วริศเองก็เพิ่งเห็นข่าว “น่าจะเป็นข่าวที่คุณนายปล่อยครับ บัตรเชิญก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
“……”ภีมพลเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เงยหน้าขึ้นและหลับตาลง
วริศอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ภีมพลเอ่ยปาก “มีรูปแม่ของลูกฉันไหม?”เขาค้นหาในอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่ไม่พบอะไรเลย
แม้แต่เรื่องที่เขามีลูกก็ไม่ถูกบันทึกไว้ ราวกับว่ามันถูกลบโดยเจตนา
“ไม่มีครับ”วริศกลับเปลี่ยนเรื่อง “คุณภีม เสาร์นี้ท่านว่างไปถ่ายรูปชุดวิวาห์กับคุณญาณีหรือเปล่าครับ?งานผมเลื่อนแล้วครับ”
“เลื่อนงานแต่งไป”ภีมพลหว่างคิ้วขมวดเล็กน้อย แล้วมองมาที่เขา “ฉันไม่อยากแต่งงาน”
“เรื่อง... เรื่องนี้ผมเกรงว่าท่านต้องคุยกับคุณนายครับ”วริศทำหน้าไม่ถูก “ผมเป็นแค่ผู้ส่งสารเท่านั้นครับ อีกอย่างการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญของตระกูลกงพลี และได้รับความสนใจจากคนภายนอกเป็นอย่างมาก”
ทั้งสองสบตากัน ในใจรู้สึกวริศไม่เป็นสุข “คุณภีม……”
ภีมพลยืนขึ้นแล้วจึงเดินออกไป
“ท่านจะไปไหนครับ?”วริศหันไปมองแผ่นหลังนั้นอย่างกังวล “อีกสักครู่จะมีประชุมอีกนะครับ!”
“คุณก็เข้าไป ฉันจะไปหาแม่ฉัน”เขาหายตัวไปจากประตูอย่างรวดเร็ว
วริศตะลึง รู้สึกว่าเขาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง การสูญเสียความทรงจำไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิเสธญาณี
หากไม่ชอบใคร ไม่ว่าจะทำยังไงก็คงไม่ชอบนั่นแหละ?
รถแลมบูกินีมุ่งหน้าไปที่รีพัลส์เบย์
ภีมพลนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ สีหน้าของเขาเย็นราวกับน้ำแข็ง เมินเฉยและอหังการ
ขณะนั้นเอง รถของไวศิษฎ์จอดอยู่ริมแม่น้ำ
กระจกรถลดระดับลง และลมเย็นตรงแม่น้ำพัดผ่านเข้ามาเบาๆ ทว่าก็ไม่สามารถปัดเป่าคิ้วที่ขมวดคิ้วของเขาให้คลายออกไปได้
“นายชอบเธอเหรอ?”
“นายชอบนภาลัยเหรอ?”
คำพูดของญาณีสะท้อนอยู่ในอากาศ และก้องอยู่ในหูของเขาไม่เสื่อมคลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก