ท่าทีทางสีหน้าของแดนเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นที่รุนแรง เขาจ้องแจสเปอร์และตะโกนว่า “ดูเหมือนว่าแกจะยอมจำนนภายใต้การบีบบังคับเท่านั้นสินะ รอดูซะเถอะ!”
แดนคลุ้มคลั่งด้วยความโกรธหลังจากที่กล่าว
หลังจากที่แดนออกไปด้วยท่าทีโกรธแค้น ฮัดสันมองไปที่แจสเปอร์และยิ้มอย่างขมขื่น “เราควรจะทำไงครับตอนนี้ มิสเตอร์เลน?”
“ไม่ต้องใจร้อน ก็แค่ทำในสิ่งที่เราต้องทำกันเถอะ” แจสเปอร์กล่าวอย่างสงบ
“มันก็แค่แดน วอร์เรนเอง มันทำให้เราเจอกับนรกไม่ได้หรอก!”
“มิสเตอร์เลน ที่คุณพูดเมื่อกี้มันเจ๋งมาก!” โลแกนอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นขณะที่จ้องไปที่แจสเปอร์
แจสเปอร์หัวเราะคิกคัก “แม้ว่าเทอริโซนด้อยกว่าซีน่าแน่นอนในตอนนี้ เราไม่ควรอดทนต่อคำดูถูกเขาเพราะว่าเขาทำให้มันเลยเถิดมากขนาดนี้ เราต้องหยาบคายกลับและปกป้องตัวเราเองเมื่อเราจำเป็นต้องทำ” เขาตอบกลับ
ฮัดสันพยักหน้า ดูเหมือนว่าจะคิดไปไกล
ตอนนี้เอง แดนออกจากเทอริโซนด้วยท่าทีที่โกรธทางสีหน้า เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “พวกมันชักจะมากเกินไปแล้ว! พวกงั่งไร้ยางอายอย่างพวกมันกล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนั้น?!”
เลขาของแดนสั่นด้วยความตะลึงขณะที่เขาจ้องไปที่แดน เลขายืนอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าพูดออกมาสักคำ
แดนหอบเสียงดัง ประกายแดงที่ชั่วร้ายส่องผ่านแววตาของเขาขณะที่เขาหันไปจ้องที่อาคารสำนักงานของเทอริโซน จากนั้นเขาดึงโทรศัพท์ออกมาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
สายต่อติดหลังจากนั้นทันที
“นี่ฉันเอง แดน วอร์เรน”
เสียงที่สุภาพเสียงหนึ่งพูดมาจากปลายสาย “มิสเตอร์วอร์เรน มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”
“ปล่อยการโจมตีครั้งที่สองใส่เทอริโซนตอนนี้เลย ให้พวกมันได้ลิ้มรสความสิ้นหวังผ่านการโจมตีนี้! ทำทุกอย่างที่ทำได้ มันจะเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าแกสามารถจัดการพวกมันทั้งหมดในการโจมตีเดียว!” แดนคำราม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...