“ผมรู้ว่ามันไม่เลว มองแล้วมีความเป็นเอกลักษณ์ดี” ในตอนนี้ด้านหลังของทั้งสองก็มีเสียงนกเล็กๆของซ่งหลิงเออร์ดังมา
เหยาเสิน“……”นี่คือสายตาอะไร?
“ห้าแสน”
ในเวลานี้ ได้มีเสียงมาจากด้านหน้าสุด ทำให้เกิดความโกลาหลทันที
“ซือคงซิงยกป้ายแล้ว!”
“แต่ว่า……จะมาชอบของสิ่งนี้ได้ยังไง?”
“แข่งกันไงหละ เจ้าไม่เคยได้ยินหรอซือคงซิงคือแฟนเก่าของเหยาเสินเลยนะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็มีอะไรสนุกๆดูแล้วสิ”
“เจ้าคิดมากไปหรือเปล่า เมื่อไหร่ที่ตระกูลซือคงยกป้าย ก็หมายความว่าต้องได้ ใครจะกล้าแย่ง? ไม่เพียงแต่หากไม่สามารถได้ของที่อยากได้ ยังจะทำให้ตระกูลไม่พอใจอีก ในเมืองเจียงไห่ ใครจะกล้าทำให้ตระกูลซือคงไม่พอใจล่ะ?”
“ลูกเขยของตระกูลเหยาข้าได้ยินมาว่าไม่เคยมีแม้แต่หน้าตาตระกูล น่าจะพูดเล่นล่ะมั้ง กลับไปน่าจะต้องไปนั่งซักผ้า ไม่แน่อาจจะถูกไล่ออกจากบ้านก็ได้นะ รอบนี้นับว่าซือคงซิงช่วยชีวิตเขาไว้”มีคนพูดเหน็บ
“หนึ่งล้านบาท”เซียวชุ่นยกป้ายขึ้น
“โอ้พระเจ้า เจ้านั่นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”เพิ่งจะพูดไปเองว่าหากตระกูลซือคงยกป้ายเมื่อไหร่จะไม่มีใครกล้าต่อไง
“ไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาท้าชิงกับตระกูลซือคง!ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาตั้งหลายปีแล้ว ช่างมีความหมายจริงๆ”มีหลายคนก็เรื่องสนุกกับเรื่องนี้
ถึงอย่างไรในเมืองเจียงไห่ก็จะมีสองคนที่ก่อกบฏ ไม่ยอมทำตามกฎอะไรพวกนี้ คงจะมีพวกสี่ตระกูลใหญ่ แล้วก็ตระกูลของซือคงนั่นแหละ
เซียวชุ่นไม่บ้า แต่คนที่บ้าคงจะเป็นเหยาเสิน
ในตอนที่ซือคงซิงเสนอราคาตอนนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจ ถึงแม้ว่าสองแสนจะไม่มากจนเกินไป แต่ทว่าเธอในตอนนี้ไม่มีแม้แต่งาน ถ้าหากจะเอาเงินสองแสนไปทิ้ง เธอก็ยังรู้สึกเสียดายใจ
ใครจะไปคิดว่าเจ้าบ้าเซียวชุ่นจะเสนอราคาอีก เสนอราคาก็ช่างมันแล้ว ยังจะเสนอราคามากกว่าเขาสูงตั้งสองเท่า
“ถึงแม้ว่าคุณจะอยากต่อสู้พูดกันต่อหน้าฉัน แต่ว่าดูสถานที่กับกำลังก่อนมั้ย?”เหยาเสินพูดด้วยใบหน้าที่ขุ่นเคือง
เธอคิดว่าที่เซียวชุ่นทำแบบนี้ก็เพราะเมื่อเมื่อสักครู่ที่ซือคงซินมาพูดคุยกับเธอ เลยทำให้เป็นแบบนี้
“สองล้าน!”ซือคงซิงหันไปมองเซียวชุ่นอย่างเขม็ง ก่อนจะเอ่ย “เจ้าหรือ? จะมาสู้กับข้า?”
“ห้าล้าน”เมื่อสิ้นเสียงลง เซียวชุ่นก็ได้เสนอราคาอีกครั้ง
เหยาเสินนั้นหมดคำที่จะพูดแล้ว ก่อนจะจ้องมองและหมดความอดทนไปที่เขา
ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะสถานที่นี้คนเยอะล่ะก็ กลัวว่าเธอน่าจะโมโหโกรธแค้นเป็นฟ้าผ่าไปแล้ว
จริงๆแล้วเธอไม่ค่อยเข้าใจเซียวชุ่นเท่าไหร่ เธอรู้เพียงว่าทุกๆเดือนเธอจะให้เขาใช้เงินแค่สามพัน บวกกับให้เข้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั่วไปรายวัน เขาจะไปมีเงินมากขนาดนั้นได้อย่างไร
หรือว่าที่เขาพูดจำนวนเงินไปเท่าไหร่ มันก็จะตกมาที่หัวเขาหรอ?
ห้าล้าน? พระเจ้าเถอะ ถ้าหากซือคงซิงไม่พูดเสนอราคาต่อหละก็ ฉันจะไปเอาเงินห้าล้านมาจากที่ไหน
หรือว่าเจ้าบ้านี่วางแผนที่จะเอาคฤหาสน์ไปค้ำหรอ? เพื่อเจ้าหยกพังๆนี่อะหรอ? ไม่มีแม้แต่คนจะสนใจเลยด้วยซ้ำ?
ซือคงซิงจะจ้องมาที่เขาก็ไม่ผิด แล้วทำไมเซียวชุ่นถึงต้องมาใส่อารมณ์กับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยนะ ให้เขาไปจะเป็นอะไรไป ทำไมจะต้องมาทำตีหน้าตัวเองอะไรด้วยแบบนี้
ตอนนี้ใบหน้าของเหยาเสินมีแต่ความเสียใจ ที่ไม่น่าตอบรับยินยอมกับเขาในการมาสถานที่เช่นนี้
ถึงแม้ว่าซ่งหลิงเออร์จะไม่ทราบว่าทำไมเซียวชุ่นถึงได้สนใจหยกชิ้นนี้นัก แต่ก็ได้พูดออกมาว่า“อาจารย์ ท่านกล้าหาญมาก!”
ในตอนนี้เซียวชุ่นไม่ได้คิดว่าเจ้าเด็กนี้นั้นล้อเลียนเขา แต่ทว่าก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ และตอนนี้เหยาเสินที่นั่งข้างๆเขาก็ได้นั่งกัดฟันและมองมาที่เขา
ซือคงซิง“สิบล้าน”
“ยี่สิบล้าน”
ทั้งสองคนก็ได้ตะโกนผลัดกันยกป้ายเสนอราคา
ตอนนี้ในที่นี้นั้นเงียบสนิท ใบหน้าทุกคนต่างแสดงถึงความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...