เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 337

สรุปบท ตอนที่ 337 อ่านาจที่น่าเกรงขาม: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 337 อ่านาจที่น่าเกรงขาม – เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet

บท ตอนที่ 337 อ่านาจที่น่าเกรงขาม ของ เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

Sign in Buddha’s palm 337 อ่านาจที่น่าเกรงขาม

เทพธิดาไท่อน

หนึ่งในว่าที่เทพธิดาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลักไก่อินจากประตูเซียน ทั้งความสามารถและพรสวรรค์นั้นสูงที่สุดในกลุ่มคนทั้งห้า

ถ้าไม่ใช่เพราะความสําคัญของตราประทับไก่อินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลักไก่อินและเพราะความกังวลในการมอบสมบัติล้ําค่านี้ให้กับศิษย์สาวกคนอื่นๆก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เทพธิดาท่อนจะมาโลกมนุษย์ด้วยตนเอง

เวลาผ่านไปกว่าหมื่นปี แม้แต่ผู้คนภายในประตูเซียนก็ไม่รู้ว่าโลกมนุษย์ในปัจจุบันเป็นเช่นไร

เมื่อเทพธิดาไท่อนลงมือ ร่วมกับการต่อต้านของเซียนเทพปฐพี่ทั้งสี่ สายฟ้าสีม่วงที่ปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าก็ค่อยๆ หายไป

เมฆด่าลอยหายไปเผยให้เห็นท้องฟ้ากว้างไกล

ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอและคนอื่นๆ ที่เหลือก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เป็นการยากที่จะซ่อนความตกใจที่แสดงออกมาผ่านสีหน้า

แม้พวกเขาทั้งสี่จะไม่ใช่เซียนเทพปฐพี่ขั้นแบ่งจิตระดับสูงสุด แต่เมื่อพวกเขารวมพลังกันใช้พลังออกจนสุดตัวย่อมพอจะต่อกรกับจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตได้ แต่ซูฉินที่อยู่เบื้องหน้าใช้ทั้ง ฝ่ามือมีด หมัดก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้แล้ว ในตอนสุดท้ายยังเรียกสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าออกมาอีก

ถ้าไม่ใช่เพราะเทพธิดาไท่อินแม้ว่าทั้งสี่คนจะยังไม่ตายแต่ก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัส

พลังอันน่ากลัวนี้มันคือสิ่งใด?

เมื่อเทียบกับบุตรสวรรค์และเทพธิดาจากประตูเซียนก็ไม่นับว่าต่างกันมากเท่าไหร่มิใช่หรือ?

“น่าเสียดายจริงๆ”

ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนทั้งห้าสามารถปิดกั้นหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากได้

แม้ว่าหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากจะเป็นกระบวนท่าไม้ตายธาตุสายฟ้า แต่คนทั้งห้าที่อยู่เบื้องหน้านี้ก็ล้วนเป็นคนจากประตูเซียน ห่างชั้นไปไกลหากจะนํามาเทียบเซียนเทพปฐพีอย่างเหลยเฉียนจือที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต โดยเฉพาะเทพธิดาไท่อินที่ลงมือในตอนสุดท้ายไอพลังรุนแรงมากคาดว่าใกล้จะถึงจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้ว

แม้ว่าความแข็งแกร่งของซูฉินจะครอบงําผู้คน แต่ก็ค่อนข้างยากที่จะปราบเซียนเทพปฐพี่ทั้งห้าซึ่งหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต

แน่นอนว่าเหตุผลคือซูฉันยังไม่ได้ใช้ไพ่ในมืออย่างจริงจังหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ากระบวนท่าสังหารที่ซูฉินได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้บนเกาะเทพเจ้าสายฟ้ามันยังห่างไกลจากไพ่ลับในมือของเขาอีกมาก

“เจ้ากล้าที่จะหยุดยั้งข้า เจ้าไม่กลัวความตายหรือ?” ซูฉันมองไปที่เทพธิดาไท่อน ถ้าไม่ใช่เพราะการเคลื่อนไหวของเทพธิดาไทอิน อย่างน้อยกลุ่มของชายท่าทางอ่อนแอคงจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

“พรรคพวกจากประตูเซียน หากพวกเขาตายไปจนหมด ข้าคงไม่สามารถอธิบายสิ่งใดได้ยามเมื่อกลับไป”เทพธิดาไท่อินมีน้ำเสียงที่เย็นชาแต่สีหน้าที่ดูเคร่งเครียดของนางแสดงให้เห็นว่านางไม่ได้สงบเหมือนอย่างที่เห็นภายนอก

ในสายตาของกลุ่มชายท่าทางอ่อนแอทั้งสี่คน หลังจากที่เทพธิดาไท่อนเคลื่อนไหวพวกเขาก็สามารถปิดกั้นสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้ ซึ่งดูเหมือนจะเทียบได้กับซูฉิน

มีเพียงแค่เทพธิดาไท่อนเท่านั้นที่รู้ว่าราคาที่ต้องจ่ายไปมันมากเท่าไหร่

จนถึงตอนนี้เทพธิดาไก่อินยังคงรู้สึกชาตามร่างกายเล็กน้อย

“นอกจากนี้ แม้ว่าข้าจะไม่เคลื่อนไหว แต่ข้านั้นจะรอดหรือหากสหายเต่สังหารพวกเขาไปหมดแล้ว?”ความรู้สึกไร้หนทางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเทพธิดาไท่อน

เนื่องจากซูฉันรู้จักประตูเซียน เป็นปกติที่เขาจะต้องรู้ว่ามันเป็นมรดกที่สืบทอดมาจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุดด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากซูฉันเลือกทําอะไรบางอย่างกับกลุ่มของชายท่าทางอ่อนแอเขาจะไม่มีวันปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่และกลับไปรายงาน

กล่าวอีกนัยหนึ่งหากเทพธิดาไท่อนไม่ต้องการจะถูกไล่ล่าโดยซูฉิน นางก็จําเป็นจะต้องร่วมมือกับเซียนเทพปฐพีทั้งสี่เท่านั้น

“เจ้าฉลาดน” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

เขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยเทพธิดาไก่อินไปจริงๆ เมื่อเลือกที่จะลงมือแล้ว ก็ต้องขุดรากถอนโคนให้เพี้ยน

“เมื่อเป็นเช่นนั้น”

ในบรรดาคนทั้งห้า ชายชราคิ้วขาวเป็นคนที่รู้สึกกดดันมากที่สุด เขาเก่งในด้านการใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดซึ่งอ่อนแอกว่าเซียนเทพปฐพีคนอื่นๆ ทั้งในด้านร่างกายและพลังแห่งกฎเกณฑ์ธรรมชาติ

เพียงแต่ว่าซูฉันน่าจะกลัวการโจมตีจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดน้อยที่สุดแล้วด้วยองค์ยูไลทองค่าภายในกึ่งกลางระหว่างคิ้วของซูฉินทําให้สามารถป้องกันการโจมตีทางจิตวิญญาณได้ทั้งหมด

ดังนั้นแม้ว่าชายชราคิ้วขาวจะใช้ท่าไม้ตายจิตวิญญาณแรกกําเนิดใส่ซูฉินมากเพียงไรมันก็เหมือนเพียงก้อนหินที่ตกลงบนพื้นมหาสมุทรเกิดคลื่นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในทางกลับกันผลจากหมัดที่ปล่อยออกไปส่งๆของซูฉินกลับเพียงพอที่จะทําร้ายชายชราคิ้วขาว

การต่อสู้ของทั้งคู่ไม่มีความเท่าเทียมกันแต่ประการใด

ถ้าไม่ใช่เพราะเทพธิดาไปอินที่มาอยู่ด้านข้างเป็นครั้งคราว ชายชราคิ้วขาวคงจะต้องตกตายเป็นคนแรกอย่างแน่นอน

“จงมอบชีวิตมาให้ข้า!?”

ก่อนที่หมานโหยวชายร่างกํายําจะก้าวไปด้านหน้าตาของเขาก็กลายเป็นสีแดงเลือดและเส้นผมที่เป็นสีดําก็เปลี่ยนไปเป็นสีขาวตั้งแต่รากยันปลายผม ผิวมันเงามีสีเข้มมากขึ้น

ทําให้ชายร่างกายได้รับแรงผลักดันบางอย่าง ก้าวข้ามขั้นแบ่งจิตระดับกลางไปอย่างรวดเร็วพุ่งไปถึงจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต

เห็นได้ชัดว่าหมานโหยวนผู้นี้เริ่มลงมือสุดกําลัง วิธีที่เขาใช้เพิ่มความแข็งแกร่งเป็นทักษะต้องห้ามแม้จะมาจากประตูเซียนแต่ก็มันสร้างความเสียหายอย่างมากต่อแก่นแท้แห่งพลังแม้จะใช้ออกเพียงครั้งเดียว

“ฮ่าฮ่า….”

ซูฉินหัวเราะออกมา กําหมัดขวา เหวี่ยงตัดอากาศประทับเข้าที่หน้าอกต่อหน้าสายตาเหลือเชื่อของชายร่างกาย่าบูม!

หมานโหยวชายร่างกําย่ากระเด็นลอยกลับหัวกลับหาง กระแทกพื้นอย่างรุนแรง

“เจ้า?!”

หมานโหยวกระอักเลือด มันมีแม้กระทั่งเศษอวัยวะภายในไหลออกมา ริมฝีปากของเขากระตุกต้องการจะพูดบางอย่างแต่สายตาของเขาเริ่มหม่นแสงสุดท้ายก็ดับลงไม่เหลือแววตาแห่งชีวิตอีกต่อไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]