เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 252

ทันทีที่เหว้ยเหวินตงพูดจบ ผู้คนต่างก็พูดถึงเรื่องนี้กัน

“วิธีนี้ก็ไม่เลวนะ ยังมีของเก่าน่าสะสมนำกลับกลับเป็นของที่ระลึกด้วย มีความหมายมากกว่าใบรับรองหนังสีแดงหรือตราสัญลักษณ์นั่นอีก”

"ฉันเดาว่าราคาเริ่มต้นต้องสูงกว่าการประมูลปกติมากแน่ๆ"

"คนที่มาร่วมงานไม่มีใครเป็นคนโง่ จะต้องมีการพิจารณาในใจอยู่แล้ว"

“เอาล่ะ งั้น…ไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”

เหว้ยเหวินตงกวักมือเรียกไปด้านข้าง ในไม่ช้าก็เห็นผู้ประมูลสองคนกำลังเดินขึ้นบนเวที จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ส่งของสะสมไปที่เวทีประมูล

เป็นเครื่องลายครามสีน้ำเงินและสีขาวของราชวงศ์ชิงที่มีราคาเริ่มต้น 3 ล้านและราคาซื้อขายสุดท้ายคือ 4.3 ล้าน ถูกประธานบริษัทยาสัตว์ประมูลไป

“ประธานเซียว คุณรู้จักวัตถุโบราณไหม?” เหยาเสินอยู่ด้วย ถางชือชือเก็บมุกตลกตามปกติของเธอและถามด้วยใบหน้าที่จริงจัง

“รู้นิดหน่อย” เซียวชุ่นตอบ

"แล้วถ้าคุณเห็นสิ่งที่มีค่าก็บอกฉันประมูลด้วยนะ"

“เธอชอบบริจาคไม่ใช่หรือ แค่หาของแล้วบริจาคเงินไปก็พอแล้ว” เซียวชุ่นกล่าว

“จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าฉันใช้เงินห้าล้านแล้วซื้อหิน คนอื่นจะคิดว่าฉันไม่มีรสนิยม หรือพวกเขาจะมองว่าฉันเป็นโง่” ถางชือชือกล่าว

เซียวชุ่นยิ้มและกล่าวว่า "ได้ ถ้ามีอะไรที่เหมาะสมฉันจะบอกเธอ"

ตามการประมูลที่ดำเนินไปของแต่ละชิ้นก็ถูก "รับไป"

บรรยากาศค่อนข้างสนุก เพิ่มน้อยจะได้สามถึงห้าแสน แต่ถ้ามากจะได้ถึงสามถึงห้าล้าน

คนที่มาบริจาคจริงใจไม่สนใจว่าจะได้เงินมาเท่าไหร่ เทียบกับปีก่อนๆ ปีนี้จะได้รับเงินบริจาคมากแน่นอน เหว้ยเหวินตงพอใจมาก

ถางชือชือประมูลภาพของฝูหมิงยุคสมัยหมิงเป็นภาพที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเยี่ยมเพื่อนชมดอกเหมย ภาพวาดนั้นประณีตและคุณภาพก็ยอดเยี่ยม จนคนอื่น ๆ จะไม่พูดว่าเธอมีรสนิยมที่ไม่ดีหรือว่าเธอโง่

จนกระทั่งท้ายที่สุด เซียวชุ่นก็ไม่ขยับเขยื้อน

เขาไม่สนใจของสะสมเหล่านั้นจริงๆ ดังนั้นเขาเลยบริจาคเงินห้าล้านโดยตรงไปเลย

เหลือเพียงสามชิ้นสุดท้าย เขายังคงนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม

ในเวลานี้ เด็กรุ่นน้อยของตระกูลเหว้ยหันศีรษะและมองเขาด้วยสายตายั่วยุ: “คุณเซียวไม่ชอบของสะสมเหล่านี้ หรือไม่คิดที่จะบริจาคเงินเลย มากินดื่มเฟรีเหรอ?"

เมื่อวานเหอกวงจี๋และโค่วเจิ้งชิงอยู่ข้างเซียวชุ่น คนที่มีพลังงานมหาศาลเช่นนั้นจะไม่มีเงินแค่หลักล้านได้ไงเด็กของตระกูลเหว้ยจะไม่รู้ได้ไง เขาแค่ตั้งใจประชดประชัน

หลังจากพูดจบ ผู้คนรอบๆ โต๊ะอาหารก็หันมาสนใจเซียวชุ่น และบนใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยการความดูถูก

"ไม่มีความรักเลย ยังจะมางานเลี้ยงอาหารค่ำการกุศลอีก หน้าไม่อาย"

"ไม่ว่ายังไงก็คนจากถิ่นเล็กๆ มีจิตใจคับแคบ เงินนับล้านนั้นเอาไว้ถวายที่บ้านแน่เลย"

“ฉันว่าเก็บไว้สำหรับทำโลงศพดีกว่า” เด็กรุ่นน้อยตระกูลเหว้ยเยาะเย้ย

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นะชิ้นสะสมชิ้นสุดท้ายไปที่โต๊ะประมูลแล้ว

ทันใดนั้น เซียวชุ่นก็สังเกตเห็นว่ามีชี่ทิพย์ เต็มในสถานที่ทันที ไม่เพียงแต่เขา แต่ทุกคนที่อยู่ ณ จุดนี้รู้สึกได้หมด แต่พวกเขาแค่ไม่รู้ว่ามันเกิดจากชี่ทิพย์

เดิมทีอุณหภูมิในห้องโถงอยู่ที่ประมาณ 23 หรือ24 องศา แต่เหมือนจู่ๆ อุณหภูมิก็ลดลงหลายองศา บางคนที่เพื่อความสะดวกถอดเสื้อไว้บนตักหรือถือไว้ที่แขนต่างก็รีบใส่อย่างไม่รู้ตัว

เซียวชุ่นลืมตาขึ้นและมองไป พบว่าบนโต๊ะประมูลเป็นหินขนาดเท่าจานที่มีเส้นสีขาวบนพื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม พื้นผิวดูเปียก ราวกับว่าเพิ่งได้รับการกอบกู้จากน้ำ

หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ หินน้ำทิพย์?

หากหินไม้ทิพย์หมายถึงชีวิตและความมีชีวิตชีวา หินน้ำทิพย์หมายถึงการให้ความชุ่มชื้นและการบำรุง

หินน้ำทิพย์นี้คงอยู่ก้นทะเลมาหมื่นปีหรือนานกว่านั้น

สรรพสิ่งล้วนมีวิญญาณและน้ำก็มีเช่นกัน แต่แค่อ่อนมากๆเอง แต่เวลานั้นนานมาก ได้รับการแทรกซึมอย่างต่อเนื่องนับหมื่นปี ในที่สุดก็บรรลุถึงสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

แม้ว่าชี่ทิพย์ที่บรรจุอยู่จะค่อนข้างอ่อน แต่ก็ค่อนข้างที่จะยากแล้ว

เหตุผลหลักคือน้ำในชี่ทิพย์อ่อนมากรวมถึงหินทะเลที่สามารถดูดซับชี่ทิพย์นั้นหายากมาก เหมือนหยกที่มีชี่ทิพย์ในตัว แต่ชี่ทิพย์ที่หยกสามารถดูดซับนั้นน้อยมาก

ในบรรดาธาตุทั้งห้า ไม้และน้ำ หากนำหินน้ำทิพย์และหินไม้ทิพย์มาให้ความชุ่มชื้นรวมกัน จะเพิ่มชี่ทิพย์ในหินไม้ทิพย์ได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเวลาผ่านไปจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการฝึกฝนของตัวเองแน่นอน และอาจช่วยให้เขาบุกทะลวงแดนพรสวรรค์ก็เป็นไปได้

เมื่อนึกถึงนี้ เซียวชุ่นก็ตื่นเต้นมาก

นี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ ที่จะได้พบกับสมบัติล้ำค่าในสถานที่แบบนี้ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าโชคมั้ง

เขาผู้ที่สงบนิ่งอยู่เสมอ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อยในเวลานี้

ถ้าเซียวชุ่นสามารถเข้าสู่แดนแหงนฟ้าอย่างรวดเร็ว เสวียนเหลืองสิบสามเข็มของเขาจะสามารถก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง อย่างน้อยหวังก็จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว

เพราะตอนนี้หวางก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่ครึ่งปี นางมังกรสามก็ไม่ใช้ยาที่คอยช่วยชีวิตตามปกติแล้ว

จากนั้นก็ได้ยินผู้ประมูลบนเวทีแนะนำ: "นี่คือหินห่ายหยินชื่อว่าทุกอย่างราบรื่น ทุกคนสามารถเห็นลายสีขาวบนก้อนหินได้ว่าเป็นเรือใบที่ขี่ลมคลื่นในทะเลสีฟ้ามีความหมายว่าดีมาก

นอกจากนี้ ทุกคนอาจสังเกตเห็นได้ว่าเป็นผิวเปียก นี่ไม่ใช่ว่าทางเราเพิ่งเอาขึ้นมาจากน้ำ แต่เป็นวัตถุดิบแบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้จะน้ำไปตากแดดเวลานานก็จะไม่แห้งยังคงเป็นภาพอย่างที่เห็นในตอนนี้"

“หรือทุกคนอาจรู้สึกถึงอุณหภูมิในห้องโถงที่ลดลงมาก สาเหตุเพราะหินห่ายหยินชิ้นนี้ นี่เป็นของอาถรรพ์ ดังนั้นราคาประมูลคือ 20 ล้าน และแต่ละครั้งคือ 1 ล้าน เริ่มการประมูล "

เซียวชุ่นเกือบจะพ่นชาออกมาเมื่อได้ยินราคา

ยี่สิบล้าน? สองพันล้านสำหรับเขายังคุ้มค่าเลย

ถ้าไม่มีหินไม้ทิพย์ มีเพียงหินน้ำทิพย์นี้อย่างเดียว อย่างมากก็จะได้ประสิทธิภาพเท่ารูปปั้นหยกที่เขาให้ซ่งเจิ้นไห่ มีผลต่อการบำรุงร่างกาย

“การนำหินก้อนนี้กลับบ้านก็เท่ากับซื้อเครื่องปรับอากาศไป ประเด็นสำคัญคือเป็นเครื่องปรับอากาศที่ปรับร้อนไม่ได้ ไม่คุ้มกับราคา 20 ล้านเลย” มีคนพูดติดตลก

"สิ่งสำคัญคือปรับอุณหภูมิไม่ไม่ได้"

"20ล้านแพงเกินไป ถ้าไม่กี่ล้านก็สามารถซื้อเล่นได้อยู่"

“จะไร้เดียงสาเกินไปละไหม นี้สามารถซื้อกลับไปเป็นฮวงจุ้ยได้” มีคนพูดอย่างไม่เห็นด้วย

ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้จึงไม่สามารถรู้สึกถึงชี่ทิพย์ได้

นอกจากเซียวชุ่นแล้ว โค่วเจิ้งชิงและชายชราในวัยห้าสิบที่ตัวผอมแห้งนั่งตัวตรงข้าง เหว้ยหลุน

ทันทีที่ เหว้ยหลุนเข้ามาเซียวชุ่นก็รู้สึกได้แล้ว ตามความเข้าใจของเขาที่รู้เกี่ยวกับบู๊โบราณ เขาน่าจะเป็นช่วงปฐมภูมิที่กำลังจะเสร็จสิ้นในขั้นตอนบู๊โบราณ จะดูถูกไม่ได้

โค่วเจิ้งชิงและชายชราสัมผัสได้ถึงชี่ทิพย์จริงๆ แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร นอกจากดูดซับชี่ทิพย์ที่มีอยู่แล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรได้บ้าง

ยิ่งกว่านั้นชี่ทิพย์ที่มีอยู่ในหินห่ายหยินนั้นมีน้อยมาก ไม่ช่วยอะไรกับพวกเขาในการฝึกฝนเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊