“คุณแม่ว่าอะไรนะครับ!!!”
คราวนี้คนที่ทำน้ำเสียงตกใจกลายเป็นครามแทนเมื่อเขาได้ยินประโยคนั้นของมารดา
“ต้องไปตามตัวกลับมาทำงานให้ได้ ไม่อย่างนั้นเงินของแม่สูญแน่ๆ เลย”
“ครอบครัวเธอเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ครับ”
ครามเอ่ยถามอย่างสนใจ คุณครีมสุดาเดินไปหยิบสัญญาเงินกู้มาให้บุตรชายดู ครามนั่งดูอย่างใช้ความคิด
“งั้นเดี๋ยวผมจัดการทวงหนี้ให้คุณแม่เองนะครับ”
“ทวงยังไงก็ไม่มีปัญญาจ่ายหรอก เอามาทำงานใช้หนี้ดีที่สุด แม่ทวงแล้ว ทวงจนปากเปียกปากแฉะแล้ว แม่ก็เห็นใจว่าเคยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่นมนานเก่าก่อน แต่มีหนี้ก็ต้องจ่าย แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ”
ครามได้ยินมารดาบ่นอย่างไม่พอใจก็เงียบเสียงนั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างคนเดียวเงียบๆ
ชายหนุ่มถึงบริษัทก็เรียกฝ่ายบุคคลมาพบ ก่อนจะสั่งให้อีกฝ่ายโทรไปตามเพียงดารากลับมาทำงาน แต่พอฝ่ายบุคคลโทรไปแล้วกลับได้รับคำตอบที่ทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย
“คุณเพียงดาราเธอตอบปฏิเสธค่ะท่านประธาน”
“งั้นเอาเบอร์โทรศัพท์ของเธอมาให้ผม”
ครามได้เบอร์โทรศัพท์มาก็รีบโทรหาเธอทันที ปลายสายตอบกลับมาอย่างสุภาพเมื่อรอสายเพียงไม่นาน
“สวัสดีค่ะ โทรจากไหนคะ”
เพราะปลายสายเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย เธอเลยถามกลับไปแบบนั้น
“ผมเอง”
คำว่าผมเองทำให้เพียงดาราขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ผมไหนคะ”
เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงงุนงง
“ผัวคุณน่ะ”
ปลายสายที่ตอบกลบมาทำเอาเพียงดาราถึงกับอึ้งไป ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะแดงซ่านลามไปถึงใบหู
เสียงปลายสายที่เงียบไปทำเอาครามรีบพูดออกไปเพราะกลัวเธอจะชิงวางสายใส่เขา
“ทำไมไม่มาทำงาน คุณเป็นหนี้ผมอยู่นะ”
คำว่าหนี้ทำให้เพียงดาราเม้มปากเข้าหากันเล็กน้อย
ครามมองโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเอง เธอยังไม่วางสายแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรกับเขาทำให้เขาหัวเสียไม่น้อย
“คิดจะหนีหนี้หรือไงคุณ ถ้าพรุ่งนี้คุณยังไม่กลับมาทำงานอีก ผมจะยึดบ้านของคุณซะ”
“แต่ฉันยื่นใบลาออกไปแล้วนะคะ”
“ผมยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ คุณคิดว่าเจ้าหนี้คนไหนจะเซ็นใบลาออกให้ลูกหนี้ที่ไม่มีเงินใช้หนี้จนต้องให้มาใช้แรงงานแลกเงินบ้างล่ะ ลูกหนี้เดี๋ยวนี้นิสัยเหมือนกันหมด ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย”
“ค่ะ ฉันจะไปทำงาน แต่ขอไปทำแผนกอื่นได้ไหมคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เลขาหน้าหวานกับท่านประธานมาดเข้ม