เฉินชางพิจารณาชื่อที่จางจื้อซินพูดถึงอย่างละเอียด จู่ๆ ก็ตบหน้าผากตนเอง เข้าใจกระจ่างขึ้นมาทันที!
คิดออกแล้ว!
เป็นพวกเขานี่เอง!
เฉินชางพลันคิดไปถึงคนใหญ่คนโตทั้งสองคนที่ช่วยเป็นลูกมือให้ตนตอนอยู่ที่บ้านของเจิ้งกั๋วถาน
ดูเหมือนจะชื่อหยางเทา ส่วนอีกคนชื่อฉินเสียง!
หรือว่าจะเป็นพวกเขา?
คงเป็นพวกเขาละมั้ง?
เฉินชางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดวีแชท มองไปยังรายชื่อเพื่อนทั้งสอง เมื่อมองไปก็พบว่าเป็นพวกเขาจริงๆ!
หยางเทาเป็นเถ้าแก่ของคลินิกศัลยกรรมซีหย่า ส่วนฉินเสียงเป็นผู้อำนวยการแผนกผิวหนังแห่งโรงพยาบาลในเครือตงต้า
เฉินชางมองไปยังใบหน้าเมามายของจางจื้อซินที่เจือความโศกเศร้าอยู่หลายส่วน คิดจะช่วยสักครั้ง
อย่างไรเสียเกิดเป็นคนก็ต้องมีจิตใจอันดีงาม ต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณความแค้น
เถ้าแก่จางดีกับตนจริงๆ ครั้งที่แล้วยังช่วยให้ตนได้ฝึกผ่าตัดหลายครั้งจนจางโหย่วฝูไม่พอใจ กระทั่งถูกอีกฝ่ายใช้อำนาจกลั่นแกล้งในแผนก
หากเฉินชางช่วยได้แต่ไม่ยอมช่วย เช่นนั้นคงรู้สึกไม่ดี
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็พูดขึ้นว่า “อาจารย์จาง ผมรู้จักหยางเทาและฉินเสียง ให้ผมลองติดต่อดูดีไหมครับ?”
จางจื้อซินยิ้ม “เอาละ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก”
รู้จักกันมาระยะหนึ่งแล้ว จางจื้อซินจะไม่รู้นิสัยเฉินชางได้อย่างไร?
สะอาดสะอ้าน บริสุทธิ์ผุดผ่อง จะไปรู้จักคนใหญ่คนโตเหล่านั้นได้อย่างไร
จางจื้อซินดื่มไปมาก กลางคืนจึงไม่กลับบ้านแต่นอนอยู่ที่ทำงานคืนหนึ่ง
นี่แสดงให้เห็นข้อดีของการมีคลีนิกส่วนตัว ข้างห้องทำงานผู้อำนวยการคลินิกมีห้องนอนอยู่ห้องหนึ่งด้วย
เฉินชางไม่รู้ว่าจะจัดให้มีห้องนอนอยู่ข้างห้องทำงานผู้อำนวยการคลินิกไปเพื่ออะไร แต่…เมื่อคิดถึงหอยนางรมและไตผัดกุ้ยช่ายที่เถ้าแก่จางกินเข้าไปทั้งคืน เฉินชางก็ลังเล ไม่กล้าถาม
เขาคิดว่าตนพอจะรู้บ้างแล้ว…
เฉินชางไม่ได้มีสวัสดิการเช่นนั้นจึงต้องกลับไปนอนที่บ้าน วันนี้เขาได้รับเงินมาสี่หมื่นหยวน เรียกได้ว่าได้รับเงินจนอิ่มหนำ ตอนนั่งรถยังรู้สึกท้องตึงด้วยซ้ำ
เมื่อกลับไปถึงบ้าน เฉินชางก็โทรหาฉินเสียงและหยางเทาด้วยตัวเอง ตัดสินใจว่าจะขอให้ทั้งสองช่วยจางจื้อซินเสียหน่อย
เขาโทรหาฉินเสียงก่อน ไม่นานอีกฝ่ายก็รับโทรศัพท์
“เสี่ยวเฉิน? ฮ่าๆ ไม่พบกันนานนะครับ มีธุระอะไรหรือ?” ฉินเสียงหัวเราะก่อนเอ่ยถาม
เฉินชางกล่าวว่า “มีเรื่องรบกวนผู้อำนวยการฉินจริงๆ ครับ”
ฉินเสียงยิ้ม ไม่ได้รีบร้อนรับปาก ถามกลับอย่างละเอียดก่อนว่า “คุณลองพูดมาเถอะ ให้ผมฟังสักหน่อยว่าเรื่องอะไร”
เฉินชางรีบพูดต่อไป “คือว่าเป็นแบบนี้น่ะครับผู้อำนวยการฉิน เพื่อนผมคนหนึ่งต้องผ่าตัดศัลยกรรมดวงตา จำเป็นต้องร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญหลายคน พรุ่งนี้คุณมีเวลาหรือเปล่าครับ?”
เมื่อฉินเสียงได้ยินก็ใคร่ครวญเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ฮ่าๆ เรื่องนี้นี่เอง ผมยังคิดว่ามีเรื่องใหญ่อะไรซะอีก ไม่มีปัญหาครับ ผมเองก็อยากดูหน่อยว่าเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมแบบไหน”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ดีใจขึ้นมาโดยพลัน “ขอบคุณมากครับผู้อำนวยการฉิน! ถ้างั้นรบกวนคุณแล้ว พรุ่งนี้ผมจะแจ้งเวลาและสถานที่ให้คุณทราบอย่างละเอียดอีกครั้งนะครับ”
เฉินชางวางโทรศัพท์แล้วรีบต่อสายไปหาหยางเทาทันที เมื่อเทียบกับฉินเสียง หยางเทารับปากอย่างรวดเร็วกว่ามาก
เฉินชางคาดว่ามีสองคนนี้แล้ว คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะนะ?
……
เช้าวันต่อมา เฉินชางสะดุ้งตื่น ส่วนสาเหตุนั้นคงต้องโทษของบำรุงไตบำรุงหยางที่จางจื้อซินให้เขากินไปเสียมากมาย
เขารีบซักกางเกงใน จากนั้นก็อาบน้ำก่อนจะรีบร้อนเดินทางไปที่คลินิกศัลยกรรม
เดิมทีก็เช้ามากแล้ว ผลกลับกลายเป็นว่าจางจื้อซินตื่นเช้ากว่า ตอนนี้กำลังโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงาน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร แต่จางจื้อซินมีท่าทีกระตือรือร้นมาก เรียกได้ว่ากระตือรือร้นจนให้ความรู้สึกถ่อมตัวเล็กน้อยด้วยซ้ำ…
“ครับๆๆ! ไม่รบกวน ไม่รบกวนแล้วครับ ไม่มีปัญหาครับผู้อำนวยการหวัง คุณทำงานต่อเถอะ ได้ครับ! ถ้าคุณว่างเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาได้ตลอดนะครับ…”
หลังจากวางโทรศัพท์ไป จางจื้อซินก็หน้าดำคร่ำเครียด หันไปมองเฉินชางครู่หนึ่ง ทอดถอนใจออกมา “ผมเดาไม่ผิดเลยจริงๆ หวังเชินกลัวมีเรื่องเลยไม่ยอมมา”
เฉินชางพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมากมาย
จางจื้อซินถอนใจอีกครั้ง ยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหาอีกหลายคน หลังพูดถึงเรื่องผ่าตัดแก้ไขให้เสี้ยวเถียนฮวา ทุกคนก็ไม่ยอมมา
พริบตาเดียว จางจื้อซินก็รู้สึกลำบากใจขึ้นมาแล้ว!
เขาโทรหาคนที่โทรหาได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนคนที่ไม่รู้จักก็คือไม่รู้จัก ต่อให้เชิญก็คงไม่มา
จะทำอย่างไรดี?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ