อากาศหนาวเย็นยะเยือก นับตั้งแต่เวลาที่พวกเขามาก็เกือบสามชั่วโมง ซ่งหลิงเอ๋อร์ยังดี เธอสามารถย้ายชี่แท้ของตัวเองจึงไม่ถึงขั้นเหนื่อยล้าเกินไป ในขณะที่หงส์แดงตัวสั่นนิดหน่อยอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวยังคงสวมเสื้อกันลมตัวเดิมกับตอนที่เซียวชุ่นพบเธอ ด้านในเป็นชุดหนังรัดรูปซึ่งบางมาก
“ช่างมันเถอะ คืนนี้พอเท่านี้แหละ กลับกันก่อนเถอะ ซ่งหลิงเอ๋อร์พูดถูก หลังจากนี้ยังมีเวลาอยู่อีก”เซียวชุ่นกุมขมับพลางพูดอย่างสิ้นหวังนิดหน่อย
หลังจากพูดจบก็ก้าวเดินไปที่ประตูหน้า ซ่งหลิงเอ๋อร์กับหงส์แดงเองก็เดินตามหลังมาติด ๆ
ทันทีที่เดินถึงลานด้านหน้า แสงจันทร์ที่สวยงามและเงียบสงบก็สาดแสงปกคลุมทั่วพื้นดิน เซียวชุ่นเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว เขาหยุดฝีเท้าทันทีและระบายยิ้มออกมา
“กลับเข้าไป!”
เมฆและหมอกจางหายไป แสงจันทร์หนาวเย็นสาดแสงไปยังบ้านของตระกูลซือคง
เซียวชุ่นสัมผัสถึงชี่ทิพย์ที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ทันที สำหรับเหตุผล น่าจะเป็นเพราะร่างทิพย์นั้นถือโอกาสออกมาดูดซับแสงจันทร์จึงถูกจับได้คาหนังคาเขาทันที ดังนั้นเขาจึงพาซ่งหลิงเอ๋อร์กับหงส์แดงหันหลังกลับในทันควัน
ไม่นานก็พบต้นเอล์มเก่าแก่ในสวนหลังบ้าน
“นี่แหละมัน”
มองต้นเอล์มต้นนั้นจากไกล ๆ คล้ายกรงเล็บของปีศาจที่ยื่นออกมาจากใต้ดินซึ่งดูบิดเบี้ยวและน่ากลัว
ทั้งสามคนเดินมาถึงใต้ต้นไม้ เซียวชุ่นหมุนรอบต้นไม้สองครั้งเพื่อตรวจสอบ
“มีอะไรผิดสังเกตุไหม?”หงส์แดงพูดถาม
“ที่นี่ คือ สวน พืชที่ปลูกที่นี่ล้วนเป็นต้นไม้ใบเขียวกับดอกไม้สวยงามนิดหน่อย ส่วนต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้น่าเกลียดมาก เห็นได้ชัดว่ามันทำลายความสวยของที่นี่ ฉันวิเคราะห์ถูกใช่ไหม? ท่านอาจารย์”
ซ่งหลิงเอ๋อร์พูดวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาทันทีด้วยความสนใจ
ความคิดของสาวน้อยคนนี้ช่างแปลกประหลาด เซียวชุ่นเมินเธอ เขาหยิบม้วนไหมพรมขนสัตว์สีแดงออกจากอกเสื้อ เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลิวหยุนเซียงถักเสื้อไหมพรมที่บ้านในเวลาว่าง ตอนเขาออกมาก็เอาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างง่ายดาย
ด้านหนึ่งดึงหัวเส้นไหมออกไว้ต้นไม้รอบ ๆ อย่างเอาจริงเอาจัง อีกด้านหนึ่งก็ผูกเป็นปมที่รั้วพลางพูด: “หงส์แดง คุณหาจุดยิงและสักครู่ถ้าเห็นว่ามีอะไรบางอย่างก็ยิงให้หมดแม็กเลย”
“เถ้าแก่ ฉันเป็นมือปืนไรเฟิลนะ”
หงส์แดงพูดด้วยความอึดอัดอย่างมาก
หญิงสาวคนนี้แตกต่างกับซ่งหลิงเอ๋อร์โดยสิ้นเชิง เธอเป็นคนคิดอะไรง่าย ๆ ตรงไปตรงมา ดังนั้นให้เธอใช้ปืนไรเฟิลมายิงหมดแม็ก เรื่องนี้เกินขอบเขตความสามารถของเธออย่างเห็นได้ชัด
“งั้นสองสามนัดก็ได้”เซียวชุ่นเอามือก่ายหน้าผาก
หงส์แดงส่งเสียงตอบรับ เธอมองไปรอบ ๆ โดยใช้ประโยชน์จากแสงจันทร์ เธอนั่งยอง ๆ อยู่ข้างภูเขาจำลองในแปลงดอกไม้และเปิดกล่องแล้วนำปืนไรเฟิลออกมา หลังจากฝึกเล็กน้อยเธอก็เปิดปากพูด: “แสงไม่ดี ไม่เอื้ออำนวยต่อการยิง”
“เป้าหมายชัดเจนอยู่แล้ว คุณแค่อย่ายิงฉันก็พอ”
“อ้อ”
ซ่งหลิงเอ๋อร์ได้ยินว่าสักครู่อาจจะมีบางอย่างโผล่ออกมาก็หดคอแล้วเคลื่อนตัวไปข้าง ๆ เซียวชุ่น ความกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้ของคนเป็นสิ่งที่มีตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะที่นี่ที่ดูรกร้างและวังเวงนิดหน่อย
“ฉัน......สักครู่ ฉันต้องทำอะไร?”
เซียวชุ่นชำเลืองมองเธอ:”สักครู่ คุณก็หลบอยู่ด้านหลังฉันและทำตัวน่ารักก็พอ”
“อา นั่นไม่ค่อยเหมาะสมรึเปล่า?”ซ่งหลิงเอ๋อร์กล่าว
“มา หลบหน่อย อย่าบังทางฉัน”เซียวชุ่นดันเธอออกจากข้างกายเบา ๆ พลางพูด
ท่าทีของซ่งหลิงเอ๋อร์ทำให้เขานึกถึงตัวเองตอนที่ติดตามท่านอาจารย์ในช่วงแรก แต่ชายชราไม่ใจดีอย่างตัวเอง อย่างต่ำก็โยนเขาเข้าไปต่อสู้กับพวกร่างทิพย์หนึ่งยก
“ท่านอาจารย์ คุณกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”ซ่งหลิงเอ๋อร์ถามกับหลังของเขา
“นี่เรียกว่าค่ายภูตจองจำใช้เพื่อจับร่างทิพย์โดยเฉพาะ”เซียวชุ่นพูดอย่างไม่ต้องคิด
ค่ายภูตจองจำคือ วงแหวนเวทย์พื้นฐานที่นักพรตมู่เหยียนสอนให้เขาซึ่งเขาใช้มานับครั้งไม่ถ้วนจนคุ้นชินมานานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...