เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 132

สรุปบท บทที่ 132 ปริญญาโท?: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ตอน บทที่ 132 ปริญญาโท? จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 132 ปริญญาโท? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากหลี่เป่าซาน หลี่เจี้ยนเหว่ยและคนอื่นๆ วิ่งออกมาจากตึกแผนกฉุกเฉินแล้ว รถตำรวจก็จอดสนิท

หยวนฟางมองฉากนี้ผ่านหน้าต่างใส ในใจบ่นว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย?

เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็รีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งตามออกไปทันที

ชายหนุ่มในชุดตำรวจคนหนึ่งลงจากรถ จากนั้นจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูหลัง

หลี่เป่าซานเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็รีบไตร่ตรอง หรือว่าจะเป็นผู้นำท่านใด? มาทำอะไรที่โรงพยาบาล?

หลังจากตำรวจคนนั้นเปิดประตูก็พบว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ ถึงก็เป็นเฉินชางเชียวหรือ?

ตอนนี้หลี่เป่าซานตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว! ต้องทราบว่าคนที่จะได้นั่งรถตำรวจและมีคนคอยเปิดประตูให้มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่างเท่านั้น หนึ่งคือเหล่าผู้นำของรัฐ อีกหนึ่งคือนักโทษ!

เห็นได้ชัดว่าเฉินชางไม่ใช่ผู้นำรัฐ…

เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของหลี่เป่าซานพลันเปลี่ยนไป รีบเดินเข้าไปด้วยท่าทางกระสับกระส่าย แต่กลับถูกหลี่เจี้ยนเหว่ยดึงแขนไว้ “เดี๋ยวก่อนครับ”

เมื่อหลี่เป่าซานเห็นเฉินชางลงจากรถ เหมือนว่าจะไม่ได้ถูกคุมตัวอยู่?

เสี่ยวเฉินไม่ใช่นักโทษหรือ?!

ด้วยเหตุนี้หลี่เป่าซานจึงเดินตรงไปหา ทว่าไม่ทันไรก็เห็นชายอีกคนหนึ่งลงมาจากที่นั่งด้านหลังอีกฝั่งหนึ่ง หลี่เป่าซานมองเขม็ง ถานจงหลิน?

ทำไมเขาถึงนั่งรถตำรวจมาด้วยกันกับเฉินชาง?

หลี่เป่าซานสับสนไปหมดแล้ว!

หลี่เจี้ยนเหว่ยก็มีสีหน้างุนงง

โลกของศัลยแพทย์ในเมืองอันหยางใหญ่ขนาดนั้น มีคนไปๆ มาๆ มากขนาดนั้น ทว่าฐานะของถานจงหลินคนนี้ยังค่อนข้างพิเศษ เพราะในมณฑลตงหยาง แผนกที่พัฒนาด้านศัลยกรรมทั่วไปมีไม่มาก โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลนับเป็นแห่งหนึ่ง โรงพยาบาลตงต้าเป็นอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งในสายตาของโรงพยาบาลใหญ่ทั้งหลาย ถานจงหลินเป็นเหมือนเนื้อชิ้นหอม มักถูกโรงพยาบาลแต่ละแห่งเชิญไปร่วมผ่าตัดอยู่บ่อยๆ

เมื่อเห็นถานจงหลินเดินลงจากรถ หลี่เจี้ยนเหว่ยก็เดินเข้าไปทักทายด้วยตัวเอง “หัวหน้าถาน? ฮ่าๆ ไม่พบกันนานเลยนะครับ ทำไมถึงมาที่โรงพยาบาลอันดับสองได้ล่ะครับ”

ถานจงหลินยิ้ม เดินเข้ามาจับมือกับหลี่เจี้ยนเหว่ยและหลี่เป่าซาน จากนั้นจึงพูดเย้าไปว่า “ผมหรือครับ วันนี้ผมมาขอรับโทษ!”

หลี่เป่าซานรู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที “หือ? โทษ? โทษอะไรครับ?”

ทุกคนพากันเอียงหูเบิกตารอฟัง

ถานจงหลินจึงได้อธิบายไปว่า “ตอนเช้ามีการผ่าตัดเคสหนึ่งที่ค่อนข้างเร่งด่วน ผมเลยมาเชิญหมอเสี่ยวเฉินไปช่วยที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลน่ะครับ!”

หลี่เป่าซานเบิกตากว้าง “เสี่ยวเฉิน? ไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลของคุณหรือ? เขาจะช่วยอะไรได้? โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลมีคนเก่งๆ เต็มไปหมด จะขาดแคลนหมอเก่งๆ ได้ยังไงครับ?!”

ถานจงหลินได้ยินดังนั้นก็รีบส่ายหน้าทันที ดูเหมือนหลี่เป่าซานยังไม่รู้ถึงฝีมือการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชาง!

ดังนั้นจึงพูดไปว่า “ถูกต้องแล้วครับ! ผมมาขอให้เสี่ยวเฉินไปช่วยจริงๆ การผ่าตัดในวันนี้ค่อนข้างยาก ในนั้นมีรายละเอียดเล็กๆ ที่แม้แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจ ผมคิดไปคิดมา มีแค่คนเดียวที่ช่วยผมได้ นั่นก็คือเสี่ยวเฉิน”

ประโยคนี้ของเขาทำเอาทุกคนตรงนั้นนิ่งค้างไปแล้ว

นี่เป็นการประเมินฝีมือเอาไว้สูงแค่ไหนกัน? ถานจงหลินผู้เป็นศัลยแพทย์ชั้นยอดในเมืองอันหยางถึงกับพูดขึ้นมาเองว่าเฉินชางทำได้ดีกว่าเขา! เกียรติยศเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็มีได้!

หัวหน้าแผนกทั้งหลายที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ ตกลงเฉินชางไปผ่าตัดยอดเยี่ยมอะไรมากันแน่? ถึงกับทำให้ถานจงหลินออกปากชมเช่นนี้เชียว

หยวนฟางที่อยู่ด้วยยิ่งถลึงตากว้าง รู้สึกเหลือเชื่อเกินไป

เฉินชางคนนี้…ทำไม…เป็นไปไม่ได้!

แต่ความจริงวางเรียงอยู่ต่อหน้าทุกคนแล้ว ไม่มีอะไรให้สงสัยอีก!

คนที่มีชื่อเสียงขนาดถานจงหลินคงไม่มาแสดงละครเป็นเพื่อนเฉินชางถึงที่นี่หรอก?

ตอนนี้ตำรวจหนุ่มเดินมาส่งเฉินชางจนถึงที่แล้ว จากนั้นจึงหันหน้าเข้าหาเฉินชาง ยืนหลังตรง ทำวันทยาหัตถ์อย่างจริงจัง!

“หมอเฉิน! ขอบคุณที่ช่วยรักษาหัวหน้าของพวกเรานะครับ ผมขอตัวกลับก่อน ที่สถานีตำรวจยังมีงานอีกมาก”

เฉินชางพยักหน้า “ขอบคุณมากครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”

จากนั้นตำรวจหนุ่มก็ขับรถจากไป ปล่อยทุกคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าตะลึงพรึงเพริด

นี่เป็นเรื่องจริงหรือ!?

ตอนนี้เอง หลี่เป่าซานเห็นว่ารอบๆ มีคนมารอดูความครึกครื้นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จึงบอกไปว่า “เสี่ยวเฉิน ตามผมไปที่ห้องทำงานเถอะครับ!”

ตอนนี้ทุกคนจึงกลับไปที่ห้องทำงานของหัวหน้าแผนก

หลังจากฟังเฉินชางอธิบายอย่างละเอียดไปรอบหนึ่ง หลี่เจี้ยนเหว่ยและคนอื่นๆ ก็รู้สึกรับไม่ได้ไปชั่วขณะ!

เมื่อเฉินชางออกไปแล้ว ทุกคนก็พากันมองไปยังหลี่เจี้ยนเหว่ย ในดวงตาเต็มไปด้วยความแปลกใจ เมื่อครู่ไม่เห็นพูดถึงเรื่องพวกนี้เลย!

นี่ไม่เหมือนกับผลการประชุมของทุกคนเท่าไหร่นัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเรียนปริญญาโทอะไรนั่นเลย

หลี่เจี้ยนเหว่ยมองทุกคน พูดอย่างทอดถอนใจว่า “ทุกคนคงสงสัยสินะครับว่าทำไมผมถึงสัญญาไปมากมายขนาดนั้น?”

ทุกคนพยักหน้า

หลี่เจี้ยนเหว่ยยิ้มเจื่อนๆ “ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดแบบนี้หรอกครับ รวมไปถึงสัญญาที่จะให้เสี่ยวเฉินเรียนปริญญาโทด้วย นี่เป็นเรื่องที่ผมเพิ่งคิดได้เอาตอนนี้!”

“แต่ว่า…พวกคุณไม่เห็นสายตาของถานจงหลินเมื่อครู่นี้หรือครับ? เขาดูอดรนทนไม่ไหว แทบอยากแย่งตัวเสี่ยวเฉินไปอยู่แล้ว!”

“หากพูดให้ไม่น่าฟังสักหน่อย ไม่ว่าต่อไปเสี่ยวเฉินจะอยู่ที่แผนกฉุกเฉินของพวกคุณ อยู่ที่แผนกศัลยกรรมหัวใจของพวกคุณ หรืออยู่ที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปก็ดี ขอเพียงเป็นโรงพยาบาลของพวกเราก็ดีทั้งนั้น! ผมไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้หรอก”

“แต่ว่าการมาของถานจงหลินทำให้ผมรู้สึกถึงอันตราย!”

“พวกคุณก็เห็น เสี่ยวเฉินเพิ่งจะอายุยี่สิบเจ็ด อายุยังน้อยแต่ก็มีความเชี่ยวชาญมากขนาดนี้แล้ว แม้แต่ถานจงหลินของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลก็ยังมีใจคิดดึงตัวไป แล้วคนอื่นๆ ล่ะ?”

“ถ้างั้นปัญหาก็มาถึงแล้ว พวกเราจะรั้งตัวเสี่ยวเฉินไว้ได้หรือเปล่า?”

“ถ้าพูดให้ไม่น่าฟังสักหน่อย ฝ่ายศัลยกรรมของโรงพยาบาลอันดับสองของพวกเราอยู่ในระดับไหน ทุกคนคงรู้อยู่แก่ใจสินะครับ? ฝ่ายศัลยกรรมของโรงพยาบาลอันดับสองของพวกเรา พูดได้ว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของเมืองอันหยางเท่านั้น และคนหนุ่มสาวก็ไม่เหมือนพวกคุณ พวกเขาต้องการอนาคต”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ทุกคนก็พากันถอนใจ

หลี่เจี้ยนเหว่ยจึงพูดต่อไปว่า “ดังนั้นไม่ว่าจะใช้ไม้แข็งไม้อ่อน จะใช้เงินทอง ใช้ข้อจำกัดด้านเทคนิคการผ่าตัด หรือจะใช้ความเติบโตก้าวหน้าในอนาคต พวกเราก็ไม่มีอะไรได้เปรียบเลย! หากคิดจะรั้งตัวเฉินชางไว้ เราทำได้อย่างเดียว!”

“นั่นก็คือใช้ทรัพยากรในมือของพวกเราช่วยฝึกฝนบ่มเพาะให้เฉินชาง!”

“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาต้องการพัฒนาและความก้าวหน้ามากที่สุด พวกเราก็ยื่นมือไปช่วยเหลือได้ ช่วยให้เขาก้าวหน้าเติบโต เมื่อเป็นเช่นนั้น…”

“ต่อให้ภายหลังเสี่ยวเฉินออกไปจากโรงพยาบาลพวกเราแล้ว แต่จะอย่างไรที่นี่ก็เป็นรากฐานของเขา พอถึงเวลาที่โรงพยาบาลของพวกเราต้องการความช่วยเหลือ เสี่ยวเฉินจะยื่นมือเข้ามาช่วยแน่นอน!”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ออกมา ทุกคนพลันเงียบไป

นี่อาจจะ…เป็นความจริงทั้งหมด!

หลี่เจี้ยนเหว่ยพูดจบก็หัวเราะ “แน่นอน ผมอาจประเมินเขาสูงเกินไปก็ได้ ยังไงซะตอนนี้ก็ยังมองอะไรไม่ออก แต่อย่างไรก็เป็นพนักงานของพวกเรา พวกเราก็ต้องพยายามฝึกฝนเขาหน่อย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ