ณ ห้องตัดต่อของเล่อซางมีเดีย
โม่ยี่ไป๋ฟังช่างตัดต่อแนะนำโฆษณาคราวก่อนให้เธออย่างเหม่อลอย
ห่างไม่กี่นาทีก็เอ่ยถามทีมงานที่อยู่ข้าง ๆ : “ประธานเหอมาแล้วหรือยัง ?”
หลังจากในที่สุดก็ได้รับคำตอบที่แน่นอน เธอจึงออกจากห้องตัดต่ออย่างรีบร้อน
เพิ่งเดินออกจากประตูก็เห็นเหอกวงจี๋กับผู้ช่วยของเขา ยังมีเฉียนข่ายผู้จัดการทั่วไปของสาขาเล่อซาง สุดท้ายยังมีภาพด้านหลังที่คุ้นตาเล็กน้อยเดินไปทางหน้าลิฟต์
เนื่องจากเป็นแผ่นหลังที่เผชิญหน้ากับเธอ คราวนี้เห็นว่าเหอกวงจี๋จะจากไป เธอก็ไม่ได้สืบสาวราวเรื่องให้ละเอียด
ก็รีบสาวเท้าไปเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มที่งดงามดุจดอกไม้ทันที : “ประธานเหอ……”
หลังในที่สุดก็เห็นใบหน้าของภาพด้านหลังคนนั้นได้ชัดเจน
รอยยิ้มของโม่ยี่ไป๋แข็งทื่อไปเลยในทันทีทันใด นี่เป็นไอ้เตี้ยยาจกนั่นไม่ใช่เหรอ ? ทำไมเขาถึงได้เดินอยู่กับเหอกวงจี๋ ?
“คุณเป็นใคร ?”
เหอกวงจี๋สังเกตโม่ยี่ไป๋ขึ้นลงเล็กน้อย พลันเอ่ยถาม
ในฐานะที่เขาเป็นบิ๊กบอสแห่งสื่อมวลชน เคยเห็นโสเภณีตั้งมากตั้งมาย จะมีสาวงามแบบไหนที่ไม่เคยเห็นกัน
แม้จะบอกว่าโม่ยี่ไป๋มีหน้าตาสะสวยอยู่ ก็เป็นเพียงหนึ่งดอกจากในพุ่มดอกไม้นับหมื่นก็เท่านั้นเอง ต่อให้เคยพบหน้า การที่มีภาพความทรงจำที่ไม่ค่อยลึกซึ้งสักเท่าไรก็เป็นเรื่องปกติมาก
โม่ยี่ไป๋มีสีหน้าชะงักไป ถึงกับไปต่อไม่เป็นไปไปชั่วครู่เลย
ยังดีที่เมื่อครู่เฉียนข่ายเอ่ยปากจึงได้คลายความอึดอัดลง
“อ้อ ประธานเหอ ท่านนี้คือโม่ยี่ไป๋ คุณโม่ คราวก่อนที่เจรจาธุรกิจกับประธานจางที่ฮั๋วยี่กรุ๊ปเธอก็อยู่ด้วย ตอนนี้พวกเรากับบริษัทนายหน้าของคุณโม่มีความร่วมมือโฆษณาตัวหนึ่งอยู่”
โม่ยี่ไป๋ยิ้มอย่างฝืน ๆ : “ประธานเหอยุ่งมากเสียจนหลงลืมไปเลยนะคะ……”
พูดไปได้ครึ่งหนึ่งก็ถูกเหอกวงจี๋โบกมือขัดจังหวะ
“อ้อ คุณโม่สินะครับ ขอโทษด้วยนะครับ ผมมีแขกผู้มีเกียรติต้องต้อนรับอยู่คนหนึ่ง คุณมีธุระละก็ จากนี้ติดต่อกับผู้จัดการเฉียนโดยตรงได้เลยครับ”
ใบหน้าของโม่ยี่ไป๋จึงเดี๋ยวแดงก่ำเดี๋ยวซีดขาวในทันที อึดอัดจนอยากหาตะเข็บมุดเข้าไปเลย
โดยเฉพาะต่อหน้าไอ้เตี้ยยาจกที่เธอเคยถากถางคนนั้น ความรู้สึกนี้จึงยิ่งรุนแรงเป็นพิเศษ
และในตอนนี้ไอ้เตี้ยยาจกนั่นกำลังมองเธอด้วยใบหน้าที่ดีอกดีใจ เหมือนกับกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น เธอเกลียดชังจนกัดฟันกรอด ๆ ด้วยความโกรธแค้นอยู่ในใจ
โม่ยี่ไป๋ย่อมไม่คิดว่าเขาก็คือแขกผู้มีเกียรติอย่างที่เหอกวงจี๋ว่ามา อย่างมากก็แค่บอดี้การ์ดที่รับมาใหม่มากกว่า ?
เหอกวงจี๋ไม่ได้สนใจเธออีก จึงเดินเข้าไปในลิฟต์เป็นเพื่อนเซียวชุ่น
เป็นครั้งแรกที่โม่ยี่ไป๋รู้สึกได้ว่าถูกคนมองข้ามถึงขนาดนี้
เหอกวงจี๋แทบจะไม่ได้มองเธอตรง ๆ เลยด้วยซ้ำ รีบร้อนจนเอาแต่ย่ำเท้า
หลังจากเหอกวงจี๋ส่งเซียวชุ่นถึงล่างตึกแล้วก็จากลากันตรงนี้
ที่สำนักงานใหญ่เขายังมีธุระอีกกองใหญ่ ครั้งนี้ใช้เวลาห้าชั่วโมงในการขับรถจากสำนักงานใหญ่มาสาขาเจียงไห่ ก็เพื่อมาพบหน้าคุณเซียวท่านนี้โดยเฉพาะเลย ตอนนี้ก็ควรกลับไปได้แล้ว
เซียวชุ่นรับสายที่ซ่งหลิงเอ๋อร์โทรมา
ตอนที่กลับมาจากหมู่บ้านเสี้ยเหอคราวที่แล้ว ถ้วยรางวัลกับเหรียญรางวัลของเขาตกอยู่บนรถของซ่งหลิงเอ๋อร์ เธอจึงโทรหาเพื่อจะมาส่งให้เขา
“ถ้วยรางวัลให้เธอแล้วกัน ส่วนเหรียญรางวัลเอามาให้ฉัน”
เซียวชุ่นคิดอยู่เล็กน้อยจึงเอ่ย
ซ่งหลิงเอ๋อร์ตอบรับด้วยความปลาบปลื้ม แล้วขับรถมุ่งหน้ามาพบกับเซียวชุ่นที่การค้าระหว่างประเทศ
เซียวชุ่นเดินไปรอเธอที่ข้างทาง บนถนนรถราวิ่งขวักไขว่ เขาบิดขี้เกียจอย่างรู้สึกเซ็งมาก
จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่อันตรายอยู่ใกล้ ๆ นี้เอง
เขาเลิกคิ้ว พลันหัวเราะเบา ๆ เล็กน้อยอย่างนิ่งเงียบ แอบกระตุ้นเคล็ดที่ทำให้เกิดความรู้สึกฮึกเหิม
ฉากแสงสีทองจาง ๆ ล้อมรอบอยู่รอบตัว ดูธรรมดาเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดด
ต่อจากนั้น ลูกกระสุนที่ร้อนแผดเผาหนึ่งนัดเผาไหม้อากาศอยู่ ส่งเสียงหึ่ง ๆ เหมือนผึ้งอยู่เล็กน้อย ใช้ลักษณะที่คนทั่วไปไม่สามารถรู้สึกตัวได้พุ่งมาที่เซียวชุ่น
ระยะห่างหนึ่งร้อยกว่าเมตร ชั่วประเดี๋ยวเดียวก็จะถึง !
เสียงปืนที่เบาจนหูคนทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้ เซียวชุ่นกลับได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
เขาแหงนหน้ามองไปยังหน้าต่างบานหนึ่งที่อยู่ตรงข้าม
วินาทีถัดไป คิ้วโก่งของหงส์แดงขมวดเล็กน้อย ริมฝีปากแดงระเรื่อที่ได้รูปชัดเจนสั่นเทาอยู่เล็กน้อย พลันสูดหายใจเข้าด้วยความตกใจเฮือกหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...