“ทำยังไงดี ไม่มีเลือดเหลือแล้ว!หมอกรินทร์ หากรุ๊ปเลือด RH-เจอหรือยัง” มีคนรีบวิ่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“รีบไปแจ้งโรงพยาบาลใกล้เคียงสิ เร็วเข้า”
“ถามแล้ว โรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงก็ไม่มีเช่นกัน!”
“ฉันสัญญา!” นภาลัยคุกเข่าลงบนพื้น เธอเงยหน้าขึ้นและตะโกนใส่เขาด้วยเสียงแหบแห้ง “ฉันสัญญาว่าจะเป็นผู้หญิงของคุณ ฉันสัญญา ฉันสัญญา”
น้ำตาของภีมพลร่วงหล่นทันที เขาเก็บอารมณ์ขมขื่นและกลืนมันลงไปอย่างยากลำบาก
เขาปิดวิดีโอและกำโทรศัพท์ไว้แน่น ความเจ็บปวดในใจของเขาไม่น้อยไปกว่าการมีคนเอามีดมากรีดลงบนร่างกายของเขาเลย
นี่คือความจริงที่เธอจากไป
และมีคนบิดเบือนมัน ใช้มันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง...
คนเราคาดเดาไม่ได้จริงๆ
ภีมพลคิดอะไรบางอย่าง
ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว เปิดประตูประตูลัมโบร์กินีและขับออกไป
ป้าโสนเดินออกจากห้องนั่งเล่น ไม่ทันได้ถามว่าเขาจะไปไหน รถคันนั้นก็หายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว
ภีมพลรู้สึกเจ็บปวด เขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างเย็นชา ขับรถด้วยท่าทางร้อนรนจนแทบบ้า
รถตรงไปยังวิลล่าซีเฮฟเว่น ภีมพลจะไปหานภาลัย
เขาต้องการพบเธอ
ขอโทษเธอและไปรับเธอกลับมา
หน้าทางเข้าวิลล่าซีเฮฟเว่นในตอนนั้น
ทันทีที่ไวศิษฎ์ออกไป นักข่าวกลุ่มใหญ่ก็รุมล้อมนภาลัยเพื่อไม่ให้เธอขยับแม้แต่ก้าวเดียว
“คุณนภา คุณกับคุณภีมหย่ากันแล้วเหรอคะ?”
“ทำไมคุณไปถึงถ่ายรูปครอบครัวล่ะคะ?”
“ทำไมคุณถึงอาศัยอยู่ที่นี่กับไวศิษฎ์ ความสัมพันธ์ของพวกคุณคืออะไรกันแน่ครับ?”
“จะมีการเปลี่ยนแปลงในงานแต่งงานของคุณญาณีและคุณภีมในเดือนหน้าเพราะคุณหรือไม่คะ?”
“คุณนภา คุณช่วยตอบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณสามคนได้ไหมครับ?”
“คุณกลับไปคืนดีกับคุณภีมแล้วใช่ไหมคะ?”
นักข่าวถามไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด ทำให้นภาลัยรู้สึกปวดหัว เธออยากจะหนีแต่ขยับตัวไม่ได้เลย
ราวกับว่าหากเธอไม่ตอบจะไม่มีใครปล่อยเธอไป
ไมโครโฟนจำนวนนับไม่ถ้วนถูกนำมาวางบนริมฝีปากของเธอ
พี่กุ้งยืนอยู่ข้างหลังกลุ่มนักข่าว เธอพยายามหลายครั้งแต่ก็เข้าไปไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงตะโกนไปอย่างกังวลว่า “คุณนภามีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อย่ารุมล้อมเธอแบบนั้นเลยค่ะ”
กล้องถ่ายภาพไม่หยุดภายใต้แสงไฟสปอตไลท์นับไม่ถ้วน
นภาลัยหงุดหงิดมาก เธอทำได้แค่ก้มศีรษะและเอามือปิดหน้าไว้
“คุณรู้สึกผิดบ้างหรือเปล่าคะ?”
“คำถามนี้ตอบยากเหรอครับ?คุณกำลังปกป้องใครอยู่?”
“ทำไมคุณถึงอาศัยอยู่ที่นี่ ความสัมพันธ์ของคุณกับคุณชายศิษฎ์เป็นยังไงกันแน่คะ?”
รถลัมโบร์กินีหยุดอยู่ไม่ไกล ภีมพลเปิดประตู เขารีบกระโดดลงจากรถ และเดินไปทางนั้นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง พร้อมกับรัศมีเย็นยะเยือกราวกับมีไอสังหาร
เมื่อเห็นว่านภาลัยถูกล้อม เขาก็คว้าไหล่นักข่าวและเหวี่ยงทิ้งไปทีละคนให้พ้นทาง
“นี่มันอะไรกัน?”
“นั่นใคร?”
นักข่าวห้าหรือหกคนถูกเหวี่ยงลงพื้น
เขาจับข้อมือของหญิงสาวที่หวาดกลัว ใช้เสื้อสูทของตัวเองคลุมให้เธอ ก่อนจะโอบเธอไว้ในอ้อมแขนและพาเธอออกจากกลุ่มนักข่าวโดยเร็ว
นภาลัยลืมตาขึ้น แจ็กเกตสูทกำลังคลุมตัวเธอ ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของคนคนนั้น
แต่กลิ่นจางๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากเขาและความรู้สึกปลอดภัยนั้น ทำให้เธอระบุตัวตนของเขาได้
“คุณภีม! งานแต่งงานของคุณกับคุณญาณีจะจัดขึ้นตามกำหนดหรือไม่ครับ?”
“คุณกับคุณนภากลับมาคืนดีกันแล้วเหรอคะ?”
ภีมพลเพิกเฉยต่อคำถามพวกนั้น เขาเปิดประตูรถและพูด “ขึ้นรถซะ” เสียงของเขาทั้งหนักแน่นและอ่อนโยน
หลังจากปิดประตูรถ เขาก็เดินกลับไปยังที่นั่งคนขับ “คาดเข็มขัดนิรภัยด้วย”
ทันทีที่ประตูรถปิดลง เขาก็จ้องมองไปยังนักข่าวที่กำลังรัวภาพอย่างเย็นชา
นภาลัยรัดเข็มขัดนิรภัยด้วยความตื่นตระหนก
เหลียวมองดูท่าทางที่คุ้นเคยของเขาด้วยความประหลาดใจ
เขามาได้ยังไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก