เสียงเกลียวคลื่นซัดกระทบฝั่งในยามเย็นราวกับเสียงบรรเลงเพลงของธรรมชาติ สายลมเย็นฉ่ำพัดโกรกกระทบกับต้นไม้ริมชายหาดจนเกิดเป็นเสียงสอดประสานกัน แสงพระอาทิตย์สีทองตกกระทบสู่ผืนน้ำทะเลสีฟ้าครามจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับเมื่อยามทอดสายตามอง
"ทะเลที่นี่ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ" ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนเผยอเปล่งเสียงเบาๆ ขณะที่ดวงตาโฉบเฉี่ยวภายใต้แพขนตางอนสวยทอดมองไกลออกไปยังผืนทะเลกว้างใหญ่ พัดชาคลี่ยิ้มบางๆขณะยืนรับลมอยู่ริมระเบียงของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
"ใช่ เมื่อสี่ปีที่แล้วมันก็สวยแบบนี้แหละ" พารันที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังกอดกระชับแฟนสาวแน่นขึ้น พร้อมกับเกยคางไว้บนศีรษะทุยเล็ก
"อยากมาเที่ยวทะเลเหรอ ไม่เห็นบอกก่อนเลย นึกว่ามาเยี่ยมพ่อกับแม่อย่างเดียว"
"เมื่อสี่ปีก่อนพายเคยสัญญาไว้ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ด้วยกันอีก อาจจะนานไปหน่อยแต่พายอยากทำตามสัญญา"
"ยังจำได้ด้วยเหรอ"
"ถ้าเป็นเรื่องของเราไม่มีเรื่องไหนที่พายจำไม่ได้ ตอนนั้นเพลลินยังอยู่ในท้องพัดอยู่เลย แต่ตอนนี้กำลังวิ่งเล่นอยู่บนชายหาดที่เราเคยหยอกกันเมื่อสี่ปีที่แล้ว เวลามันผ่านไปเร็วมากเลยนะ" เขาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองลงไปที่ชายหาดแล้วเห็นเพลลินกำลังวิ่งเล่นกับคาไลน์อย่างสนุกสนาน รอยยิ้มของลูกสาวที่มองเห็นจากไกลๆพลอยทำให้เขายิ้มตามไปด้วย
"แต่ตอนนี้ก็ยังมีตัวเล็กอยู่ในท้องพัดอีกคนนะ เหมือนตอนนั้นเลย" พัดชาค่อยๆหมุนตัวเข้าหาแผงอกแกร่งเปลือยเปล่า ยกแขนขึ้นมากอดเอวสอบไว้หลวมๆ
"นั่นสิ งั้นเรามาที่นี่ด้วยกันทุกปีเลยนะ มาทบทวนความหลังแล้วก็สร้างความทรงจำใหม่ๆ"
"พัดยังไงก็ได้ ตามใจพายอยู่แล้ว ว่าแต่คิดไว้รึยังว่าจะตั้งชื่อตัวเล็กว่าอะไรดี"
"คนแรกชื่อเพลลิน คนที่สองเป็นผู้ชายให้ชื่อเพทายก็แล้วกัน ครอบครัวตัวพ. น่ารักไหม?"
"ฮ่าๆ ชื่อที่พายตั้งให้ต้องน่ารักอยู่แล้ว"
"คราวนี้พายศึกษาวิธีทำคลอดมาแล้วนะ รับรองว่าถ้าได้ทำคลอดเองต้องดีกว่าครั้งแรกแน่นอน"
"ยังจะมีครั้งที่สองอีกเหรอ"
"ทำให้ท้องได้ก็ต้องทำคลอดเองได้สิ"
"หยุดความคิดแบบนั้นไว้แค่นี้เลย"
"ฮ่าๆๆ นี่จริงจังนะเนี่ย อีกหน่อยคงวางมือจากการเป็นมาเฟียไปเป็นหมอตำแยหาเลี้ยงเมียกับลูกแทนแล้ว" พารันพูดติดตลกพลางรวบผมยาวสลวยของแฟนสาวที่ปลิวไสวไปตามแรงลมขึ้นเป็นหางม้า เรียกรอยยิ้มขบขันจากเธอ
"ทำคลอดให้พัดคนเดียวก็พอ หวง ไม่อยากให้พายมองตรงนั้นของผู้หญิงคนอื่น"
"รู้ตัวไหมว่าตั้งแต่มีลูกพัดน่ารักขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่ถึงยังไงก็ยังเป็นแม่มดของพายอยู่ดี" ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกันที่เป่ารดลงมาเหนือริมฝีปาก ฝ่ามือหนาหยาบกร้านบีบเคล้นบั้นท้ายงอนงามใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวเบาๆ ก่อนจะค่อยๆสอดมือเข้าไปใต้แพนตี้ลายลูกไม้สีดำตัวจิ๋วที่แทบจะปกปิดดอกไม้งามอวบนูนไม่มิด
"เดี๋ยวคนอื่นเห็นนะ"
"ไม่มีใครเห็นหรอกถ้าไม่มองขึ้นมา" ริมฝีปากหนาแนบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างนุ่มนวล แล้วค่อยๆสอดเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากบางอย่างละเมียดละไม ก่อนจะเปลี่ยนความนุ่มนวลให้กลายเป็นสัมผัสเร่าร้อนในนาทีต่อมา
"อืม~" หญิงสาวหลับตาพริ้ม เปล่งเสียงในลำคอเบาๆตอบรับสัมผัสหนักหน่วงของเรียวลิ้นสาก มือบางลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังแกร่งกำยำ แล้วค่อยๆลากลงไปกำขอบผ้าขนหนูของพารันแน่น ตวัดเกี่ยวเรียวลิ้นสากเข้ามาดูดดุนในโพรงปากอย่างไร้ความรังเกียจ
เพียะ!
พารันฟาดมือลงบนบั้นท้ายงอนงามอย่างไม่แรงนักเมื่อโดนกลั่นแกล้ง ทำให้พัดชาต้องเป็นฝ่ายถอนจูบออกก่อน แต่ยังไม่วายยั่วยวนด้วยการเลียริมฝีปากเบาๆ
"ยั่วเก่งเหลือเกินนะ"
"แต่พายก็ชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ"
"หึ เลิกยั่วแล้วไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว จะได้ลงไปเล่นน้ำกับเพลลิน ไม่งั้นจะเปลี่ยนใจให้เล่นน้ำของพายแทนนะ"
"ลงไปข้างล่างจะไม่อ้วกอีกเหรอ"
"ไม่หรอก มาเที่ยวกันทั้งทีคงไม่โดนลูกแกล้งหรอก"
"งั้นขอเวลาเปลี่ยนชุดแป๊บนะ" พัดชาฝังจมูกลงบนแก้มสากฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำ พารันเองก็เหมือนกัน
"คุณหนูอย่าวิ่งแบบนั้นครับ เดี๋ยวล้มนะ" คาไลน์มองเจ้านายตัวน้อยที่กำลังวิ่งเล่นอยู่บนชายหาดเย็นเฉียบด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเดินเข้าไปหมายจะจับตัวเธอไว้ แต่เพลลินกลับวิ่งหนีพลางหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน
พลั่ก!
"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ" เขาหยุดฝีเท้าชะงักเมื่อจู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งถอยหลังมาชนกับเขาที่กำลังเดินตามเพลลินเข้าอย่างจัง ร่างกายทำงานอัตโนมัติด้วยการยกแขนขึ้นมาประคองหญิงสาวคนนั้นไว้
"ขอโทษค่ะ พอดีจะให้เพื่อนถ่ายรูปให้แล้วไม่ทันได้มองข้างหลัง เจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ" หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดบิกินี่สีแดงอวดเนินอกอวบอิ่มหมุนตัวกลับมาเอ่ยถามทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของคาไลน์ พวงแก้มใสค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเมื่อได้มองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าในระยะประชิด
"ไม่เป็นไรครับ" คาไลน์รีบผละตัวออกห่าง ตั้งท่าจะเดินไปหาเจ้านายตัวน้อยที่กำลังสนุกสนานอยู่คนเดียว แต่เพลลินก็เดินหน้ามุ่ยเข้ามาหาเสียก่อน
"ปาป๊า อุ้ม~" เด็กน้อยแหงนคอมองอย่างออดอ้อนพร้อมยื่นแขนให้ ทำให้คาไลน์ต้องอุ้มเธอขึ้นแนบอกทั้งที่ยังแปลกใจกับคำเรียกของเธอ
"ปาป๊าขาหนูคิดเถิงหม่ามี๊แย้ว" เพลลินมองคาไลน์ตาแป๋ว ก่อนจะหันมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าตาขวาง ริมฝีปากน้อยๆเบะคว่ำลงอย่างไม่ชอบใจ
"เอ่อ...ลูกสาวเหรอคะ? น่ารักจังเลยค่ะ"
"นี่ปาป๊าของหนู! หนูรักของหนูมาตั้งแต่เด็กแย้ว อย่ามาแย่งของหนู!"
"ฮ่าๆ หวงคุณพ่อจังเลยนะคะ ฉันไม่รบกวนเวลาคุณแล้วดีกว่าค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ" หญิงสาวหัวเราะขบขันกับท่าทางขู่ฟ่อราวกับแมวน้อยของเพลลิน ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนสาวที่ยืนรออยู่ไม่ไกล แม้จะแอบเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับชายหนุ่มที่ตัวเองพึงใจก็ตาม
"คุณหนูทำแบบนั้นใส่คนอื่นไม่น่ารักเลยนะครับ" คาไลน์เอ็ดเบาๆ
"หนูไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งกับคาลายของหนู"
"นอกจากคุณหนูแล้วก็ไม่มีใครยุ่งกับผมหรอกครับ"
"จริงหย๋อ~"
"มีเรื่องอะไรกัน" ยังไม่ทันที่คาไลน์จะได้ตอบกลับไปเสียงเข้มของพารันที่เพิ่งเดินลงมาที่ชายหาดพร้อมกับพัดชาก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน พารันมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ และมองเห็นการกระทำของลูกสาวที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าหวงแหนคาไลน์
"ปาป๊า!" เด็กน้อยยิ้มหวานพลางดิ้นเบาๆจนคาไลน์ต้องค่อยๆวางเธอลงบนพื้นทราย ทันทีที่ได้รับอิสระเพลลินก็รีบวิ่งไปหาผู้เป็นพ่อทันที
"คนสวยของป๊าก่อเรื่องอะไรอีก หืม?" พารันอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นแนบอก แล้วเดินไปนั่งบนเสื่อใต้ร่มไม้ที่คาไลน์ปูไว้ โดยมีพัดชาและคาไลน์เดินตามหลังมา
"ปาป๊าขาทำไมที่คอปาป๊าเป็นแบบนี้" นิ้วชี้น้อยๆจิ้มลงบนรอยแดงตรงลำคอของผู้เป็นพ่อเบาๆ
"หม่ามี๊ทำครับ"
"ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะ"
"ฮ่าๆๆ ขอบคุณที่ทำให้พายมีความสุขขนาดนี้นะ ขอบคุณที่คลอดลูกสาวที่น่ารักของเราออกมา" ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้าไปคลอเคลียพวงแก้มนวลเบาๆ ขณะที่พัดชาทิ้งศีรษะลงบนบ่าแกร่ง มองลูกสาวที่กำลังเล่นน้ำกับคาไลน์อย่างสนุกสนานแล้วอมยิ้มน้อยๆ
"งั้นก็ต้องขอบคุณพายเหมือนกันนะที่ทำให้พัดได้คลอดเพลลินออกมา แล้วตอนนี้ก็ยังมีตัวเล็กอีกคนอยู่ในท้อง ไม่คิดเลยนะว่ามันจะเป็นแบบนี้"
"แต่พายคิดนะ ตั้งแต่รู้จักกับพัดก็คิดมาตลอดว่าอนาคตจะเป็นแบบนี้ เรายังรักกันเหมือนเดิม ไม่สิ รักกันมากกว่าเดิม แล้วก็มีลูกด้วยกัน เป็นครอบครัวที่อบอุ่น"
"พูดแบบนี้แล้วนึกถึงความเถื่อนของพายเมื่อก่อนเลยนะ"
"กูรักมึงนะ..." น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นข้างกกหูหลังจบประโยคของเธอ แม้จะมีเสียงลมพัดแทรกเข้ามาแต่ก็ได้ยินคำนั้นอย่างชัดเจน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงระรัวเมื่อหวนนึกถึงวันเวลาเก่าๆที่ผ่านมา พัดชาเอียงหน้าเข้ามาสันกรามคมแล้วหลับตาลงช้าๆ
"ฉันก็รักแกเหมือนกัน"
"พายรักพัดนะ"
"รู้แล้ว เมื่อกี้ได้ยินแล้ว"
"ไม่ได้กลัวว่าจะไม่ได้ยิน แค่อยากให้รู้ว่าไม่ว่าจะสรรพนามแบบไหนแต่พายก็ยังรักพัดเหมือนเดิม"
"พัดไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก เพราะคำว่ารักของพายมันบอกด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด" เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วรั้งใบหน้าคมคายลงมาประชิด ประกบจูบอย่างนุ่มนวลโดยไม่สนใจสายตาของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่มองมา ท่ามกลางเสียงเกลียวคลื่นซัดกระทบฝั่งเธอแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ความสุขเอ่อล้นจนกลั่นออกมาเป็นความอ่อนโยน
"อืม~ เพิ่งรู้ว่าแม่มดจูบอ่อนโยนแบบนี้เป็นด้วย" พารันเอ่ยหยอกล้อประชิดริมฝีปากอวบอิ่ม พร้อมใช้ขมับกระแทกหน้าผากมนเบาๆ
"รักพายนะ รักมากด้วย"
"อ้อนเก่งจริงๆเลยนะ แต่ถ้าอ้อนขนาดนี้จะพูดให้ฟังอีกรอบก็ได้"
"..."
"รักพัดนะ รักมากด้วย" พัดชาอมยิ้มเล็กน้อย หัวใจพองโตกับคำบอกรักของแฟนหนุ่ม ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นกระตุกแขนเขาเบาๆ
"หวานจนเลี่ยนแบบนี้ไม่ใช่ทางของแม่มดกับปีศาจหรอก ไปเล่นน้ำกันดีกว่า"
"นั่นสิ" พารันยิ้มกริ่มแล้วหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง ค่อยๆช้อนตัวพัดชาขึ้นในท่าเจ้าสาวอย่างระมัดระวัง "ไปทบทวนความหลังของเราดีกว่า จำได้ไหมว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วเราทำอะไรกันในน้ำทะเล"
"อย่ามาพูดจาไร้ยางอายแบบนี้นะ! ตอนนั้นไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"
"งั้นก็ทำตอนนี้เลยเป็นไง เผื่อเพลลินจะอยากเห็นว่าเราต่อแขนขาให้เจ้าตัวเล็กยังไง"
"ไอ้บ้านี่! จะตอนนี้หรือตอนนั้นก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ"
"เพราะพายยังเป็นปีศาจพารันคนเดิมของแม่มดพัดชาเสมอไง" พารันหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินไปหาเพลลินกับคาไลน์ทันที ขณะที่พัดชาได้แต่ทำหน้ามุ่ย หากแต่หัวใจดวงน้อยมันพองโต
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสี่คนส่องสะท้อนภายใต้แสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ตกกระทบสู่ผืนน้ำทะเลสีฟ้าคราม
ความรักที่เริ่มจากมิตรภาพแม้จะมีช่วงเวลาที่ไม่สวยงาม แต่ปลายทางของความสัมพันธ์คือรอยยิ้มและความสุข...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท