บทที่ 372 อะไรคือแฟนสาวที่ดูดีและมีประโยชน์
ความจริงอู๋อวี้ซู่ที่เฉินชางส่งมาเป็นเพียงแค่ตัวจุดชนวนเท่านั้น เถามี่ไม่สบายใจเรื่องนี้มานานแล้ว
แผนกศัลยกรรมหัวใจอยู่ในส่วนของแผนกศัลยกรรม ซึ่งศัลยแพทย์หลายคนมีความสามารถในการวินิจฉัยโรคแย่กว่าหมอแผนกอายุรกรรม นี่คือความเป็นจริง แต่ตอนที่เขาเห็นหมอในแผนกตนเองไม่แม้แต่จะพกหูฟังแพทย์ไปตรวจ เถามี่ก็รู้สึกขุ่นเคืองใจ
คำพูดของเถามี่มีประโยชน์มาก อย่างน้อยตอนนี้หากหมอคนใดไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยก็จะพกหูฟังแพทย์ไปฟังด้วย
อย่าคิดว่าแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงจะเก่งกว่านักศึกษาแพทย์เชียว ความรู้ทางการแพทย์เป็นเรื่องซับซ้อน หากคุณไม่ทบทวนก็จะลืมได้เช่นกัน
ดังนั้นจะต้องฝึกความสามารถในการวินิจฉัยของหมอให้ดี หมอไม่ใช่เครื่องจักรสำหรับผ่าตัด จะพึ่งพาอุปกรณ์ในการตรวจโรคทุกครั้งก็ไม่ได้ พวกเขาเป็นหมอ!
……
……
ชีวิตในปัจจุบันของเฉินชางวนเวียนอยู่กับสถานที่สองแห่ง ทว่าตอนนี้เขามีภารกิจเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งแล้ว นั่นก็คือทุกเย็นเขาจะต้องจูงมือสุนัขขี้ประจบอย่างฉินเยว่ออกมาเดินเล่น และถือโอกาสเปิดดูค่าความรู้สึกดีด้วยเลย
อย่างเช่นในตอนนี้: [ติ๊ง! เดินเล่นสำเร็จ ค่าความรู้สึกดีของฉินเยว่ +1]
อืม การเดทช่วยพัฒนาความรู้สึก นี่ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว สิ่งเดียวที่ไม่สมเหตุสมผลก็คือ ทำไมค่าความรู้สึกดีของเขากับผู้อำนวยการฉินถึงได้ตกต่ำขนาดนั้นล่ะ
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของฉินเสี้ยวหยวน -0.5]
เฉินชางอดทอดถอนใจไม่ได้
ช่างเถอะ ช่างเถอะ!
ผมมีฉินเยว่แล้ว ยังต้องกลัวคุณอีกหรือ
เฉินชางส่ายหน้า ไม่เครียดแม้แต่น้อย ไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด
ข้างๆ โรงพยาบาลอันดับสองมีสวนสาธารณะอยู่แห่งหนึ่ง ช่วงเย็นของฤดูร้อนที่นี่จะคึกคักมาก บางครั้งเมื่อฉินเยว่ได้ยินเสียงคุณป้าคุณน้าเต้นรำเธอก็จะวิ่งไปเต้นด้วย
ประมาณสี่ทุ่ม เฉินชางก็พาฉินเยว่มาส่งใต้ตึก มองดูเธอเดินขึ้นห้องไปด้วยท่าทางเบิกบานใจ เพียงเท่านี้เฉินชางก็อารมณ์ดีมากแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เฉินชางจึงพบว่ามีสายไม่ได้รับโทรมา เป็นสายจากหัวหน้าเถามี่
เฉินชางรีบโทรกลับทันที “หัวหน้าเถา คุณโทรหาผมเหรอครับ เมื่อครู่ผมไม่ได้ยินเสียง”
เถามี่อยากด่าคนจริงๆ แต่ก็ยังหัวเราะแล้วพูดออกไปว่า “คือพรุ่งนี้อู๋อวี้ซู่จะผ่าตัดแล้วนะครับ เขาเป็นผู้ป่วยที่คุณส่งมา ผมจะผ่าตัดด้วยตัวเอง ถ้าคุณว่างก็มาช่วยผมได้นะครับ!”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ดีใจขึ้นมาโดยพลัน ความจริงหัวหน้าเถาดีกับตนมาก การผ่าตัดกรีดเยื่อหุ้มหัวใจคราวที่แล้วเขาก็เป็นคนสอน ยิ่งไปกว่านั้น การผ่าตัดห้าเคสที่เป็นภารกิจก็ต้องให้หัวหน้าเถาช่วย
หัวหน้าเถาดีกับตนจากใจจริง อาจถึงขั้น…ดีกับตนมากกว่าเมิ่งซีด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็เป็นห่วงเฉินชางอยู่เสมอ
เฉินชางมีท่าทางดีอกดีใจ พูดยิ้มๆ ว่า “ว่างครับ ว่างแน่นอน ฮ่าๆ! ขอบคุณมากนะครับ ดีจริงๆ! ขอบคุณหัวหน้าเถามากๆ เลยครับ!”
เถามี่ยิ้ม ระหว่างคนสองคนขึ้นอยู่กับความประทับใจจริงๆ นั่นแหละ เถามี่ชอบเฉินชางมาก ถึงอีกฝ่ายจะไม่ยอมเลือกตนเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่เขาก็ไม่อยากทิ้งๆ ขว้างๆ คนหนุ่มแบบนี้
นี่เป็นเพราะเขาชื่นชมเฉินชางมากจริงๆ เถามี่คิดว่าเฉินชางเป็นผู้มีพรสวรรค์และมีอนาคต ดังนั้นถึงปากจะบ่นว่าเฉินชาง แต่เมื่อมีการผ่าตัดอะไรก็อยากให้เฉินชางมาเรียนรู้ให้มากหน่อย
เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินชาง เถามี่ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่ นับว่าเจ้าเด็กนี่ยังรู้ความ “อืม เวลาที่แน่นอน ผมจะแจ้งคุณพรุ่งนี้อีกทีนะครับ”
เมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว เฉินชางก็นึกถึงใบหน้าเคร่งขรึมภายใต้กรอบแว่นของเถามี่ อดยิ้มออกมาไม่ได้
เฉินชางมีทักษะการผ่าตัดโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัดอยู่แล้ว เขาเปิดหนังสือทักษะขึ้นมาแล้วกดกระตุ้นใช้งาน จากนั้นก็เข้าสู่มิติฝึกฝน
ภาพอันคุ้นเคยปรากฏต่อสายตาเฉินชาง ยังคงเป็นแบบจำลองการเรียนการสอนเช่นเดิม
เขาเริ่มเรียนรู้งานที่เกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ หัวใจ หลอดเลือด และกายวิภาคศาสตร์ของทรวงอกใหม่อีกครั้ง
ทุกครั้งที่เข้ามาฝึกฝนจะขาดขั้นตอนนี้ไปไม่ได้เลย สำหรับเฉินชาง นี่ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร แต่ว่า…จุดอ่อนเดียวก็คือ ระยะนี้ตอนที่เฉินชางตรวจอาการให้คนอื่นมักจะคิดอยู่เสมอว่า ถ้าคนคนนี้มีปัญหาที่หัวใจ จะเริ่มผ่าจากตรงไหนดี
บทเรียนต่อจากนั้นก็คือตำแหน่งในการผ่าเปิด
ตำแหน่งการผ่าเปิดเยื่อหุ้มหัวใจจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะให้ผลแตกต่างกันมาก จะต้องเลือกผ่าเปิดในตำแหน่งที่เหมาะสมถึงจะขยายพื้นที่ผ่าตัดได้ดี ดูเหมือนเป็นปัญหาเล็กๆ แต่ความจริงส่งผลกระทบมากเลยทีเดียว
ในขณะที่การผ่าตัดแต่ละเคสปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเฉินชาง เขาก็ฝึกจำลองผ่าตัดไปทุกครั้ง กรีดลงไปทุกครั้ง ประสบการณ์แต่ละครั้งกลายเป็นข้อมูลหลั่งไหลเข้าสู่สมอง
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด ในตอนที่เฉินชางลืมตาขึ้นอีกครั้ง ระบบก็ส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ