เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 171

ซ่งหลิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยพลัง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะร่างกายของทั้งสองมีความแตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นคราวนี้ซ่งหลิงเอ๋อร์ยังแอ๊บแบ๊วอยู่ด้านข้าง หงส์แดงนั้นแตกต่างกัน เพราะการเล็งนั้นต้องใช้พลังเหมือนกัน

“อาจารย์ คุณจะใช้ของสิ่งนี้ทำอะไร?”

เธอสามารถสัมผัสได้ว่าหินไม้ทิพย์มีพลังชี่ทิพย์มากมาย และถามด้วยความสงสัย

“ตอนนี้อาจารย์ยังไม่ได้คิด ถ้าคิดได้แล้วอาจารย์ก็จะบอกคุณเอง” เซียวชุ่นกล่าว

“อ้อ”

หลังจากออกจากบ้านบรรพบุรุษตระกูลซือคงแล้ว เซียวชุ่นมอบหมายให้ซ่งหลิงเอ๋อร์นำหินไม้ทิพย์กลับไปที่ลานบ้านตรงถนนติ้งซิน จากนั้นเขาก็รีบนั่งแท็กซี่กลับบ้าน

เวลานี้เหยาเสินน่าจะใกล้ตื่นได้แล้ว ถ้าเธอรู้ว่าตนเองไม่กลับมาทั้งคืน มันก็จะแย่?

เมื่อคืนตนเองใช้กลอุบายเล็กน้อยเพื่อให้เธอหลับลึก ถึงแม้ว่าตนเองจะเต้นอยู่ในห้อง เธอก็ไม่ตื่น แต่ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่เธอตื่นแล้ว

“คุณกำลังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก? หรือว่าเพิ่งกลับมา?”

เซียวชุ่นกลับถึงบ้านและเพิ่งจะเปลี่ยนรองเท้าแตะ เขาเห็นผมของเหยาเสินกระเซอะกระเซิง ยืนอยู่บนทางเดินชั้นสองแล้วจ้องเขาด้วยสีหน้ามึนงง

เขากลอกตาและยิ้มไม่ธรรมชาติ “อ้อ ผมจะออกไปซื้ออาหารเช้า”

ถ้าบอกเธอว่าเพิ่งกลับมาถึงตอนนี้มันไม่ได้ ถ้ารู้แต่แรกตนเองจะนำอาหารเช้ากลับมาด้วย เช่นนั้นก็สามารถบอกว่าตนเองออกไปซื้ออาหารเช้า จะได้ไม่ต้องออกไปอีกรอบ

“ถ้าอย่างนั้นคุณซื้อผ้าอนามัยมาให้ฉันสองห่อด้วย” เหยาเสินลูบผมที่รุงรังของตนเอง หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำ

เซียวชุ่น “……”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา บนโต๊ะอาหาร

เหยาเสินฉีกขนมปังแล้วใส่เข้าปาก มองเซียวชุ่นอย่างเงียบ ๆ และถอนหายใจเบา ๆ

เซียวชุ่นรู้สึกใจเต้นแรง คิดอยู่ในใจ เธอคงจะไม่รู้ว่าเรื่องที่ตนเองไม่ได้กลับมาทั้งคืนมั้ง?

เขาเงยหน้ามองเหยาเสินและถามด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? ถอนหายใจตั้งแต่เช้า”

“พนักงานหญิงในบริษัทหย่าเมื่อสองวันก่อน ช่วงสองวันที่ผ่านมาเธอเบลออยู่ตลอดเวลา ไม่มีอารมณ์ทำงาน ถ้าไม่ตำหนิเธอ การที่เธอนำอารมณ์มาสู่งาน ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อเธอเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีม แต่ถ้าตำหนิเธอ เธอก็น่าสงสาร” เธอกล่าวด้วยความลำบากใจ

“งั้นคุณก็ให้เธอพักสักสองสามวันเพื่อปรับอารมณ์” เซียวชุ่นกล่าว

“คุณดูสิสังคมสมัยนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรผู้หญิงยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยง สามีของเธอออกไปสำมะเลเทเมาอยู่ข้างนอก มีเมียน้อย แต่เธอต้องทำงานหนักเพื่อจ่ายค่าผ่อนบ้าน และจ่ายค่าเล่าเรียนของลูก เมื่อหย่ากันแล้ว ผู้ชายยังคงใช้ชีวิตอิสระเหมือนเดิม แต่เธอนั้นน่าอนาถมาก ไม่มีเงินเก็บ ค่าผ่อนบ้านจ่ายไปแค่ครึ่งเดียว ตอนนี้ลูกกำลังจะขึ้นชั้นมัธยม มีแต่ค่าใช้จ่าย....”

เหยาเสินกล่าวต่อ

วันนี้ผู้หญิงคนนี้ผิดปกติ เพราะปกติแล้วเธอไม่เคยเล่าเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ให้ตนเองฟัง เธอต้องมีอะไรอย่างแน่นอน ดังนั้นตนเองต้องระวังตัวให้มากขึ้น และพยายามตอบให้น้อยที่สุด

เซียวชุ่นเงยหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะเหมือนผู้ชายของเธอ”

“ฉันคิดว่าผู้ชายไม่ควรมีเงินอยู่ในกระเป๋า”

ความเจ้าเล่ห์ประกายอยู่ในดวงตาที่สวยงามของเหยาเสิน และเอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อมองเขา “ตอนนี้คุณมีเงินเก็บส่วนตัวเท่าไหร่?”

เซียวชุ่นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คุณช่างน่ากลัวเหลือเกิน ทำไมพูดไปพูดมา วกเข้ามาที่เงินเก็บส่วนตัวของตนเองล่ะ?

“สี่ร้อยกว่าล้าน อีกสักครู่ผมจะเอาบัตรให้คุณ ปกติผมก็ไม่ได้ใช้เงินอะไร?” เขากล่าวด้วยความจริงใจ เพราะอีกไม่กี่วันหลังจากตนเองปรุงยาให้ยู่ซูจื่อเสร็จแล้ว ก็จะได้เงินสามพันล้าน เงินสี่ร้อยล้านนี้ไม่สามารถถือเป็นอะไรได้

เงินเก็บส่วนตัวสี่ร้อยล้าน!

เหยาเสินสำลักและกระแอมเบา ๆ “ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องให้ฉัน ฉันเชื่อใจคุณ ต่อไปถ้าคุณจะใช้เงินปรึกษาฉันก่อนได้ไหม? เช่นการซื้อหุ้นของจินสีกรุ๊ป? เพราะพวกเราสองคนนั้นเป็นสามีภรรยากัน อย่างน้อยฉันสามารถให้คำแนะนำแก่คุณได้?”

เหยาเสินรู้สึกซับซ้อน ด้วยความสามารถของผู้ชายคนนี้ ไม่ต้องเสียเงินสักหยวนก็มีผู้หญิงเข้ามาหาเขามากมาย ตอนนี้ยิ่งอยู่เธอยิ่งขาดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างที่เธอพูด ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เซียวชุ่นทำเรื่องมากมายอย่างเงียบ ๆ ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ขณะเดียวกัน เธอไม่ต้องการเป็นเหมือนคนนอก เธอถูกปิดตามาสามปีแล้ว เธอต้องการมีส่วนร่วมในแผนการและอนาคตของเซียวชุ่นทั้งหมด

เซียวชุ่นกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจ “บัตรใบนี้ต้องให้คุณแน่นอน ต่อไปถ้าผมต้องการใช้เงิน ผมจะขออนุมัติจากคุณ คุณคือแกนหลักของครอบครัว”

“เอาล่ะ ในเมื่อคุณมีความจริงใจขนาดนี้ ฉันก็จะรับไว้” เหยาเสินกล่าวโดยไม่ลังเล

“เอานี่ คุณกินไข่อีกฟอง”

เซียวชุ่น “……”

“จริงสิ ตอนเย็นคุณพ่อคุณแม่กลับมาแล้ว ฉันมีธุระต้องไปทำ คุณมีเวลาว่างไหม? ถ้ามีเวลาว่าง คุณช่วยไปรับพวกเขาหน่อย แต่ถ้าคุณไม่ว่าง ฉันจะให้ม่ายหย่าฉินไปรับพวกเขาแทน” หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เหยาเสินกล่าวขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้า

“ผมว่าง ผมไปดีกว่า คุณให้พวกเขาไปเที่ยวแล้วไม่ได้ไปเป็นเพื่อนพวกเขา คาดว่าหลังจากคุณแม่กลับมา จะต้องบ่นคุณอีกหลายวัน ผมจะไปดูลาดเลาก่อน ถ้าคุณพ่อคุณแม่โกรธ ผมจะได้ช่วยคุณแบ่งเบา” เซียวชุ่นกล่าว

“ซาบซึ้งมาก”

“ขอหอมหน่อย”

“ไสหัวออกไป”

……

เหยาเสินขับรถพาเซียวชุ่นไปที่บริษัท

ขณะที่ขับรถออกจากประตูชุมชน ก็เห็นสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างประตู

โม่ยี่ไป๋มีใบหน้ารูปไข่แต่งหน้าเรียบง่าย เธอสวมเสื้อคลุมสีขาว สวมใส่กางเกงยีนรัดรูปเผยให้เห็นขาที่เรียวยาว และมัดผมไว้ด้านหลังศีรษะอย่างหลวม ๆ

หลังจากเหยาเสินเบรกรถ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองเธอด้วยความสับสน

โม่ยี่ไป๋เดินมาที่หน้าต่างฝั่งคู่คนขับ แล้วเคาะกระจกรถ

เหยาเสินเปิดกระจกรถและขมวดคิ้ว “คุณโม่ มีธุระอะไรหรือเปล่า? ดูเหมือนวันนี้พวกเราไม่ได้ขวางทางคุณน่ะ”

โม่ยี่ไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษด้วย คราวที่แล้วฉันอารมณ์ร้อนเกินไป คุณเหยาอย่าได้ถือสา ฉันมาขอโทษคุณ”

ตอนแรกเหยาเสินคิดว่าเธอมาหาเรื่องเสียอีก ในเมื่ออีกฝ่ายมาขอโทษแล้ว ถ้าเธอยังถือสามันก็จะไม่ดี

เธอปรับอารมณ์ หัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า “ไม่เป็นไร? พวกเราอยู่ในชุมชนเดียวกัน ทุกคนควรจะเห็นอกเห็นใจกัน การกลมเกลียวกันเป็นการดีที่สุด แล้ว.....คุณยังมีธุระอะไรอีกไหม?”

เธอคิดไม่ถึงว่าโม่ยี่ไป๋จะรู้ว่าตนเองแซ่เหยา แต่ถ้าคิดที่จะสืบมันไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก

“อ้อ คือแบบนี้ คืนพรุ่งนี้ฉันจะจัดปาร์ตี้วันเกิดที่บ้าน ฉันอยากชวนคุณและคุณเซียวมาร่วมงานด้วย ไม่ทราบว่าคุณทั้งสองว่างไหม?”

โม่ยี่ไป๋ยิ้มบาง ๆ แล้วยื่นบัตรเชิญด้วยความจริงใจ

เหยาเสินอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรับบัตรเชิญมาแล้วเหลือบมอง มันเป็นบัตรเชิญที่ปรานีตมาก

เธอรู้สึกสงสัย ปกติตนเองไม่ได้คบหาสมาคมกับดาราดังคนนี้ ช่วงก่อนพวกเธอยังมีปัญหาเล็กน้อย เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?

“ผมอาจจะไม่มีว่าง” เซียวชุ่นกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของโม่ยี่ไป๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย

จะเป็นวันเกิดจริงหรือไม่นั้นมันไม่สำคัญ เธอแค่ต้องการหาข้ออ้างเพื่อพบเขา เธอมารอเซียวชุ่นอยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว ถ้าหากเขาไม่มาร่วมงาน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊