เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 397

สรุปบท บทที่ 397 หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

อ่านสรุป บทที่ 397 หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต จาก เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บทที่ บทที่ 397 หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 397 หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต

เวลาประมาณสามทุ่ม เป็นช่วงเวลาระมัดระวัง และเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดของแผนกฉุกเฉิน

เฉินชางเพิ่งเสร็จงานที่ห้องผู้ป่วยในแผนกฉุกเฉินก็ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์ฉุกเฉิน 120 แจ้งให้เตรียมการกู้ชีพ พวกเขาจะส่งตัวผู้ป่วยหญิงที่กินยานอนหลับฆ่าตัวตายมาที่โรงพยาบาล

จิตใจอันตึงเครียดของเฉินชางถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง!

เฉินชางถามไปประโยคหนึ่ง “นานแค่ไหนแล้วครับ!”

ศูนย์ฉุกเฉินกล่าวว่า “มากสุดประมาณห้าชั่วโมงครับ ตอนแม่ของผู้ป่วยพบตัวเธอก็หมดสติไปแล้ว นอกจากนี้เธอก็มีแผลทั่วตัวด้วยครับ”

เมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว เฉินชางก็รีบเตรียมห้องฟอกไตอย่างเร่งร้อน ปกติผู้ป่วยที่กินยานอนหลับเพื่อฆ่าตัวตายเช่นนี้จะถูกพบตัวหลังจากกินยาไปแล้วหกถึงสิบสองชั่วโมง ดังนั้นควรล้างกระเพาะทันทีเพราะตัวยายังไม่ถูกดูดซึมไปทั้งหมด

แต่กับผู้ป่วยที่หมดสติไป หรือไม่ได้ปัสสาวะออกมา ต้องเตรียมการฟอกไตให้เร็วที่สุดจึงจะดี

เมื่อพูดจบ เฉินชางก็รีบหันไปมองเสี่ยวเยี่ยนและเล่อเล่อ “เดี๋ยวจะมีผู้ป่วยกินยานอนหลับฆ่าตัวตายมานะครับ ตอนนี้หมดสติไปแล้ว สถานการณ์อันตรายมาก ต้องเตรียมล้างกระเพาะ”

เล่อเล่อไปเตรียมอุปกรณ์ล้างกระเพาะ ส่วนเสี่ยวเยี่ยนไปเตรียมยาสำหรับล้างพิษ

ทั้งสองทำงานอยู่ที่แผนกฉุกเฉินมาสองสามปีแล้ว พบเจอเรื่องเช่นนี้มาไม่ต่ำกว่าแปดครั้งสิบครั้งจึงจัดการงานได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและรวดเร็ว

เวลาผ่านไปประมาณสามสิบนาที รถฉุกเฉินที่แล่นมาอย่างรวดเร็วก็จอดลงตรงประตูของแผนกฉุกเฉิน หมอประจำรถและคนขับรถรีบเข็นเตียงผู้ป่วยเข้ามา ด้านหลังมีคนเดินตามมาด้วยสามคน คาดว่าเป็นญาติผู้ป่วย

หญิงอายุประมาณห้าสิบกว่าปีคนหนึ่งร้องไห้จนดวงตาทั้งสองบวมเป่ง ส่วนชายอายุประมาณเดียวกันใบหน้าบูดบึ้งเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เอาแต่เงียบงันไม่พูดจาแม้เพียงประโยคเดียว น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด

เมื่อเทียบกันแล้ว ชายอีกคนหนึ่งที่เดินตามมาด้านหลัง ท่าทางยังอายุน้อย ประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี สวมเครื่องแบบนักเรียน เขายังมีสีหน้าร้อนอกร้อนใจและไม่สบายใจมากกว่า

ตอนนี้เฉินชางเห็นผู้ป่วยชัดแล้ว เธออายุไม่มาก ใบหน้าขาวซีด แต่ว่า…อาจดูซีดเซียวเพราะอาการป่วย นี่เป็นความคิดแรกของเขา

หมอประจำรถฉุกเฉินดึงเฉินชางไว้แล้วเริ่มอธิบายสภาพผู้ป่วย

“อาการค่อนข้างซับซ้อนเลยครับ”

หมอประจำรถยังอายุไม่มาก ประมาณสี่สิบปีเท่านั้น คำพูดนี้ทำให้เฉินชางชะงักไป

เฉินชางถามไปว่า “เป็นอะไรเหรอครับ”

หมอคนนั้นกล่าวว่า “บนตัวมีบาดแผลหลายแห่ง ต้นขาด้านในมีรอยช้ำรุนแรง นอกจากนี้ยังมีแผลเปิดอีกหลายจุด มีอาการกล้ามเนื้อกดทับหลายที่และปัสสาวะไม่ออก คุณต้องลองคิดถึงอาการกล้ามเนื้อสลายดูหน่อยนะครับ ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้น…อาจเกิดปัญหาได้”

พูดจบ หมอวัยกลางคนที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าเฉินชางยังอายุไม่มากเท่าไหร่ก็พูดเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง “ระวังเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของญาติผู้ป่วยหน่อยนะครับ สถานการณ์มัน…ค่อนข้างซับซ้อน!”

หญิงวัยกลางคนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว เมื่อเห็นเฉินชางก็เหมือนกับเห็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย เธอรีบวิ่งเข้ามา คุกเข่าลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ดวงตาทั้งสองมีน้ำตาไหลออกมาจนเลอะเต็มหน้า!

“ขอร้องละค่ะ ขอร้องละค่ะคุณหมอ ช่วยลูกสาวฉันด้วย เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบหกเอง! ขอร้องละค่ะ คุณต้องช่วยเธอนะคะ เธอยังอายุน้อยอยู่เลย!”

เฉินชางไม่สนใจปลอบใจญาติผู้ป่วย รีบหันไปพูดกับนางพยาบาลเล่อเล่อว่า “ส่งไปที่ห้องฉุกเฉิน สังเกตอาการให้ดี และตรวจเลือดด่วนด้วยนะครับ…”

หลังจากสั่งงานเสร็จแล้ว เฉินชางก็หันไปมองชายวัยกลางคน “คุณดูแลเรื่องอารมณ์กันหน่อยนะครับ พวกเราต้องไปช่วยผู้ป่วยก่อน”

ชายคนนั้นพยักหน้า “ครับ รบกวนด้วยนะครับคุณหมอ”

ขณะที่ชายคนนั้นอ้าปากพูด เฉินชางจึงค่อยเห็นว่าที่ฟันของอีกฝ่ายมีเลือดไหลออกมา คงเป็นเพราะเขากัดฟันจนเลือดไหล บริเวณตาขาวก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด สภาพร่างกายคล้ายกับเดือดดาลมาก เพียงแต่โทสะนี้ถูกสติสัมปชัญญะของเขากดเก็บเอาไว้ภายในอย่างสุดความสามารถ

เฉินชางเห็นดังนั้นก็หนังตากระตุก

ตอนนี้เอง เด็กหนุ่มก็วิ่งออกไปข้างนอก “ไอ้เวรเอ๊ย กูจะฆ่ามึง! แม่งทำพี่สาวกูเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าพี่สาวกูตาย กูจะฆ่ามึงทั้งครอบครัว!”

ชายวัยกลางคนเห็นดังนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างโมโห “หยุดเดี๋ยวนี้!”

เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ หันกลับมาตะโกนเสียงดังว่า “ที่นอนอยู่บนเตียงนั่นคือพี่สาวผมนะ!”

ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้นก็ตบหน้าอกตัวเองเสียงดัง “นั่นก็ลูกสาวฉันเหมือนกัน!”

……

สภาพของผู้ป่วยถูกจัดอยู่ในภาวะอันตรายขึ้นมาทันที รวมกับที่บนร่างกายมีแผลกดทับหลายแห่ง มีภาวะกล้ามเนื้อสลาย ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันและโพแทสเซียมสูงได้ง่าย จึงพูดได้ว่าตอนนี้สภาพของผู้ป่วยยังไม่เสถียร

ในตอนนี้ ความดันโลหิตยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง สูงสุดเพียงหกสิบ ต่ำสุดเกือบสามสิบ!

เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน รีบเพิ่มโดปามีนให้ผู้ป่วยโดยฉีดโดปามีนสองร้อยสิบกรัมจนความดันโลหิตค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง อัตราการเต้นของหัวใจก็เริ่มลดลงจนมาถึงประมาณหนึ่งร้อยครั้งต่อนาที

ภายในห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด!

เล่อเล่อกำลังล้างกระเพาะ ส่วนเสี่ยวเยี่ยนคอยช่วยเหลือ ทว่า…แม้จะพยายามกันถึงขั้นนี้แล้ว เฉินชางก็ยังไม่มั่นใจว่าจะช่วยชีวิตผู้ป่วยกลับมาได้หรือไม่ เพราะแค่พิษจากยานอนหลับมากมายเหล่านั้นก็อันตรายพอแล้ว เป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว แถมตอนนี้ยังมีภาวะกล้ามเนื้อสลายและโพแทสเซียมสูงร่วมด้วย…

มีภาวะอาการมากเกินไป! ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างนี้มารวมอยู่ด้วยกัน! คงพูดได้คำเดียวว่า ผู้ป่วย…อยู่ระหว่างความเป็นความตาย

ปัญหาสำคัญที่สุดก็คือผู้ป่วยอยากตาย และดูเหมือนความปรารถนานี้จะรุนแรงมากเสียด้วย

บางครั้ง พอได้มาอยู่ในแผนกฉุกเฉินแล้วอาจได้เห็นอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ของอย่างเช่นความปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงๆ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีในปัจจุบันตรวจสอบไม่ได้

ทว่า…เฉินชางเห็นคนเหล่านี้ในแผนกฉุกเฉินมามากจริงๆ เช่นชายที่ถูกเหล็กเสียบทะลุอกในตอนนั้น หากเป็นคนปกติคงมีอัตราการตายสูงมาก แต่…ชายคนนั้นก็ยังรอดมาได้

บางทีอาจเป็นเพราะในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยครอบครัว! หรืออาจเป็นเพราะจิตใจของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า แต่…สำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายก็พูดยาก

โบราณกล่าวว่า ยารักษาได้เพียงคนที่ต้องการความช่วยเหลือ พระพุทธเจ้าช่วยได้เพียงผู้มีบารมี อันที่จริงคำพูดนี้ยังอธิบายได้อีกอย่างหนึ่งว่า มีเพียงผู้ที่ไม่อยากตายเท่านั้นจึงจะรักษาได้ และสำหรับคนอยากตาย ไม่ว่ายาอะไรก็รักษาไม่ได้!

มีหลายคนที่รู้ชัดว่าช่วยไม่ได้แล้ว แต่เพราะสิ่งที่เรียกว่าความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ทำให้พวกเขาดีขึ้น

เฉินชางเดินถือเอกสารแจ้งอาการออกมาให้ญาติผู้ป่วยเซ็นเพื่อแสดงการรับรู้และยินยอม

ญาติผู้หญิงขดตัวร้องไห้อยู่ในมุมหนึ่ง ส่วนชายหนุ่มโกรธจนตัวสั่น ถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ไม่รู้ว่ากำลังพิมพ์อะไร มีเพียงชายวัยกลางคนเท่านั้นที่ยืนไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น และเป็นเพราะแผนกฉุกเฉินไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ เขาจึงทำได้เพียงคาบบุหรี่มวนหนึ่งเอาไว้ในปากซึ่งตอนนี้ถูกขบจนเละ มีเลือดไหลออกมาตามก้นบุหรี่ ย้อมบุหรี่จนเป็นสีแดง

เฉินชางมองไปที่เขา “สวัสดีครับ นี่คือ…หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังนะครับ”

ชายคนนั้นได้ยินก็ชะงักไปโดยพลัน แทบจะยืนไม่ไหว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ