เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 338

สรุปบท ตอนที่ 338 (1) พังทลายสิ้น: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

สรุปตอน ตอนที่ 338 (1) พังทลายสิ้น – จากเรื่อง เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet

ตอน ตอนที่ 338 (1) พังทลายสิ้น ของนิยายActionเรื่องดัง เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

Sign in Buddha’s palm 338 (1) พังทลายสิ้น

ร่างกายกําย่าของหมานโหยวทรุดตัวลงไปในทันที

แม้ว่าหมัดของซูฉันดูเหมือนจะกระแทกเบาๆ ลงบนหน้าอก แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แพร่ไปทั่วทั้งร่างในทันที แม้ว่าชายร่างกําย่าจะแข็งแกร่ง มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนทั้งห้าจากประตูเซียนแต่เขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งการทําลายล้างร่างกายอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ได้

หวิ่ง!!

ช่วงเวลาต่อมา

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของชายร่างกํายําหมานโหยวก็ทะยานออกมาจากร่างมองไปที่ซูฉินด้วยท่าทางหวาดกลัว

เมื่อเปรียบเทียบกับขอบเขตตํานานยุทธแล้วนั้น จิตวิญญาณแรกกําเนิดของเซียนเทพปฐพี่จะถูกควบแน่นจนถึงขีดสุด

ด้วยเหตุนี้ แม้ร่างกายจะตกตาย แต่จิตวิญญาณแรกกาเนิดของชายร่างกายก็ยังรอดชีวิตมาได้

แต่ก็เท่านั้น ความสามารถส่วนใหญ่ของชายร่างกําย่ามาจากกายเนื้อไม่เหมือนกับชายชราคิ้วขาว

ในตอนนี้เขาสูญเสียร่างกายไปซึ่งเทียบเท่าได้กับการทําลายล้างจนสิ้น แม้จะไม่ถึงขนาดได้ทางสู้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างเซียนเทพปฐพี

“ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?” หมานโหยว ชายร่างกําย่าจ้องมองไปที่ซูฉินเขาไม่เข้าใจว่าตัวเขาที่ทรงพลังในด้านกายภาพถึงขั้นที่แม้จะเจอเข้ากับเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดแต่ถ้าวัดกันด้วยพลังกายก็คงไม่สามารถจัดการได้ด้วยเวลาสั้นๆ แต่นี่ซูฉินกลับสังหารได้ในหมัดเดียว?

“เจ้าพูดจาไร้สาระเกินไปแล้ว” ดวงตาของซูฉันดูเหมือนแสงอาทิตย์แผดเผาเปลวเพลิงสีทองทอดผ่านระยะทางหลายพันเมตร เข้าปกคลุมจิตวิญญาณแรกกาเนิดของชายร่างกาย่า

ดวงตาตะวันสีทอง

ทิพยอานาจธาตุไฟได้ถูกเปิดเผยต่อโลกหล้าอีกครั้ง

“ไม่ดีแล้ว!”

ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดของหมานโหยวดูหวาดกลัว รีบถอยหนี้ ปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาอย่างเต็มที่ แต่ทั้งหมดนั้นมันไร้ประโยชน์

เปลวเพลิงสีทองเข้าโอบล้อมตัวเขาทันที

เห็นชายร่างกํายาที่เหลือเพียงจิตวิญญาณแรกกําเนิดกรีดร้องออกมา จากนั้นจิตวิญญาณก็ถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงสีทองจนกลายเป็นความว่างเปล่า

“นี่?”

ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอและคนอื่นๆ มองดูหมานโหยว ชายร่างกําย่าที่หายตัวไปอย่าง สมบูรณ์ พวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย
สิ่งที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วจนเกินไป

ในสายตาคนทั้งหลาย เห็นเพียงซูฉินชกเข้าที่หน้าอกของชายร่างกํายําจากนั้นชายร่างกําย่าก็ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วทันใดนั้นดวงตาของซูฉินก็ปล่อยเปลวเพลิงสีทองออกเผาชายร่างกําย่าที่เหลือแต่จิตวิญญาณจนไม่หลงเหลือสิ่งใด

แม้ว่าจะเป็นเทพธิดาไปอิน เมื่อนางรู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่จิตวิญญาณแรกกําเนิดของชายร่างกํายําตกอยู่ในเปลวเพลิงสีทองไปเสียแล้วสายเกินกว่าจะช่วยเหลือ

“หมานโหยวตายแล้ว?”

ชายชราคิ้วขาวหนังศีรษะชาวาบ

ในบรรดาคนทั้งห้า หมานโหยวมีร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่หมานโหยวยังไม่สามารถทนต่อหมัดของซูฉินได้ ตัวเขาจะไปเหลืออะไร?

ชายชราคิ้วขาวรู้กําลังของตนเองดี เขาเก่งกาจในด้านการใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดแต่กายเนื้อกลับเปราะบางอย่างยิ่งแม้ว่าเมื่อเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีร่างกายจะถูกขัดเกลาด้วยทะเลปราณกลายเป็นกายแห่งธรรมชาติแต่ก็เป็นกายแห่งธรรมชาติระดับต่าที่สุด

ไม่ต้องพูดถึงร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินแค่นําไปเทียบกับร่างกายของเหลยเฉียนจือหรือจอมยุทธคนอื่นๆที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็ยังนับว่าห่างไกล

และในตอนนี้

หลังจากที่ซูฉินสังหารหมานโหยวด้วยดวงตาตะวันสีทองจนสลายหายไปสิ้นร่างของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไปเหลือแต่เพียงภาพติดตา

“ไม่ดี!”

เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของเซียนเทพปฐพีอีกสี่คนก็เปลี่ยนไปกะทันหัน เมื่อได้เห็นบทเรียนจากชายร่างกายก่อนหน้านี้แม้จะเป็นเทพธิดาไทอินก็ไม่เต็มใจจะต้านรับการโจมตีของซูฉิน

น่าเสียดาย

ท้องฟ้าผืนดินพลันมืดมิด ประกายคมมีดสีดําปรากฏขึ้นในอากาศ ทรงพลังจนดูเหมือนจะตัดผ่านท้องฟ้าและผืนดินออกได้
ฉับ

ด้วยรัศมีพลังนี้ จิตวิญญาณแรกกําเนิดของเด็กหนุ่มถูกกัดกันอย่างรวดเร็ว ในที่สุดจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ตกลงสู่ความมืดมิด

ศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาดาบสวรรค์ตกตายอย่างสมบูรณ์เพียงเวลาไม่นานหลังจากนั้น

นอกเหนือจากความคมของมีดเทพเจ้าปีศาจ ไอพลังจากขุมนรกที่แปลกประหลาดก็ยังสามารถยับยั้งพลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

“เมื่อครู่ข้าแค่เล่นกับเจ้านิดๆ หน่อยๆ น่ะ” ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย

คมมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นสมบัติที่ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ในโลกถปีศาจใต้พิภพ ซึ่งสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าปีศาจจากส่วนลึกของโลกถปีศาจ

ตอนนี้ซูฉินอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต ครึ่งก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดควบคู่ไปกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําเมื่อคมมีดเทพเจ้าปีศาจถูกตวัดออกก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารเซียนเทพปฐพี่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในขั้นแบ่งจิตภายในไม่กี่วินาที

แน่นอน

คมมีดเทพเจ้าปีศาจไม่ใช่ไม่มีข้อบกพร่อง

นั่นคือคมมีดเทพเจ้าปีศาจนั้นสามารถหลบหลีกได้

นี่คือเหตุผลว่าทําไมซูฉินถึงต้องตวัดคมมีดเทพเจ้าปีศาจในระยะร้อยเมตรใกล้เด็กหนุ่มหนึ่งเป็นเพราะเด็กหนุ่มไม่คิดว่าคมมีดเทพเจ้าปีศาจจะสามารถเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้และอีกอย่างระยะประชิดขนาดนี้เป็นเรื่องยากที่คู่ต่อสู้จะหลบหลีกทันฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

ซูฉันก็เปลี่ยนทิศทางมือและฟันไปทางชายท่าทางอ่อนแอ

แสงใบมีดสีดําสนิทตัดผ่านอากาศ ภายในเวลาไม่นานก็เกือบจะไปถึงหน้าชายท่าทางอ่อนแออยู่แล้ว

เมื่อเห็นคมมีดเล่มนั้น ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอก็ตกใจกลัว ร่างของเขากลายเป็นสายลมไร้รูปร่างซ่อนตัวห่างออกไปหลายลี้มองดูคมมีดของซุฉินตัดส่วนหนึ่งของภูเขาออกอย่างง่ายดายเห็นแบบนั้นเขาก็หวาดกลัวจนหัวหด

“โชคดีที่หุบเขาเทพพระพายของข้านั้นเก่งในเรื่องความว่องไวไม่เช่นนั้นคงถูกทําลายจนสิ้นแล้ว”ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอกลืนน้ําลายรีบถอยกลับไปในทันที
ซูฉินน่ากลัวจริงๆ

ในช่วงเวลาสั้นๆ เซียนเทพปฐพี่ทั้งห้าที่ออกจากประตูเซียนได้ตกตายไปถึงสองคนทั้งยังถูกทําลายจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้เจอสิ่งนี้เกรงว่าพวกเขาจะต้องวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]