@หลายวันต่อมา
"ไปเที่ยวหลายวันเลยนะเจ๊ รอบนี้มีหลานมาฝากพวกเราไหม" คำทักทายหยอกล้อของอาชาดังขึ้นเป็นคนแรกทันทีที่พัดชาเดินเข้ามาในผับของตัวเอง หลังจากทิ้งภาระให้อาชาเป็นคนดูแลความเรียบร้อยทั้งหมดเกือบหนึ่งสัปดาห์
"อารมณ์ดีกันขนาดนี้แสดงว่าไม่มีปัญหาอะไรระหว่างที่ฉันไม่อยู่ใช่ไหม"
"ใครมันจะกล้ามามีปัญหากันในผับของเจ๊ล่ะ" เด็กหนุ่มหน้าตาดีเป็นเจ้าของคำพูดนั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกน้องของพัดชาที่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในผับเช่นเดียวกับอาชา วาโยคือชื่อของเขา
"ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ดี งั้นไปทำงานกันได้แล้ว"
"แต่ไปเที่ยวกลับมาคราวนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะเจ๊ สงสัยพวกเราจะได้อุ้มหลานแล้วล่ะมั้ง" วาโยไม่วายหยอกล้อในตอนที่พัดชากำลังจะเดินขึ้นไปบนชั้นสอง ทำให้เธอต้องหันกลับไปหาเขาที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ข้างบันไดอย่างเลี่ยงไม่ได้ "แต่ถ้าลูกเจ๊เป็นผู้หญิงผมขอสมัครเป็นลูกเขยคนแรกนะเจ๊"
"จะมาเป็นลูกเขยกูถามลูกตะกั่วกูรึยัง" ยังไม่ทันที่พัดชาจะได้ตอบอะไรกลับไปน้ำเสียงกระด้างของพารันก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน ทำเอาวาโยซึ่งเป็นเจ้าของคำแซวนั้นเสียวสันหลังวาบ
"ขอโทษครับเฮีย ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ"
"พวกมึงไม่มีการมีงานทำกันรึไงถึงมานั่งแซวเมียกูอยู่ได้"
"ผับยังไม่เปิดเลยเฮีย พวกผมแค่มาดูแลความเรียบร้อยก่อนเวลาเฉยๆ แต่เดี๋ยวผมขอตัวไปดูหลังร้านหน่อยดีกว่า" วาโยยิ้มเจื่อนเมื่อเห็นสีหน้าดุดันของพารัน ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปเป็นคนแรก โดยมีเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรกเดินตามออกไป
"งั้นผมไปทำงานก่อนนะเจ๊" เมื่อเห็นคนอื่นๆเอาตัวรอดด้วยการปลีกตัวออกไปทำงาน อาชาเองก็รีบลุกขึ้นเดินตามไปเหมือนกัน
"ทำเป็นหวงไปได้ ฉันยังไม่ได้ท้องสักหน่อย" พัดชาส่ายหน้าน้อยๆอย่างเอือมระอาเมื่อลูกน้องทุกคนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว
"อยากมีตอนนี้เลยไหมล่ะ"
"ฉันไม่อยากเป็นแม่คนตอนนี้"
"แล้วมาทำเป็นพูดดีว่าจะยกลูกสาวให้ไอ้คาไลน์"
"แล้วบอกตอนไหนว่าจะยอมมีลูกให้ตอนนี้ ฉันเพิ่งยี่สิบกว่าเองนะ มีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะ ไม่มีเวลามาเลี้ยงลูกหรอก ฉันยังขาดคุณสมบัติที่จะเป็นแม่ที่ดีนะ" พารันทำหน้าเซ็ง แล้วเดินเข้าไปกอดคอพัดชาหลวมๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองพร้อมกัน
"มึงทำงานเถอะ กูไม่กวนแล้ว" เขาเดินเลี่ยงออกไปหยิบเครื่องดื่มในตู้เย็นทันทีที่เดินมาถึงห้องทำงาน ในขณะที่พัดชาเดินเข้าไปทิ้งตัวลงบนโซฟา นั่งมองพารันเงียบๆ
ครืด~ ครืด~
ความเงียบที่ปกคลุมถูกทำลายลงด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือของพัดชา ทำให้เธอต้องละสายตาจากพารัน แล้วหยิบมือถือเครื่องหรูในกระเป๋าสะพายข้างออกมา กดรับสายอย่างไม่ลังเลเมื่อเห็นชื่อของเอริคปรากฏอยู่บนหน้าจอ
"ฮัลโหล"
(ตอนนี้อยู่ไหน)
"ฉันน่าจะเป็นฝ่ายถามมากกว่านะว่าตอนนี้นายอยู่ไหน ทำไมไม่ติดต่อมาบ้างเลย"
(แล้วทำไมเธอไม่เป็นฝ่ายติดต่อมาหาฉันเองล่ะ หรือฉันต้องเป็นฝ่ายเดินตามเธอตลอด)
"นี่โทรมาหาเรื่องกันรึไง เมาเหรอ"
(มาหาหน่อย)
"..." พัดชาเงียบไปเมื่อได้ยินคำนั้นจากคนปลายสาย เธอปรายตามองพารันเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่แสดงออกทางสีหน้าว่าไม่พอใจ
(เงียบทำไม อยู่กับมันเหรอ)
"กูเชื่อใจมึง แต่ไม่เชื่อใจมัน" พัดชาอมยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพายข้าง แล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินอ้อมไปหาพารัน มือบางประคองใบหน้าคมคายไว้หลวมๆ
"เลิกคิดมากได้แล้ว เดี๋ยวฉันกลับมา"
"ถ้าไอ้เอริคมันแตะต้องมึงกูสาบานเลยว่าจะฆ่ามันพร้อมกับไอ้ลูเซียน" เธอเพียงแค่พยักหน้ารับเพื่อให้อีกคนสบายใจ แล้วโน้มใบหน้าลงไปจูบเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูปโดยไม่มีการรุกล้ำใดๆ ก่อนจะถอนจูบออก และเดินออกไป โดยมีสายตาของพารันมองตามไปจนบานประตูปิดลง
@คฤหาสน์ของเอริค
แกร๊ก~
"มาแล้วเหรอ" เอริคถามเสียงเรียบเมื่อเห็นประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของพัดชา ขณะที่เขานั่งกินเหล้าอยู่บนโซฟา
"มีเรื่องกลุ้มใจเหรอถึงดื่มหนักขนาดนี้"
"แค่เบื่อๆไม่มีอะไรทำ มานั่งสิ"
"มีเรื่องจะคุยกับฉันเหมือนกันเหรอถึงโทรมาได้" พัดชาเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม เหลือบมองขวดเหล้าที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจนัก
"โทรหาเธอต้องมีธุระด้วยเหรอ"
"เลิกประชดกันสักที ฉันไม่ชอบ"
"เธอมีสิทธิ์ไม่ชอบคนเดียวเหรอ ในขณะที่ฉันต้องชอบทุกอย่างที่เธอทำว่างั้น?" เอริคแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน แล้ววางแก้วเหล้าในมือลง
"..." ท่าทีที่แปลกไปของเอริคสร้างความงุนงงให้พัดชาไม่น้อย เธอเลือกที่จะเงียบเพราะคิดว่านั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท