซูโหย่วชิงเมื่อก่อน ก็เคยได้ยินซูโหย่วหรงพูด

อีกทั้ง ซูโหย่วชิงเองก็เคยมีประสบการณ์

นั่งลงบนม้านั่งยาว กำลังถอดรองเท้าสเกต

ซูโหย่วหรงมองดู ไม่ใช่ผู้ชายที่พามาเยี่ยมบ้านตอนเช้าวันนั้น อดไม่ได้ที่จะดูถูกเป็นอย่างยิ่ง

เธอดึงซูโหย่วชิงทันที เดินอ้อมแล้วจากไป

ไม่อยากคบค้าสมาคมกับคนต่ำช้าประเภทนี้

เกาเสี่ยวหลินกลับเปลี่ยนเป็นรองเท้าบูต เดินตามมา “ซูโหย่วหรง เธอหยุดเดินเดี๋ยวนี้นะ!”

ซูโหย่วหรงกล่าวอย่างดูแคลน: “พวกเราไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ขอเชิญเธอหลีกทาง”

“อะไรไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน? เฮอะเฮอะ......”เกาเสี่ยวหลินหัวเราะเยาะ “แน่นอนว่าพวกเราไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ตอนนั้น ที่ฉันเข้าคือมหาลัยรอบที่สอง(นักศึกษาระดับปริญญาตรีรอบที่สองคือการรับสมัครระดับปริญญาตรีทั่วไป) เธอคือรอบที่สาม(การรับเข้าศึกษในระดับปริญญาตรีของเอกชน) ตอนนี้เธอ ยังทำงานอยู่ที่โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ละมั้ง? สามีไม่เอาไหน ทุบตีภรรยาและลูก เป็นคนเลวละมั้ง? แต่แฟนหนุ่มของฉัน......”

ในขณะที่กำลังพูด แฟนใหม่ของเกาเสี่ยวหลินก็เดินเข้ามา

ชายหนุ่มคนนี้ สูงใหญ่ อ้วนเล็กน้อย ยิ้มแย้ม

“โอ้ เสี่ยวหลิน นี่เป็นใครกันนะ? เพื่อนเก่าหรือ?”

แฟนใหม่มองสองพี่น้องตระกูลซู เรียกได้ว่าตกใจราวกับเห็นนางฟ้า

โดยเฉพาะซูโหย่วหรง เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ

เมื่อเปรียบเทียบกับเธอ เกาเสี่ยวหลินนั้นก็ด้อยกว่าหน่อย

เกาเสี่ยวหลินหัวเราะเฮอะเฮอะทันที “พี่สวี มา ฉันจะแนะนำพวกเธอให้รู้จัก นี่ คือซูโหย่วหรงเพื่อนสมัยมัธยมปลายของฉัน ปีศาจจิ้งจอกที่หน้าไม่อายคนหนึ่ง......”

ซูโหย่วหรงโมโหแล้ว ใบหน้าเย็นชา “เกาเสี่ยวหลิน เธออย่าว่าร้ายคนอื่น! ฉันไม่มีเวลามาหลับหูหลับตาเสียเวลาให้เธอที่นี่หรอกนะ แล้วก็ไม่มีเวลาสนใจเธอด้วย!”

พูดจบ ก็ดึงมือของซูโหย่วชิง หันหน้ากลับแล้วก็เดินกลับไป

เกาเสี่ยวหลินอยู่ด้านหลัง กล่าวอย่างดูแคลน: “ผู้หญิงสารเลว จะหนีไปไหนละ ยางอายหมดแล้วละซิ? พี่สวี ฉันจะเล่าให้พี่ฟังนะ สามีของเธอน่ะ เทียบกับพี่ไม่ติดเลย นั่นก็คือไอ้คนไม่เอาไหน คนเลว! ตอนนั้น......”

โหย่วชิงอดเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว หันหน้ากลับไปกล่าวอย่างเคร่งขรึม: “เกาเสี่ยวหลิน เธอพอได้แล้ว! น้องเขยของฉันไม่ใช่คนไม่เอาไหน แล้วก็ไม่ใช่คนเลวอะไร เขาเป็นผู้ชายที่ดี เป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นความหวังของคนในครอบครัว!”

เกาเสี่ยวหลินหัวเราะชอบใจทันที เปลี่ยนเป็นเกาะแขนของแฟนใหม่ “ถุย ซ่งซานสี่คนน่าขยะแขยงคนนั้น เขาจะมาเปรียบกับพี่สวีของฉันได้งั้นหรือ! พี่สวีของฉัน สวีเจิ้งหลง ลูกเจ้าของบริษัทลวี่อี้อสังหาริมทรัพย์สาขาจงไห่ ผู้จัดการใหญ่ ที่อายุน้อย รูปหล่ออ่อนโยน มีทรัพย์สินแปดสิบล้าน ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์S600 ซ่งซานสี่ละ ยังคงขี่จักรยานเก่าๆอยู่เลยละมั้ง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก