"หวานทำให้พี่พัดชาลำบากใจรึเปล่าคะ ถ้าพี่พัดชาลำบากใจเดี๋ยวหวานไปนั่งกินคนเดียวก็ได้ค่ะ" น้ำหวานก้มหน้าหลบสายตาเพราะรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของพัดชาที่แสดงออกผ่านรอยยิ้มเยือกเย็นและคำพูดกระแทกแดกดัน
"ไม่ต้องหรอก นั่งตรงนี้แหละ" เป็นพารันที่พูดขึ้นเสียงเรียบหลังจากนั่งเงียบมาสักพัก
"พี่พารันไม่ต้องรักษาน้ำใจก็ได้นะคะ ถ้าไม่สะดวกใจจะให้หวานนั่งด้วยหวานไปนั่งกินคนเดียวก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะกินข้าวกันไม่อร่อยเปล่าๆ"
"ไม่ต้องคิดมากกับคำพูดของพัดมันหรอก แค่นั่งกินข้าวด้วยกันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"
"นั่นสิ ไม่เห็นต้องคิดมากกับคำพูดของพี่เลย" พัดชาเอ่ยแทรกขึ้นก่อนที่น้ำหวานจะได้พูดอะไรออกมา "ถ้าไม่ร้ายกับพี่ก่อน พี่ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องร้ายกับน้องหวานหรอก"
"ขอโทษนะคะที่เมื่อกี้หวานรู้สึกไม่ค่อยดีกับคำพูดของพี่พัดชา หวานคงคิดมากเกินไป"
"ดีแล้วที่คิดมาก ดีกว่าคิดน้อยหรือไม่คิดเลยนะ"
"..." น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของพัดชา เพียงแค่เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นของอีกฝ่ายก็รู้สึกเสียวสันหลัง
"ไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้นก็ได้ พี่ร้ายเฉพาะกับคนที่ควรร้ายด้วยเท่านั้นแหละ"
"รีบกินข้าวเถอะ กูเบื่อบรรยากาศแบบนี้ฉิบหาย" นักรบที่นั่งฟังเงียบๆมาตั้งแต่ต้นเอ่ยแทรกขึ้นอย่างเบื่อหน่ายเพื่อหยุดบทสนทนาระหว่างสองสาว คำพูดตรงๆของเขาทำเอาน้ำหวานหน้าถอดสี ต่างจากพัดชาที่ยังมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า ถึงอย่างนั้นก็ยอมสงบปากสงบคำ นั่งกินข้าวต่อเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
"ขอบคุณนะคะที่ยอมให้หวานนั่งกินข้าวด้วย" น้ำหวานคลี่ยิ้มบางๆอย่างเขินอายขณะเดินออกมาจากศูนย์อาหารพร้อมกับพารัน หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"แค่นั่งกินข้าวด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอบคุณขนาดนั้น"
"พี่พารันคะ"
"หือ?"
"ตอนแรกหวานกลัวว่าพี่พารันกับพี่พัดชาจะเป็นมากกว่าเพื่อนกันจริงๆเลยไม่กล้าขอเบอร์ไว้ตอนจะออกจากโรงแรม ถะ..ถ้าตอนนี้หวานจะขอเบอร์พี่พารันไว้ได้ไหมคะ"
"อยากได้เบอร์พี่ขนาดนั้นเลย?"
"..." หญิงสาวกัดปากเบาๆกลบเกลื่อนความเขินอายเมื่อพารันหยุดฝีเท้าแล้วก้มลงมามองหน้าตรงๆ ทั้งที่มีสายลมเย็นฉ่ำพัดมากระทบตัวตลอดเวลาแต่ใบหน้าของเธอกลับร้อนเห่อเพราะสายตาคู่นั้นที่มองมา
"ถ้าไม่มีใครจะไปไหนแล้วฉันกลับเลยนะ ปวดหัวทั้งวัน จะกลับไปนอนพักแล้ว" พัดชาที่เดินตามหลังมาปรายตามองสีหน้าเขินอายของน้ำหวานเพียงนิด ก่อนจะเดินกรีดกรายบนรองเท้าส้นสูงออกไป โดยมีนักรบเดินตามหลังไปติดๆ
"กูก็จะกลับแล้วเหมือนกัน อยากเล่นอะไรก็เต็มที่เลย" มาวินยกยิ้มให้พารันเป็นการทิ้งท้าย ก่อนจะเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้พารันและน้ำหวานยื่นอยู่ด้วยกันท่ามกลางสายตาของนักศึกษาหลายสิบคนที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ
"หึงไอ้พายมันรึไงถึงรีบเดินออกมา"
"นั่นสิ ฉันหึงพายมันรึเปล่านะ?" พัดชาแสร้งทำหน้าครุ่นคิดเมื่อเจ้าของคำถามอย่างนักรบเดินตามมากอดคอหลวมๆ
"ต้องให้กูกับไอ้วินปวดหัวกับพวกมึงสองคนไปถึงไหน ทำไมไม่คบกันไปให้มันจบๆวะ"
"ไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องของฉันหรอกน่า เป็นแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว"
"ขอบคุณสำหรับคำชม แต่ฉันกลับก่อนดีกว่า เจอกันคืนนี้" พัดชาปัดท่อนแขนแกร่งของนักรบออกจากลำคอเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถหน้าคณะฯ แล้วเดินตรงไปที่รถยนต์คันหรูของตัวเองซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลนัก
"มึงทิ้งไอ้พายไว้กับเด็กคนนั้น?" นักรบเลิกคิ้วถาม ซึ่งมาวินก็พยักหน้าให้เป็นคำตอบ "เดี๋ยวมันก็โดนคาบไปแดกหรอก"
"ถ้าโดนคาบไปแดกง่ายขนาดนั้นก็อย่าเรียกมันว่าเจ้าพ่อพารันเลย" มาวินรีบเดินเลี่ยงออกไปที่รถยุโรปคันหรูของตัวเองหลังพูดจบประโยค นักรบเองก็เดินแยกออกไปอีกทางหนึ่งเหมือนกัน
"พี่พัดชาคงไม่ได้โกรธหวานใช่ไหมคะ" น้ำหวานทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นพัดชาเดินไกลออกไป
"ถ้ามันโกรธคงไม่เดินหนีไปแบบนั้นหรอก"
"แต่ก็คงไม่พอใจที่หวานขอเบอร์พี่พารัน"
"ช่างเถอะ พี่ว่าจะกลับแล้ว"
"เอ่อ...ละ..แล้วเบอร์ล่ะคะ"
"เอาไว้ถ้าน้องน้ำหวานมีความจำเป็นต้องโทรหาพี่บ่อยๆก็ค่อยมาขอเบอร์พี่อีกทีแล้วกัน ยังไงก็เรียนคณะเดียวกันอยู่แล้ว"
"...ค่ะ" หญิงสาวตอบรับด้วยรอยยิ้ม เมื่ออีกฝ่ายตัดบทสนทนาก็ไม่อยากเซ้าซี้
พารันหันหลังให้แล้วเดินออกมาทันที โดยมีสายตาของน้ำหวานมองตามไปจนลับตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท