เมื่อถึงคราวของเซียวชุ่น เขายื่นกระดาษโน๊ตและกล่าวว่า “ขอบคุณครับ”
ไป๋โร่วหนิงไม่เงยหน้า เธอรับมาแล้วเซ็นทันที และหลังจากเซ็นเสร็จ เธอก็ยื่นคืนให้เขา
ขณะที่เซียวชุ่นยื่นมือออกมารับ ทันใดนั้นคนที่อยู่ข้างหลังดันไปข้างหน้าอย่างแรง เขาล้มลงโดยไม่ตั้งใจ และจับมือของไป๋โร่วหนิงโดยไม่รู้ตัว
เพี๊ยะ!
ถูกตบหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว
“อันธพาล!”
สีหน้าของไป๋โร่วหนิงบูดบึ้ง จ้องมองเขาและด่า “ไสหัวไปให้พ้น!”
จากนั้นบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง เดินไปข้างหน้าทันที และผลักเซียวชุ่นออกไป
“ผมไม่ได้ตั้งใจ......” เซียวชุ่นอยากจะพูดแต่ยากที่จะพูดออกมาได้ ถูกตบหน้าฟรี สีหน้าเต็มไปด้วยความจำใจ
“เศษเดน คุณภาพของคนเมืองเจียงไห่ตกต่ำเพราะคนอย่างคุณ!”
“สัตว์เดรัจฉาน! โง่เง่า! ไสหัวออกไปจากที่นี่!”
แฟนคลับที่ยืนอยู่ด้านข้างชี้ไปที่เขาทันทีและสาปแช่งราวกับเป็นศัตรู
“คุณไป๋ จะแจ้งตำรวจไหมครับ?” บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอ่ยถาม
ถึงแม้ว่าไป๋โร่วหนิงจะสวมแว่นกันแดด แต่เซียวชุ่นก็สามารถรับรู้ได้ว่าเธอเหลือบมองตนเองด้วยความขยะแขยง
“ช่างมันเถอะ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยเขาไปเถอะ” ไป๋โร่วหนิงโยนกระดาษโน๊ตเข้าไปในอ้อมแขนของเซียวชุ่นและกล่าวอย่างเย็นชา
“เศษเดนแบบนี้ ถึงจะส่งตัวไปที่คุกก็ถูกขังแค่ไม่กี่วัน! คุณทำให้คนเมืองเจียงไห่อับอายขายหน้าไปหมดแล้ว!”
“คุณไป๋เป็นคนใจดีเกินไปแล้ว ถึงได้ถูกคนอื่นรังแกง่าย ๆ”
แฟนคลับที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกเจ็บใจแทน
เขาถูกตบหน้าฟรี ทำให้เซียวชุ่นพูดไม่ออก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเดินออกไปจากฝูงชนด้วยความโมโห
หลิวหยุนเซียงสังเกตว่าเกิดความโกลาหล แต่เนื่องจากมีคนมากมายยืนอยู่รอบ ๆ และความสูงของเธอจำกัด เธอจึงไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากเซียวชุ่นกลับมาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ มิเช่นนั้นด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของหลิวหยุนเซียงแล้ว ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้เขายังไม่แน่ใจว่าสำหรับหลิวหยุนเซียงแล้ว ตนเองมีสถานะอะไร ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สองสถานการณ์
สถานการณ์แรกคือเชื่อว่าตนเองลวนลามไป๋โร่วหนิง จากนั้นตำหนิตนเองอย่างรุนแรง บางทีตนเองอาจถูกตบหน้าอีกครั้ง แล้วขอให้ตนเองไปขอโทษไป๋โร่วหนิง
ความเป็นไปได้อย่างที่สองคือตนเองมีสถานะที่สูงมากอยู่ในใจของหลิวหยุนเซียง และเธอเชื่อใจตนเองเป็นอย่างมาก เธอเชื่อว่าไป๋โร่วหนิงเข้าใจผิด แล้วยังตบหน้าตนเอง หลิวหยุนเซียงอาจขอความยุติธรรมให้ตนเอง
หลังจากคิดไตร่ตรองแล้ว เห็นได้ชัดว่าความน่าจะเป็นข้อที่สองนั้นค่อนข้างน้อย ดังนั้นเรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ
เขายื่นกระดาษโน๊ตที่มีลายเซ็นให้หลิวหยุนเซียงและกล่าวว่า “เซ็นเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ลองดู”
“ลูกเป็นผู้ชายอกสามศอก ให้ลูกไปขอลายเซ็นแค่นี้ ทำไมหน้าของลูกถึงได้แดงขนาดนี้ เป็นถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?”
ใบหน้าด้านที่ถูกตบของเซียวชุ่นอยู่ทางหลิวหยุนเซียงพอดี เธอรับกระดาษโน๊ตและมองเขาด้วยสีหน้าสงสัย
เซียวชุ่น “……”
“ทำไมพวกเขาถึงมองพวกเราล่ะ?”
เหยาเจี้ยนกั๋วพบว่าคนมากมายที่ล้อมรอบดาราดังกำลังมองมาทางพวกเขา ชี้และพูดอะไรอย่างเป็นระยะ ๆ
“ไม่มีอะไร พวกเรากลับบ้านกันเถอะ” เซียวชุ่นเข็นกระเป๋าเดินทาง และรีบโบกมือเรียกแท็กซี่
พวกเขาสามคนขึ้นรถและเดินทางกลับไปที่จิ่นซิ่วกั๋วจี้ทันที
“ประธานเหยา คุณดูนี่สิ........”
ห้องทำงานของเหยาเสิน ม่ายหย่าฉินยื่นโทรศัพท์ให้เหยาเสินและกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...