ซูโม่หว่านหัวเราะเบาๆ ปัดมือขาวราวหยกที่เกือบจะทิ่มปลายจมูกของตนออกเบาๆ
“มีคำกล่าวหนึ่งบอกว่าสารภาพออกมาเองโดยไม่ได้บีบบังคับ และยังมีอีกคำกล่าวหนึ่งบอกว่าร้อนตัวจนแสดงอาการออกมาเอง พระชายารองเสิ่นวิชาความรู้ลึกซึ้งกว้างขวาง น่าจะเข้าใจได้กระมัง? ”
"เจ้า - - "
เสิ่นมู่เยวี่ยถลึงตามอง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
“บังอาจ! กล้าเสียมารยาทกับคุณหนูของเราถึงเพียงนี้! ไม่เห็นจวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายของเราอยู่ในสายตาเลยใช่หรือไม่?! ” เมื่อเห็นคุณหนูของตนโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังเสิ่นมู่เยวี่ยก็รีบกล่าวสนับสนุนนาง
ซูโม่หว่านเอียงศีรษะเล็กน้อย "แล้วเจ้าเป็นใครมาจากที่ใด? เห่าหอนอย่างคึกคึกร่าเริงเช่นนี้ ติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าหรือ? "
"......เจ้า พูดสิ่งใดไม่เห็นรู้เรื่อง!"
สาวใช้ไม่เข้าใจคำพูดประโยคหลัง แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่คำพูดที่ดีอันใดแน่
ซูโม่หว่านวางถ้วยชาลงบนโต๊ะเสียงดัง ‘ปัง’ "งั้นพวกเรามาคุยเรื่องที่ฟังรู้เรื่องกันหน่อยดีกว่า ข้ากับคุณหนูของเจ้ากำลังคุยกันอยู่ ให้เจ้าพูดสอดขึ้นมาได้หรือ? เจ้ามีสถานะอันใด เป็นตัวแทนของเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้หรือ? หากว่าไม่ได้ ก็ให้เงียบปากอย่างเชื่อฟัง เพื่อที่ประเดี๋ยวจะได้ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์! ”
สาวใช้ตัวน้อยถูกเหน็บแนมจนสีหน้าประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวซีด รู้สึกอับอายและโกรธเคืองอย่างยากที่จะรับไปชั่วขณะ
“เจ้า เจ้าก็เป็นแค่บุตรอนุคนหนึ่ง! คุณหนูของข้าเป็นถึงบุตรฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี! สถานะสูงส่ง เจ้าพูดจาไม่อ่อนน้อมถ่อมตนหยาบคายไร้มารยาท มีฐานะต่ำกว่าแต่คิดจะเทียบเทียมกับผู้ที่มีฐานะสูงกว่า! ”
"เพียะ--"
เสียงฝ่ามือดังกึกก้อง
ซูโม่หว่านชักมือกลับ มองไปที่นายบ่าวทั้งสามคนที่ตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูกแวบหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเสียใจว่า "ต้องขออภัยด้วย ช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงอยู่สักหน่อย ทำให้พระชายารองตื่นตกใจแล้ว? "
สาวใช้ตัวน้อยตื่นตกใจกับความโหดเหี้ยมของซูโม่หว่านจนนิ่งอึ้งไปแล้ว มือกุมใบหน้าที่แสบร้อน เอ่ยขอความช่วยเหลือกับเสิ่นมู่เยวี่ยอย่างอึดอัดคับข้องใจไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า "คุณหนู..."
เสิ่นมู่เยวี่ยได้สติกลับคืนมา ก็ก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง "เจ้า เจ้าอาจหาญนัก! จะตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ! เจ้าเชื่อหรือไม่ข้าจะทูลท่านอ๋อง ——"
ซูโม่หว่านยิ้มพลางประชิดเข้าหา
"อ้อ? จะตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ? พระชายารองเสิ่นหมายความว่าข้าจะต้องปรึกษาหารือกับเจ้าเสียก่อนใช่หรือไม่?"
เธอสูงกว่าเสิ่นมู่เยวี่ยครึ่งศีรษะ แม้ว่าในเวลานี้บนใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่สายตากลับดูเหมือนแช่อยู่ในธารน้ำแข็ง ความเย็นยะเยือกแผ่ไปทั่วทั้งตัวหัวจรดเท้า บีบให้เสิ่นมู่เยวี่ยต้องรีบก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่: อย่าเย็นชากับข้า