‘คอร์เนลอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงหน้าหล่อน และก็ยังหล่อเลิศเหมือนเดิม’
เสื้อชุดสีเข้มทำให้ผู้ชายตรงหน้าดูแสนจะอันตราย แต่หล่อนจะต้องไม่กลัว จะต้องทำเป็นเหมือนแค่ลงมาคุยกับคนรู้จักเท่านั้น จะต้องทำให้ได้ด้วย
คอร์เนลเห็นท่าทางหมางเมินของยาหยีก็ยิ่งแค้นใจ ทั้งๆ ที่เป็นคนผลักไสไล่ส่งหล่อนไปเองเมื่อคืน แต่ทำไมนะ พอเห็นความไม่แยแสในดวงตาหวานๆ คู่นี้แล้ว หัวใจถึงได้เจ็บแปลบๆ ขึ้นมาอย่างรุนแรงแบบนี้
“มีอะไรก็ว่ามาค่ะ”
“ตรงนี้คนเยอะ ผมไม่ชอบให้ใครมอง”
เขาพูดเสียงไร้ความรู้สึก ก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ตรงหน้าและเดินตรงเข้ามาฉวยข้อมือหล่อนไปกุมเอาไว้ พร้อมกับดึงแล้วลากออกมายังหน้าโรงแรมที่มีรถสปอร์ตสีดำคันโปรดของเขาจอดรออยู่
“นี่คุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ!”
“หุบปากเถอะน่า แล้วขึ้นไปนั่งเงียบๆ บนรถ”
เขาผลักหล่อนให้ขึ้นไปนั่งบนรถ จากนั้นตัวเองก็เดินอ้อมรถกลับมานั่งประจำที่คนขับ รถราคาแพงระยับแล่นทะยานออกไปข้างหน้าราวกับกำลังเหาะอยู่บนฟ้า มุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์ซีร์ยานอฟ สถานที่ที่เมื่อคืนหล่อนถูกขับไล่ราวกับหมูกับหมา
“คุณพาฉันมาที่นี่อีกทำไม”
“บ้านผัวอยู่นี่ ไม่มาที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหนฮะ”
ยาหยีอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน
“คุณว่าอะไรนะ?”
“บอกแล้วไงว่าไม่อยากให้ใครได้ยิน ขึ้นไปพูดกันบนห้องนู่น ลงมา!” เขากระโดดลงไปจากรถทันทีที่มันจอดสนิท ยาหยีนั่งนิ่ง สมองมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยังไม่ได้ขยับตัว และนั่นก็ทำให้คอร์เนลโมโห เขาเดินอ้อมรถมากระชากประตูฝั่งของหล่อนให้เปิดออก ก่อนจะจับร่างของหล่อนพาดบ่าแล้วเดินเข้าไปในตึกใหญ่ด้วยความอุกอาจ
“นี่ปล่อยนะ คุณทำบ้าอะไร ปล่อยสิ!”
“น่ารำคาญน่ะลูกหยี เก็บเสียงเอาไว้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นดีกว่านะ”
คนตัวโตดุเสียงรำคาญจัด ขณะที่ยาหยีแก้มแดงก่ำเมื่อเข้าใจดีว่าประโยชน์อย่างอื่นที่เขาว่าน่ะมันคืออะไร แต่เขาไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้กับหล่อนนี่ เขาหมดสิทธิ์นั้นตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว หญิงสาวน้ำตาไหลพราก ความน้อยใจแล่นทะลักขึ้นมาจุกอก ยิ่งถูกเขาทุ่มใส่เตียงแรงๆ ด้วยแล้วก็ยิ่งคับข้องใจ
“หยุดทำบ้าๆ สักทีเถอะค่ะ เราจบกันแล้ว”
คอร์เนลแสยะยิ้มเย็นชา ยิ่งยาหยีทำเย็นชาใส่เท่าไร เขาก็ยิ่งทนไม่ได้
“มันไม่จบง่ายๆ อย่างนี้หรอกยาหยี”
“แต่คุณเป็นคนบอกให้ฉันไป คุณเป็นคนบอกให้ฉันเลิกรักคุณ และตอนนี้ฉันก็ทำได้แล้วด้วย คุณมันก็แค่คนที่ฉันเคยรู้จัก”
คำพูดคำนี้ของยาหยีทำไมถึงทำให้หัวใจของเขาเจ็บลึกราวกับถูกฟันด้วยมีดคมๆ นักนะ จบแล้ว ตัดใจจากเขาได้แล้วอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางหรอก เขาไม่ยอมให้มันลงเอยแบบนี้เด็ดขาด เมื่อคืนเขาก็แค่พ่ายแพ้ให้กับเจ้าสัตว์ร้ายในใจก็เท่านั้นเอง แท้จริงแล้วเขายังต้องการยาหยีไม่เคยเปลี่ยนแปลง ต้องการทุกนาที และก็จะต้องการจนวันตายด้วย
“เมื่อคืนคุณยังบอกว่ารักผมอยู่เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงตัดใจได้เร็วนักล่ะ”
คอร์เนลกระชากเสื้อสูทออกจากตัว ปลดกระดุมข้อมือ จากนั้นก็ไล่ปลดกระดุมด้านหน้าจนหมด สาบเสื้อแยกออกจากกันจนเห็นแผงอกกว้างปุกปุยด้วยเส้นขนสีเข้ม ยาหยีกลืนน้ำลายกับภาพยวนตานั้นโดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มก้าวขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร มารู้ตัวอีกทีร่างของหล่อนก็ตกอยู่ในอ้อมแขนกำยำเสียแล้ว
“ปล่อยฉันนะ ได้โปรดปล่อยฉันไป...อย่าทำร้ายฉันอีกเลย”
“ไม่! ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอีกแล้ว”
ยาหยีหัวเราะทั้งน้ำตา ยังจดจำช่วงเวลาที่คอร์เนลโยนเงินค่าตัวใส่หน้าตัวเองได้เป็นอย่างดี เขาใจร้ายได้อย่างสาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว
“บอกมาเถอะค่ะว่าตอนนี้คุณกำลังต้องการอะไร อีตัวหรือว่านางบำเรอคะ เงินที่มีคงหาผู้หญิงที่ถูกใจไม่ได้ใช่ไหม ถึงต้องไปลากฉันมาแก้ขัด”
“ลูกหยีอย่าประชดผมแบบนี้”
“ก็ในสายตาของคุณ ฉันมันอีตัวไม่ใช่หรือไง เมื่อคืนคุณทำให้ฉันรู้ตัวว่าฉันควรทำยังไงกับตัวเอง และฉันก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะลืมคุณให้ได้”
น้ำตาไหลพรากออกมา ความเจ็บปวดจากความโหดร้ายของผู้ชายตรงหน้าทำให้หล่อนไม่อยากจะเสี่ยงกลับเข้าไปในลำเนาเสน่หานั้นอีก กลัวว่าจะต้องเจ็บมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“แต่คุณไม่มีทางลืมผมได้ และทุกอย่างจะจบได้ก็ต่อเมื่อผมเป็นฝ่ายทำให้มันจบเท่านั้น”
อวดดี โอหัง แต่หล่อนก็ยังหลงรักเขาหัวปักหัวปำ ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะยังมีเยื่อใยต่อผู้ชายคนนี้อยู่อีก ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ถูกเขาไล่ราวกับหมูกับหมา
“แต่ฉันเกลียดคุณ”
คนตัวโตพรมจูบไปทั่วใบหน้าที่นองน้ำตาของหล่อน ลิ้นแกร่งของเขาไล้เลียจนหยาดน้ำตาแห้งเหือด
“คุณเกลียดผมไม่ลงหรอกลูกหยี คุณไม่สามารถเกลียดผมได้ ก็เหมือนกับที่ผมไม่สามารถเกลียดคุณได้เลย แม้ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม”
หญิงสาวเบิกตากว้าง มองผู้ชายเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นทั้งน้ำตา
“คุณน่ะเหรอไม่เกลียดฉัน ในเมื่อทุกอย่างที่คุณกระทำลงไป มันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง”
“ไม่มีความเกลียดเลยในความสัมพันธ์ของเรา มีแค่ความพยายามที่จะเกลียดเท่านั้น”
คนตัวโตดันร่างอรชรของยาหยีให้นอนลงบนที่นอน และทาบทับตามลงมา แม้จะพยายามขัดขืนแต่ก็ต่อสู้กับหัวใจของตัวเองไม่สำเร็จ เมื่อเช้าอุตส่าห์เล่นบทผู้หญิงเย็นชาได้อย่างดีเยี่ยม แต่มาตกม้าตายเอาตอนที่ถูกปากร้อนๆ มืออุ่นๆ สำรวจเนื้อตัวซะงั้น
“จำได้ไหมว่าผมเคยบอกว่ารักคุณ”
“คุณบอกว่าบางทีคุณอาจจะไม่เคยรักฉันเลย”
คอร์เนลระบายยิ้มออกมา ค่อยๆ เปลื้องผ้าออกจากกายสาว เจ้าหล่อนขัดขืนแต่เขาก็สามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นเลยแม้แต่นิดเดียว
“นั่นเป็นคำพูดที่ผมใช้ป้องกันหัวใจจากคุณต่างหาก แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ แค่เห็นคุณเย็นชาใส่เมื่อเช้า ผมก็คลั่งจนอกแทบจะระเบิดแล้ว รู้ไหมว่าผมยอมได้ทุกสิ่ง แต่ยอมให้คุณมองไม่เห็นผมอยู่ในสายตาไม่ได้”
“คุณพูดเหมือนกับว่าฉันคือคนสำคัญของคุณ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอก”
ยาหยีส่ายหน้า น้ำตายังคงไหลพราก คอร์เนลยิ้มบางๆ พร้อมกับก้มลงจูบปากอิ่มแผ่วเบา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย มันบอกให้รู้ว่าผู้ชายที่คนทั้งโลกเรียกว่าเทพบุตรผู้เหี้ยมโหดกำลังประหม่าและเขินอายอย่างที่สุด
“ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมพยายามบอกตัวเองว่าคุณทรยศ คุณไม่ได้รักผม และการที่คุณเอาตัวรับกระสุนแทนผมก็เป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งที่เกิดผิดพลาดเท่านั้น แต่ผมก็เกลียดคุณไม่สำเร็จ พยายามทำงานทั้งวัน พยายามควงผู้หญิงคนอื่น”
“ถึงได้มีข่าวกับผู้หญิงแทบทุกวัน”
คอร์เนลได้ยินคำพูดประชดประชันของยาหยีเต็มสองหูแต่เขาก็ไม่คิดจะโต้ตอบ ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการพูดยังไม่จบสิ้น
“แต่ผมก็ยังลืมคุณไม่ได้ ผมคิดถึงคุณทุกคืนจนต้องเปลี่ยนห้องนอน”
“ป้าเชอรี่บอกฉันแล้ว” เผลอระบายยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“และเมื่อคืน...ที่ผมทำร้ายกาจกับคุณลงไป ก็เพราะผมเกลียดตัวเอง เกลียดที่ตัวเองไม่เคยสามารถต้านทานคุณได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ภาพที่คุณร้องไห้อ้อนวอนผมมันบาดลึกลงมาที่กลางหัวใจดวงนี้” นิ้วแกร่งจี้แรงๆ ลงบนหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง
“ผมเจ็บ...เจ็บมาก แต่คงไม่เท่าคุณ...ผมขอโทษนะลูกหยี ขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บปวด เมื่อก่อนผมรักคุณมากแค่ไหน ตอนนี้ความรักของผมก็ยังคงมีให้คุณเช่นเดิม”
“แต่ว่าฉัน...”
นิ้วแกร่งยกขึ้นจุปากของหล่อนเอาไว้ และชิงพูดเสียเอง
“คุณคงเกลียดผมเข้าไส้แล้วสินะ แต่ถึงยังไงผมก็ยอมให้คุณจากไปไม่ได้อยู่ดี ผมคงต้องตายแน่ๆ หากข้างกายไม่มีคุณอีกครั้ง มันทรมานนะที่ต้องนอนหลับไปพร้อมๆ กับความคิดที่ว่าคุณจะไม่กลับมาหาผมอีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย