เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 645

สรุปบท บทที่ 645 ผู้หญิงมีมารยา ส่วนเมิ่งซีมารยาตัวแม่!: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สรุปเนื้อหา บทที่ 645 ผู้หญิงมีมารยา ส่วนเมิ่งซีมารยาตัวแม่! – เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ โดย Internet

บท บทที่ 645 ผู้หญิงมีมารยา ส่วนเมิ่งซีมารยาตัวแม่! ของ เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 645 ผู้หญิงมีมารยา ส่วนเมิ่งซีมารยาตัวแม่!

แต่ละมณฑลต้องส่งกรรมการตัดสินนำทีมเข้าร่วมการแข่งขันด้วยคนหนึ่ง และฉินเยว่หมิงเป็นคณะกรรมการของมณฑลตงหยางอยู่แล้ว จึงเป็นคนนำทีมมา

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเยว่หมิงได้พบกับเฉินชาง เจ้าเด็กนี่…คงยังไม่รู้ว่าเราเป็นอาของฉินเยว่ละมั้ง

พอคิดถึงตรงนี้ ฉินเยว่หมิงก็อดยิ้มไม่ได้ ทั้งยังตั้งตาคอยเฉินชางคนนี้อย่างเต็มที่

เฉินชางกลับบ้านมาเก็บของ จู่ๆ ก็พบว่า…จะเก็บอะไรดีล่ะ! มีอะไรน่าเก็บ สองวันจะดื่มจะกินจะถ่ายก็ใช้ของโรงแรมได้ทั้งนั้น ต้องเอาอะไรไปล่ะ

หลังจากเก็บสัมภาระติดตัวแล้ว เฉินชางก็ไปสถานีรถไฟทันที

เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ไกลๆ เธออยู่ที่ไหนก็ดูเอ็กซ์แบบนั้นเสียหมด!

ใช่แล้ว อาจารย์เมิ่งของเขานั่นเอง

เฉินชางมองดูอาจารย์เมิ่งสวมเสื้อหนังเข้ารูปที่เน้นสัดส่วนโค้งเว้าชัดเจน อดถอนใจไม่ได้ อาจารย์คนนี้ทำให้นักเรียนสบายใจไม่ได้เลยจริงสิน่า สวมชุดหนังทั้งตัวเกิดตดขึ้นมาไม่กลัวขายหน้าหรือไง

เฉินชางถอนใจแล้วเดินไปข้างหน้า

“อาจารย์เมิ่ง คุณให้นักเรียนสบายใจหน่อยไม่ได้เหรอ” เฉินชางถอนหายใจ เห็นท่าทางเชิงนั้นของผู้ชายที่อยู่รอบๆ แต่ละคนจึงอดเตือนไม่ได้ว่า “คุณไปร่วมการแข่งขันทักษะผ่าตัด ไม่ได้ไปแข่งรถสักหน่อย”

เมิ่งซีได้ยินแล้วอดขำขึ้นมาไม่ได้ แต่งตัวปังมาก ทำให้เฉินชางปาดเหงื่อแทนตำรวจประจำสถานีรถไฟได้ นี่ถ้าก่อปัญหาเรื่องความสงบเรียบร้อย พวกคุณได้งานเข้าแล้ว

พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางรู้สึกว่าตนควรขจัดภัยให้ปวงชน รีบลากเมิ่งซีเข้าประตูตรวจตั๋วไปเลย พอถึงโถงรอรถไฟก็ยัดเมิ่งซีให้นั่งลงที่มุมหนึ่งจึงถอนหายใจโล่งอกได้

หลังจากเข้ามา เฉินชางก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าคนคนนี้ไม่ได้เอาสัมภาระมา เอามาแต่กระเป๋าสะพาย “สัมภาระคุณล่ะ”

เมิ่งซีส่ายหน้า “เอาสัมภาระอะไรมา ฉันไม่ได้อยู่โรงแรมด้วย ฉันไปบ้านที่นั่นก็พอแล้ว”

“จริงด้วย คุณไปด้วยกันกับฉันเถอะ!”

เฉินชางได้ยินแล้วทึ่งไปทันที จากนั้นจึงพยักหน้า “ช่างเถอะ ผมชอบอยู่โรงแรม”

เห็นเฉินชางปากไม่ตรงกับใจ เมิ่งซีเกือบหลุดพ่นหัวเราะออกมาแล้ว

เฉินชางเกาหัวแกนๆ เพื่อบรรเทาความเก้อเขิน

เมิ่งซียิ้ม “พอแล้ว อย่าคิดมากขนาดนั้น บ้านฉันตรงนั้นคงเป็นบ้านพักตากอากาศสักหลัง ถึงเวลาให้ผู้ดูแลมารับก็พอแล้ว คุณจะได้ติวการบ้านฉันไปด้วยเลย หลายวันนี้ฉันดูคลิปคุณรู้สึกเหมือนเกือบได้แต่ยังไม่ได้สักที คุณไปจะได้สอนฉันหน่อย”

เฉินชางพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ

ไม่นานนักกัวอวิ๋นเฟยกับฉินเยว่หมิงก็ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งมา กัวอวิ๋นเฟยไม่ผิดไปจากความคาดหมายแต่อย่างใด หลังจากเห็นเมิ่งซีก็ไปนั่งอยู่ไกลๆ มองยังไม่กล้ามอง แต่…ก็ดันอยากมองด้วย

เมิ่งซีเห็นฉินเยว่หมิงแล้วลุกขึ้นยิ้มพลางพูดว่า “สวัสดีค่ะผู้อำนวยการฉิน”

ฉินเยว่หมิงพยักหน้ายิ้ม “เสี่ยวเมิ่ง นี่คุณสวยขึ้นอีกนะเนี่ย”

เมิ่งซียิ้มให้อย่างเป็นธรรมชาติ สง่างามมีรสนิยม!

สิ่งนี้ทำให้เฉินชางเอือมระอา ผู้หญิงคนนี้นี่มารยาตัวแม่ รอยยิ้มเมื่อกี้ปลอมชะมัด ตอนอยู่กับผมออกจะกวนโอ๊ย แต่พอเป็นคนอื่นก็เป็นอีกแบบ ชุดหนังนี่ก็จะเหมาะเกินไปแล้ว เข้ากับรอยยิ้มสง่างามมีรสนิยม แล้วยังทำให้รู้สึกสดใส ดูเด็กลงไปเป็นกอง!

“รอบที่สามเป็นระบบดวลเดี่ยวคัดออก จากหกคนคัดออกมาสามคน ผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบตัดสินชิงชนะเลิศ”

พอพูดถึงตรงนี้ ฉินเยว่หมิงก็เอ่ยว่า “ความจริงแล้วการแข่งขันจัดอันดับตามคะแนนสะสมก็รับรองได้มากว่าการแข่งขันยุติธรรม แล้วก็ลดความบังเอิญได้ด้วย”

เฉินชางพยักหน้า ก็จริง แบบนี้แล้วจะลดความเป็นไปได้ที่คนเก่งเจอกันเองแล้วตกรอบตั้งแต่รอบแรกๆ ไปโดยสิ้นเชิง

ฉินเยว่หมิงพูดถึงตรงนี้แล้วจึงหยุดไปครู่หนึ่ง “ความจริงสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งขันระดับประเทศก็คือรอบชิงอยู่ดี”

“พูดอีกอย่างก็คือ ปีที่แล้วในการแข่งขันวันที่สอง อวิ๋นเฟยเจอกับซือคงในรอบที่สามจึงตกรอบ ไม่ได้เข้ารอบชิง”

“ผมจะบอกเกณฑ์การแข่งขันและการทดสอบจริงๆ ของรอบชิงให้พวกคุณฟัง”

“พอถึงเวลา พวกคุณสิบสองคนจะเข้าไปร่วมการปฏิบัติงานกู้ชีพจริงในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลสิบสองแห่ง ตอนออกรถทางการแข่งขันจะพยายามให้แน่ใจว่าเป็นการกู้ชีพของศัลยกรรมหัวใจ แต่รับรองไม่ได้ว่าจะเป็นการผ่าตัดอย่างแน่นอน”

“แน่นอนว่าพวกคุณแค่ติดรถไป งานกู้ชีพจริงๆ ทำกันเป็นทีม พวกผมจะให้คะแนนจากระดับการเข้าร่วมของพวกคุณ”

“ยิ่งเข้าร่วมมาก ยิ่งกู้ชีพสำเร็จได้มาก คะแนนก็ยิ่งสูง”

“ในทางกลับกัน ยิ่งเข้าร่วมน้อย กู้ชีพล้มเหลว คะแนนก็ย่อมน้อย”

ทุกคนฟังจบก็อดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่งไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นการแข่งขันระดับประเทศ ทุกคนจึงค่อนข้างตื่นเต้นอยู่ดี

แต่เฉินชางมองกัวอวิ๋นเฟยครั้งหนึ่ง เขาพบว่าเหมือนกับ…ความกดดันของหมอกัวไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน แต่กลับอยู่ที่เมิ่งซีผู้สวมชุดหนังรัดรูปทั้งตัวตรงหน้า คิดถึงตรงนี้ เขาอดถอนหายใจไม่ได้!

เฮ้อ…มีอาจารย์แบบนี้ เป็นลูกศิษย์มันเหนื่อยใจนะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ