เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 395

บทที่ 395 ผู้กินอิ่มท้องไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้หิวโหย (Part2)

เฉินปิ่งเซิงหัวเราะ “คุณไม่ค่อยรู้เรื่องวารสารวิจัยพวกนี้สินะครับ ‘การปลูกถ่ายตับ’ เป็นวารสารวิจัยระดับเดียวกับ ‘BJS’ ค่าดัชนีผลกระทบอ้างอิงสูงกว่า มีอิทธิพลในวงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีมากกว่า ถ้าคุณส่งไปที่นั่น แค่รอตรวจสอบก็ใช้เวลาหนึ่งปีแล้ว! จากนั้นก็ต้องรอตีพิมพ์อีกหนึ่งปี ต้องรอประมาณสองปีถึงจะได้เห็นวิทยานิพนธ์”

จางโหย่วฝูก็พูดยิ้มๆ “สองปีก่อนผมส่งวิทยานิพนธ์ไปฉบับหนึ่ง แก้ไขเจ็ดครั้ง สุดท้ายก็…ถูกปฏิเสธ ปีนี้ว่าจะลองใหม่”

เฉินปิ่งเซิงถอนหายใจออกมา “ถ้าผมมีวิทยานิพนธ์ที่ตีพิมพ์กับ ‘การปลูกถ่ายตับ’ คงไม่มีปัญหาเรื่องเลื่อนระดับเป็นหัวหน้าแพทย์ในปีนี้แล้ว”

นี่ไม่ใช่เรื่องน่าขายหน้าอะไร ทั่วทั้งมณฑลตงหยาง คนที่ได้ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์กับวารสารวิจัย ‘การปลูกถ่ายตับ’ มีน้อยขนาดนับนิ้วได้เลยทีเดียว ใครบ้างไม่เคยถูกปฏิเสธ วิทยานิพนธ์ที่เฉียนเลี่ยงเคยส่งไปเมื่อปีนั้นสร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นในงานสัมมนาประจำปีได้เลย

เมื่อเฉินชางได้ยินเฉินปิ่งเซิงพูดถึงเรื่องตำแหน่งทางอาชีพก็รู้สึกสนใจขึ้นมาแล้ว “ถ้าเป็นผู้เขียนร่วมในวิทยานิพนธ์ที่ได้ตีพิมพ์กับ ‘การปลูกถ่ายตับ’ จะมีผลกับตำแหน่งทางอาชีพหรือเปล่าครับ”

จางโหย่วฝูพยักหน้า “ครับ นี่เป็นวารสารวิจัยขนาดใหญ่ มีดัชนีผลกระทบอ้างอิงสูง มีผู้ร่วมพิจารณาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตอนพิจารณาก็จะพิจารณาไปถึงผู้เขียนร่วมด้วย ต่อให้เป็นผู้เขียนอันดับสองก็ยังเอามาใส่ในประวัติตัวเองได้ มีประโยชน์มากทีเดียว ถ้าปิ่งเซิงมีวิทยานิพนธ์ที่ตีพิมพ์กับวารสารนี้และเป็นผู้เขียนอันดับสองคงไม่มีปัญหาเรื่องเลื่อนตำแหน่งทางอาชีพ”

เฉินชางได้ยินดังนั้นก็สบายใจขึ้นมาก ในตอนนั้นเขาใส่ชื่อฉินเยว่เป็นผู้เขียนอันดับหนึ่ง ใส่ชื่อเฉินปิ่งเซิงเป็นผู้เขียนร่วม ถึงอย่างไร…เหล่าเฉินก็อยู่ในกลุ่มควบคุม (controlled group)!

ตอนที่ทำวิจัยเรื่องการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบบาดเจ็บน้อย เขาใช้วิธีการทดลองแบบอำพรางทั้งสองฝ่าย จึงให้เฉินปิ่งเซิงเข้าร่วมการทดลองโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว นำผู้ป่วยของเฉินปิ่งเซิงมาเป็นกลุ่มควบคุม ดังนั้นเฉินปิ่งเซิงจึงเป็นผู้เขียนร่วมด้วย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดพูดไม่ได้ว่า “งั้นก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ วิทยานิพนธ์เรื่องการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบบาดเจ็บน้อยที่ผมเขียนครั้งที่แล้วคุณก็เป็นผู้เขียนร่วมด้วย แบบนี้คุณต้องเลี้ยงข้าวผมแล้วนะครับ”

เฉินปิ่งเซิงอดยิ้มไม่ได้ “แล้วส่งไปที่วารสารวิจัยไหนล่ะครับ”

วิทยานิพนธ์คราวที่แล้วใช้เวลาทั้งหมดสองเดือนถึงจะได้เผยแพร่ จะตีพิมพ์กับวารสารดีๆ ได้ที่ไหนกัน ดังนั้นเฉินปิ่งเซิงจึงคิดว่าเฉินชางส่งวิทยานิพนธ์ไปมั่วๆ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังรู้สึกดี

เฉินชางพยักหน้า กล่าวด้วยท่าทางสมเหตุสมผลว่า “ผมก็ต้องส่งไปที่วารสารการปลูกถ่ายตับสิครับ!”

ประโยคนี้ฟังไม่เข้าท่าเลยจริงๆ!

ใช่แล้ว! เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ก็เบิกตากว้างจ้องมองเฉินชางโดยพลัน บนใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม จากนั้นก็กลายเป็นความสับสนมึนงงในพริบตา!

เฉินปิ่งเซิงชะงักไป “คุณว่าอะไรนะ คุณส่งไปที่ ‘การปลูกถ่ายตับ’ หรือ”

เฉินชางพยักหน้า “ใช่ครับ ยังไม่ได้เผยแพร่นะครับ แต่คงอีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็ส่งกลับมาแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะได้ตีพิมพ์กับวารสารก่อนงานสัมมนาประจำปีหรือเปล่า แต่พวกเขาส่งใบรับรองมานานแล้ว!”

เฉินปิ่งเซิงกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ขอผมดูหน่อยได้หรือเปล่าครับ”

จางจื้อซินส่ายหน้า “คงไม่เร็วขนาดนี้หรอกมั้งครับ รวมแล้วใช้เวลาไปสองเดือนเอง จะเผยแพร่ได้ยังไง วารสารการปลูกถ่ายตับเป็นวารสารใหญ่เลยนะครับ”

เฉินชางหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูประกาศรับรอง “นี่ครับ คุณลองดูสิ!”

จางจื้อซินเห็นอักษรปะหน้าว่า ‘liver-Transplantation (การปลูกถ่ายตับ)’ ก็เบิกตากว้างขึ้นทันที จากนั้นก็มองไปยังรายชื่อผู้เขียนด้านหลัง

“ผู้เขียนหลัก: เฉินชาง ผู้เขียนอันดับหนึ่ง: ฉินเยว่, เฉินปิ่งเซิง, หลี่เป่าซาน ผู้เขียนอันดับสอง…”

ชั่วขณะนั้นจางจื้อซินถึงกับไม่อยากเชื่อ “คุณ…คงไม่ใส่ ปล. ว่าล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ