ใต้แสงแดด นภาลัยมองเขายังงุนงง ความรู้สึกที่ตอบสนองช้าไปแล้ว
แววตาของภีมพลลุ่มลึกจริงใจ
นภาลัยรู้สึกเหมือนฝัน เหมือนไม่ใช่ความจริง
ภาพที่อยู่ตรงนั้นเหมือนกับความฝัน แสงแดดเจิดจ้ากำลังสาดส่องลงมาบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
สายตาของทั้งสองมาบรรจบกัน ราวกับว่าทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นความว่างเปล่า
ในสายตาเขามีเพียงเธอ และเธอ……ก็ถูกเขาดึงดูดเช่นกัน
ญาณีมองบนภาพบนเวทีอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อ เธอเซถอยหลัง ไวศิษฎ์รีบคว้าตัวเธอเอาไว้
ราวกับว่าเรี่ยวแรงนั้นถูกสูบไปจนหมด ร่างกายว่างเปล่า ไม่ว่ายังไงตอนนี้เธอก็ไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นและได้ยิน
เขากลับมาของแต่งงานในโรงเรียนอนุบาล!
ความทรงจำของเขากลับมาแล้วเหรอ?
ไวศิษฎ์ก็ช็อกไปเช่นกัน ภีมพลกำลังทำอะไรอยู่?
ผู้ปกครองที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างก็พูดแสดงความคิดเห็น
ภีมพลที่ถือไมล์ไว้ในมือได้พูดกับพวกเขา “ผมกับนภาเรายังไม่ได้หย่ากัน แต่เราก็ไม่เคยจัดงานแต่งงานกัน”
“ผมรู้ว่าทุกคนนั้นมีข้อสงสัยมากมาย” เขาหันมองไปที่ผู้คน “งานแต่งงานได้เตรียมงานมาหลายเดือนแล้ว เดิมทีงานนี้ก็ได้เตรียมเพื่อนภาอยู่แล้ว!”
“โอ้มายก๊อด!”
“คุณภีม ความหมายของคุณคือ…….คุณจะไม่แต่งงานกับคุณญาณีแล้วเหรอ?” เวลานี้ ผู้ปกครองใจกล้าท่านหนึ่งได้ถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้
สายตาทุกคู่ได้ไปจับจ้องอยู่ที่ภีมพล กลั้นใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ!
ภายในเงียบสงัดไปในทันที
ญาณีที่หัวใจบีบรัดตัวอย่างหนัก จ้องมองเขาที่คุกเข่าข้างเดียวบนเวที
ภีมพลไม่ได้มีความรู้สึกที่ไม่พอใจแต่อย่างไร เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ความซับซ้อนของตระกูลเศรษฐีไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะเข้าใจได้ ใครเคยได้ยินผมพูดว่ารักเธอมั้ย?”
คำพูดนี้ก็เหมือนมีดที่แหลมคม ปักเข้าที่กลางหัวใจของญาณี!
เธอจ้องมองภีมพลอย่างตกตะลึง ผู้ชายที่หล่อเหลาจนคนและทวยเทพต้องโกรธ กลับพูดคำพูดที่ใจจืดใจดำแบบนี้ต่อหน้าทุกคน!
แล้วก็มีคนถามขึ้น “งั้นคุณจะแต่งงานกับคุณญาณีมั้ย?”
“ไม่แต่ง” ภีมพลตอบโดยไม่ลังเล เขาที่คุกเข่าด้วยขาข้างเดียว มือหนึ่งถือไมค์ อีกมือหนึ่งจับมือของเธอเอาไว้ “พูดเน้นย้ำอีกครั้ง ผมไม่ทางแต่งงานกับญาณี”
ญาณีที่อยู่ด้านหลังผู้คนกัดฟัน อดทนฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้
นภาลัยที่สวมกระโปรงสีฟ้า ยืนอยู่บนเวทีจ้องมองเขา สำหรับเธอแล้ว ตอนนี้มันเหมือนความฝันมาก ความฝันนี้ทำให้เธอใจอ่อน ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย………
แต่เธอรู้ว่า ขอเพียงเธอเดินลงไปจากเวทีนี้ เขาก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
พวกเขาแค่มาเพื่อแสดงความรักเพื่อลูกเท่านั้น
น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำของภีมพลเพราะมาก “คนเราหากแม้แต่การแต่งงานของเราเองยังไม่สามารถที่จะตัดสินใจเองได้ แล้วจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม?”
ญาณีทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว!
เธอถอยหลังไปพร้อมกันน้ำตา หันหลังแล้วขึ้นไปบนรถของไวศิษฎ์
บนที่นั่งข้างคนขับ น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด หัวใจของเธอบีบรัดจนแน่น ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังแตกสลายอย่างเงียบๆ และไม่สามารถที่จะรวบรวมมันได้อีกแล้ว
ไวศิษฎ์ก็ขึ้นมาบนรถแล้วเช่นกัน หันหน้าไปมองเธอ ก็เกิดความสงสารขึ้นมาทันที
ตอนเด็กตัวเขานั้นก่อเรื่องเป็นประจำ ภีมพลเองก็ยุ่งมาก มักจะเป็นพี่ญาณีที่ช่วยเขาจัดการปัญหา
เธอยังพยายามหาวิธีรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับภีมพล ช่วยภีมพลทำทุกอย่าง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องงาน
ในความสัมพันธ์นี้ เธอได้ทุ่มเทไปเยอะมาก สุดท้ายกลับบาดเจ็บสาหัส
ครั้งก่อนไวศิษฎ์เพราะนภาลัยแล้ว ยังได้ตบเธอไปหนึ่งที
ตอนนี้เมื่อมาคิดดูแล้ว ในใจยังมีความเสียใจอยู่บ้าง
เขาหยิบทิชชูยื่นไปตรงหน้าของเธอ ไม่ได้พูดอะไร
ญาณีก็เหมือนหุ่นกระบอก นั่งพิงเบาะรถ น้ำตาไหลอย่างห้ามไม่ได้ ความเจ็บปวดแบบนี้ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
ไวศิษฎ์คิ้วขมวด ถอนหายใจไปหนึ่งที แล้วขับรถออกไป……..
การแสดงออกของภีมพลเมื่อกี้ ถูกผู้ปกครองนับไม่ถ้วนไลฟ์สดหน้างาน และมันก็เป็นสิ่งที่เขาคาดคิดไว้แล้ว
ตอนนี้บนโซเชียลล้วนเต็มไปด้วยคลิป และยังทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่ชาวเน็ตอีกด้วย
ชาวเน็ตมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ สนับสนุนให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน อย่างไรเสียพวกเขาก็มีลูกด้วยกันแล้ว
นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เห็นอกเห็นใจญาณี และรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับเธอ
คะนึงนิตย์ที่อยู่ในรีพัลส์เบย์ วิลล่าเมื่อเห็นข่าว ก็จับหน้าอกเอาไว้ นั่งลงบนโซฟาอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
“คุณนายนิตย์ คุณเป็นอะไรคะ?” ผ้าไหมมาเห็นเข้าพอดี เธอรีบวางถาดในมือลง “เข้าไปประคองเธอเอาไว้ คุณนายนิตย์ ไม่สบายตรงไหนคะ?!”
โทรศัพท์ร่วงอยู่บนพรม ผ้าไหมเหลือบมองไปแวบหนึ่ง ก็เห็นภาพบนหน้าจอโทรศัพท์
เมื่อมองคุณนายนิตย์อีกครั้ง เธอได้นั่งพิงอยู่บนโซฟาด้วยความเจ็บปวด กำลังหายใจเฮือกใหญ่
ผ้าไหมตัดสินใจในทันที เธอหยิบโทรศัพท์บ้านโทรไปยังโรงพยาบาลอย่างมีสติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก