นราวดีกอดกระเป๋าสะพายของตัวเองแน่นขณะเงยหน้ามองบริษัทใหญ่โต ตึกสูงระฟ้าตรงหน้า เธอถูกเรียกมาสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเลขา ซึ่งเธอไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ เรียนจบมาก็ตกงานยังไม่มีงานมีการทำงาน บางทีการที่เธอสัมภาษณ์ อาจจะได้งานบริษัทใหญ่โตที่นี่ก็เป็นได้ เขาว่าที่นี่เงินเดือนดีเสียด้วย
“เชิญค่ะ”
เสียงเรียกสัมภาษณ์ทำให้เธอเดินขาสั่นเข้าไปในห้องประธานบริษัท ตอนให้นั่งรอหน้าห้องยังนึกสงสัยว่าทำไมไม่มีผู้สัมภาษณ์รายอื่นเลย แต่เธอสลัดเรื่องนั้นทิ้งไป เนื่องจากใจต้องจดจ่ออยู่กับการสัมภาษณ์ของตัวเอง
“ขออนุญาตค่ะ”
เธอกล่าวกับคนที่นั่งหันหลังให้เธออยู่ เขาหมุนเก้าอี้มาทันทีที่เธอกล่าวจบ
นราวดีอ้าปากค้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยที่เคยรวมหัวกันแกล้งเธอ
เขาคือพี่เก้า หรืออัครัฐ อนันเลิศวรเกียรติ หนุ่มหล่อมาดเซอร์และแสนจะร่ำรวยของคณะบริหารธุรกิจที่เธอเรียนอยู่
“สวัสดีค่ะ”
เธอยกมือไหว้เขา เพิ่งหาเสียงเจอ และสำนึกว่าจ้องเขาตาไม่กะพริบ
“นั่งก่อนสิ”
เขาผายมือให้เธอนั่ง เธอขาสั่นระริกเดินไปนั่ง ก้มหน้างุด กอดกระเป๋าแน่น เม้มปากเข้าหากัน ถ้าบอกเขาว่าไม่ทำงานกับเขาตอนนี้จะทันไหมหนอ...
จริงๆ เธอไม่เหมาะกับที่นี่ตั้งแต่แรก เธอเซ่อๆ ซ่าๆ เงอะๆ งะๆ บ้านนอกอีกต่างหาก มาทำงานบริษัทหรูแบบนี้ จะทำตัวยังไงล่ะ
“ฉันอ่านแฟ้มประวัติของเธอแล้วยัยหนูนา”
“คะ?”
ประโยคของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้น คำเรียกชื่อเล่นทำให้เธอต้องกะพริบตาปริบๆ มันดูร้ายกาจและแฝงไปด้วยอะไรหลายอย่าง
อัครัฐเป็นผู้ชายที่ดูยากมากๆ ดวงเวลาสบล้ำลึกยังกับห้วงมหาสมุทร อ่านยาก ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ดูเจ้าเล่ห์ น่ากลัว เธอยอมรับว่ากลัวเขา
“คือ... นะ หนูนาไม่รู้ว่าบริษัทพี่ เอ๊ย! บริษัทคุณ ไม่งั้นจะไม่มาสมัครเลยค่ะ งั้นหนูหนาไม่สัมภาษณ์แล้วนะคะ หนูนาขอตัวก่อนค่ะ”
เธอรีบลุกจากเก้าอี้มือไม้สั่น สบตาเขาแล้วตัวสั่นระริก ก้มหน้างุดเดินจ้ำอ้าวไปที่ประตู
“นิสัยยังเหมือนเดิมเลยนะ”
ประโยคของเขาหยุดเธอเอาไว้ได้
“มะ... หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็ขี้ขลาดตาขาว ขอบให้คนอื่นดูถูกรังแก”
“หนูนาเปล่าสักหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์สวาท