เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย นิยาย บท 91

“แน่ใจนะว่าไปไหว”

ลินดาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นสภาพของยาหยีแล้วไม่ต่างจากคนซังกะตายเลยแม้แต่นิดเดียว

“ฉันสัญญาเอาไว้ตั้งแต่ตอนมาถึงแล้วนี่ ยังไงก็ต้องไปเป็นเพื่อนเธอ”

“แต่ฉันไปเองได้น่า ไม่ต้องกลัวฉันหลงทางหรอก ร้านนั้นอยู่ใกล้ๆ โรงแรมเองไม่ใช่เหรอ” ลินดายังพยายามคัดค้าน แต่ยาหยีไม่คิดจะยอมแพ้

“ถ้าไม่อยากให้ฉันผูกคอตายในห้องพัก ก็ให้ฉันไปด้วยเถอะลินดา บางทีการได้มองนู่นมองนี่อาจจะทำให้ฉันคลายความเจ็บลงบ้างก็ได้นะ” น้ำตาซึมออกมาอีกแล้ว แต่เจ้าตัวก็รีบป้ายมันทิ้งซะก่อน

ลินดามองเพื่อนด้วยความสงสาร หล่อนผิดเองที่บังคับให้ยาหยีมาที่กรุงมอสโกนี่ หล่อนผิดเองที่มองพลาดว่าคอร์เนลอาจจะยังรักยาหยีอยู่ แต่ทุกอย่างมันก็เป็นอย่างที่เห็น ยาหยีร้องไห้น้ำตาท่วมหน้ากลับมาเมื่อคืนมันก็ตอบคำถามได้ดีแล้วนี่ว่าพ่อเทพบุตรตาเขียวคนนั้นสิ้นเยื่อใยกับเพื่อนรักของหล่อนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

“ก็ได้...งั้นเราไปด้วยกันนะ”

ยาหยีฝืนยิ้ม ก่อนจะเดินตามหลังลินดาออกไปจากห้อง แม้ความเจ็บปวดจากวาจาถากถางของคอร์เนลที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจะยังไม่จางหาย แต่หล่อนก็ต้องข่มมันไว้ให้มิด หล่อนจะไม่ยอมอ่อนแอให้ใครต้องเป็นห่วงอีกแล้ว

‘หล่อนจะต้องเข้มแข็ง ลืมให้ได้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม หล่อนมาที่กรุงมอสโกนี่ก็เพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น ใช่...หล่อนมาเที่ยว ไม่มีอะไรมากกว่าการท่องเที่ยวเลย’

ยาหยีร้องบอกตัวเอง พร้อมกับฝืนยิ้มอีกครั้ง แม้มันจะยังเจือความขมขื่นอยู่บ้างก็ตามที

คอร์เนลยืนพิงรถคันงามของตัวเองอยู่ด้วยความหงุดหงิด เมื่อเซอร์เกคนที่ขับรถมาให้เขาในวันนี้เดินหายเข้าไปในร้านขายของฝากชื่อดังของกรุงมอสโกนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยต้องรอใครนานถึงขนาดนี้เลย จะมีก็แค่...ชายหนุ่มหยุดคิดเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินตรงไปยังร้านค้าขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยความคับข้องใจ

แล้วเขาก็ได้เห็นเซอร์เกกำลังยืนคุยอยู่กับยาหยีและลินดาอย่างออกรสออกชาติ ซึ่งมันยิ่งกระตุ้นต่อมเดือดดาลของเขาให้ทวีความรุนแรงมากขึ้นยิ่งนัก

‘ให้ตายเถอะ ปล่อยให้เขารอแหง็กอยู่ที่รถ ตลกสิ้นดี’

คอร์เนลคำรามอยู่ในอกขณะก้าวเท้าเข้าไปสมทบ

“นึกว่านายตายไปแล้วซะอีกเซอร์เก”

“นายน้อย...เอ่อ...พอดีผมบังเอิญเจอคุณลินดากับคุณยาหยีก็เลยทักทายกันตามประสาคนเคยรู้จักน่ะครับ นี่ก็กำลังจะกลับแล้ว” เซอร์เกละสายตาจากใบหน้าของยาหยีมายิ้มให้กับคอร์เนลที่ใบหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธใครมาสักร้อยชาติ

“ก็ดี...งั้นก็กลับได้แล้ว”

คอร์เนลจ้องมองยาหยีไม่วางตา ขณะที่หญิงสาวมองผ่านเขาไปราวกับเขาเป็นอากาศธาตุก็ไม่ปาน มันน่าแค้นใจนักที่ผู้หญิงที่คร่ำครวญว่ารักเขามากมายเมื่อวาน ตอนนี้กลับขว้างความเย็นชาใส่หน้าเขาราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คงคิดว่าเขาจะสนใจใช่ไหม ฝันไปเถอะแม่คุณ!

“ฉันจะไปรอที่รถ รีบตามไปด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะทิ้งนายไว้ที่นี่แหละ!”

ทันทีที่คอร์เนลก้าวยาวๆ ออกไปจากร้านขายของฝากด้วยความเดือดดาล เซอร์เกก็หันกลับมายิ้มบางๆ ให้กับยาหยีและลินดาอีกครั้ง

“อีกหน่อยก็คลั่งแล้วล่ะครับ อีกนิดเดียว”

“ช่างเขาเถอะค่ะ ฉันไม่อยากรับรู้เรื่องราวของเขาอีกแล้ว” ยาหยีพูดขึ้นเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึก ลินดายกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนเบาๆ

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะตีหน้าขรึมได้เนียนขนาดนี้ ดูพ่อเทพบุตรตาเขียวสิ หน้ามึนออกไปเลย คงจะตกใจที่ถูกเธอแสดงท่าทางเย็นชาใส่บ้างล่ะมั้ง” ลินดาหัวเราะออกมา ขณะที่ยาหยีเอาแต่ระบายยิ้มขมขื่นออกมาเท่านั้น

“ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ไว้วันเดินทางผมจะไปส่งที่สนามบิน”

“อย่าเลยค่ะ ฉันกับลินดากลับเองได้ ไม่อยากรบกวนคุณ” ยาหยีพูดด้วยความเกรงใจ เซอร์เกส่ายหน้าน้อยๆ

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เพราะบางทีคุณอาจจะไม่ได้กลับตามกำหนดก็ได้ ใครจะไปรู้ ผมไปก่อนนะครับ” เซอร์เกโบกมือให้สองสาว ก่อนจะรีบวิ่งออกจากร้านขายของฝากไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อะไรติดมือไปเลยแม้แต่อย่างเดียว

“นึกว่าจะนอนอยู่ในนั้นซะอีก” เมื่อมาถึงรถคันงามพ่อคนหน้าบูดก็ค่อนแคะทันที

“ขอโทษจริงๆ ครับนายน้อย”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก ว่าแต่ไหนนายบอกว่าจะเข้าไปซื้อของฝากเพื่อนที่รู้จักไง แล้วทำไมไม่เห็นได้อะไรติดมือมาสักอย่างเดียว”

น้ำเสียงข้องใจของคอร์เนลทำให้เซอร์เกต้องรีบแก้ตัว เพราะเขาคงไม่กล้าบอกออกไปหรอกว่าที่เข้าไปในนั่นก็เพราะเห็นยาหยีกับลินดาอยู่ข้างใน

“พอดีของที่อยากได้มันไม่มีน่ะครับ เอาไว้ผมไปหาดูร้านอื่นอีกครั้งดีกว่าครับ”

คอร์เนลหรี่ตาแคบมองคนสนิทอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะก้าวขึ้นรถ เซอร์เกถอนใจออกมาก่อนจะรีบสวมบทบาทสารถีพารถคันงามเคลื่อนออกไปจากหน้าร้านขายของฝากอย่างรวดเร็ว

ตลอดทางในรถมีแต่ความเงียบ คอร์เนลนั่งหลับตานิ่งคล้ายกับไม่ทุกข์ไม่ร้อนใดๆ ทั้งๆ ที่ภายในอกกำลังถูกแผดเผาด้วยไฟโลกันตร์อย่างอำมหิต ให้ตายเถอะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายาหยีจะกล้าแสดงท่าทางเย็นชาแบบนี้ใส่เขามาก่อน ทั้งๆ ที่เขาจ้องหล่อนซึ่งๆ หน้า แต่หล่อนก็ยังทำเฉย ทำเหมือนไม่มีเขาอยู่ตรงหน้า

‘ระยำ! นี่มันเรื่องระยำอะไรกันนะ’

คอร์เนลฟาดกำปั้นลงกับเบาะรถข้างตัวแรงๆ อย่างต้องการระบายอารมณ์ ทำไมเขาถึงลืมผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สักทีนะ ทั้งๆ ที่คิดว่าทำได้ดี ทำได้อย่างดีเยี่ยม แต่พอเห็นหล่อนไม่แยแสต่อการมีตัวตนของเขา ชายหนุ่มก็แทบคลุ้มคลั่ง เดือดดาลจนเจ็บลึกเข้าไปในอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย