เดือนมีนาคมและเดือนเมษายนสองเดือนนี้เป็นฤดูที่อากาศ
ค่อนข้างสบาย
อากาศไม่ร้อนไม่หนาว แสงแดดกำลังดี ที่สำ คัญที่สุดคือ
ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้ว สรรพชีวิตฟื้นคืนชีวิตชีวา สรรพสัตว์
มาเยือน…
แม้เดือนมีนาคมก็ถือว่าค่อนข้างพิเศษสำ หรับสัตว์น้อยใหญ่
แต่สำ หรับเฉินตั๋วที่กำลังจะจบการศึกษาก็พิเศษมากเช่นกัน!
หลังจากได้ยินว่าเฉินตั๋วจะออกมาเดินเล่น เฉินชางพลัน
ถอนหายใจ!
เขารู้สึกว่าในฐานะลูกพี่ลูกน้อง เขาจำ เป็นต้องเตือนเฉินตั๋ว
“ตั๋วตั่ว เธอเขียนวิทยานิพนธ์เสร็จหรือยัง ตรวจสอบหรือยัง ให้
อาจารย์ที่ปรึกษาดูหรือยัง”
เฉินตั๋วได้ยินคำพูดของเฉินชางก็โกรธจบแทบระเบิดอารมณ์!ช่วงนี้วันๆ เธอเอาแต่ค้นหาบรรณานุกรมและแก้วิทยานิพนธ์
ในหัวมีแต่วิทยานิพนธ์
อุตส่าห์หาเวลาว่างได้ คิดไม่ถึงว่าโทรไปแล้วจะโดนเฉินชางว่า
อีก
เฉินตั๋วโกรธจนตะโกนเสียงดัง “พี่ หนูจะตัดขาดความสัมพันธ์
กับพี่!”
ฉินเยว่พลันมองบนใส่เฉินชาง “ตั๋วตั่ว เดี๋ยวพี่จัดการเขาให้!”
เฉินตั๋วถอนหายใจ “ช่วงนี้ยุ่งจนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว อุตส่าห์
เขียนวิทยานิพนธ์เสร็จ จะผ่อนคลายสักหน่อย พี่ชายหนูร้ายเกินไป
แล้ว!”
เฉินชางถอนหายใจอย่างจนปัญญา!
ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ รวมหัวกันตลอด
กับคำพูดที่ขัดหูแต่มีประโยชน์ของตน พวกเธอไม่สนใจอยู่แล้ว
ช่างเถอะ ช่างเถอะ!
หลังจากวางสาย ฉินเยว่รีบแต่งตัว
อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้า…อืม เ
ฉินชางค้นพบว่าฉินเยว่มีข้อดีหนึ่ง นั่นคือใช้เวลาแต่งหน้า
ไม่นาน แค่ทาลิปสติกง่ายๆ ก็นับว่าแต่งหน้าเสร็จแล้ว
แต่เขามักรู้สึกว่า ยัยฉินขี้ประจบไม่ค่อยเข้าใจคำว่าแต่งหน้า!
เอ่อ…
เหมือนจะนับว่าเป็นเรื่องดีสำ หรับตน
สำ หรับการออกไปเที่ยว เฉินชางไม่ต่อต้านเลยสักนิด กระทั่ง
รู้สึกเฝ้ารอเล็กน้อย
อยู่โรงพยาบาลนานเกินไป เขามักรู้สึกเข้ากับโลกไม่ได้ ถึงขั้นที่
รู้สึกว่าเห็นใครก็ดูป่วยไปหมด…
เหมือนกลับสู่ช่วงฝึกงาน ตอนนั้นเฉินชางฝึกงานที่แผนก
สูตินรีเวชหนึ่งเดือน วันๆ ตกใจกับหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าตนตั้งครรภ์ไม่รู้
กี่คน
ถึงขั้นที่หลังจากนั้น เฉินชางเห็นใครก็คิดว่าตั้งครรภ์ไปช่วง
ใหญ่!
ความจริง ความเคยชินทางอาชีพเป็นเรื่องที่อันตรายมากเฉินชางยังถือว่าดี ไม่ได้กระทบมากนัก
พนักงานหลายคนในสำ นักงานวางแผนครอบครัวและศูนย์
ตรวจดีเอ็นเอ เมื่อทำงานนานไป ถึงขั้นเริ่มสงสัยทัศนคติต่อชีวิตและ
การเลือกคู่ครอง ในหัวเต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจ
ช่วงนี้เฉินชางเองก็งานยุ่งจนไม่มีเวลา ทั้งวิจัยและวินิจฉัยโรค
ความจริงเขาก็ค่อนข้างเหนื่อย ควรจะปรับสมดุลหัวสมองสักหน่อย
ช่วงฤดูระหว่างฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ช่วงฤดูนี้เป็นฤดูที่สาว
ๆ แต่งตัวเปิดเผยได้มากขึ้น
ในฐานะเมืองใหญ่ระดับนานาชาติ ในเรื่องการแต่งตัวก็ดูออก
ว่าแตกต่างกับเมืองอันหยางมาก
เฉินตั๋วเป็นนักศึกษาระดับปริญาโทของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีปักกิ่งที่จะจบการศึกษาในปีนี้ ตอนนี้กำลังเตรียม
วิทยานิพนธ์สำ หรับจบการศึกษาปริญญาโท ไม่อย่างนั้นเฉินชางคง
ไม่ถาม
ขับรถไปไม่ถึงสี่สิบนาทีก็ไปถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
เมืองหลวง หลังจากรถจอดสนิท จู่ๆ เฉินตั๋วก็ยิ้มพูด“พี่ชาย พี่ขับรถคันนี้มา ควรไปคณะนิเทศศาสตร์มากกว่า
มาที่นี่น่าเสียดายไปหน่อย”
เฉินชางได้ยินแบบนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
ไม่ใช่แล้ว!
เขารู้สึกว่าเฉินตั๋วมาแก้แค้น
ตามคาด ฉินเยว่ถลึงตาใส่เฉินชางทีหนึ่ง พร้อมขู่เสียงเบา
“คุณกล้าขับรถไปคณะนิเทศศาสตร์ หรือไปขับรถที่คณะ
นิเทศศาสตร์ ฉันฆ่าคุณแน่”
สีหน้าเฉินชางงุนงงเต็มประดา!
ความคิดที่เฉินตั๋วเพิ่งเสนอ จบสิ้นในชั่วพริบตา
เขารู้สึกว่าเฉินตั๋วกำลังแก้แค้น
ความคิดดีๆ แบบนี้ควรส่งข้อความวีแชทให้ตนเป็นการส่วนตัว
ไม่ใช่พูดต่อหน้าพี่สะใภ้เธอแบบนี้ ทีนี้ความเป็นไปได้เลยกลายเป็น
ศูนย์เลย
เฉินชางสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เขาเห็นด้วยกับคำพูดของ
เหล่าฉินมากขึ้นเรื่อยๆ!ผู้หญิงมักเข้าข้างคนนอก
ถึงอย่างไรเฉินตั๋วก็เป็นคนของตระกูลเฉิน น่าผิดหวังจริงๆ
พอเข้าสู่เขตมหาวิทยาลัยก็เห็นว่าต้นไม้บางต้นเริ่มเขียวขจี
แล้ว ดอกอัลมอนด์ก็เริ่มบานแล้วเช่นกัน
ในเขตมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยนักศึกษา
เข้ามาก็รู้สึกถึงกลิ่นอายความเยาว์วัยแล้ว
แม้ฉินเยว่เองก็มาเรียน แต่…ในวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ย
นมีแต่พวกนักศึกษาระดับปริญญาตรี โทและเอกที่เหมือนพระสงฆ์
เข้าไปทุกวัน…
หลังจากเข้าไป ก็จะเห็นว่าแต่ละคนผมเริ่มบางขึ้นเรื่อยๆ
รวมถึงความเป็นผู้ใหญ่และสายตาที่คนอายุเท่านี้ไม่ควรมี จะทำให้
สงสัยอายุของตนขึ้นมา
เห็นคู่รักที่เดินผ่านไปผ่านมา เฉินชางเองก็อิจฉา
วัยรุ่นก็ดีแบบนี้แหละๆ!
“มหาวิทยาลัยเธอสวยมาก ถึงว่าอยากมาเรียนมหาวิทยาลัย
ชื่อดังกัน!” เฉินชางอดถอนหายใจไม่ได้ฉินเยว่กับเฉินตั๋วอดขำไม่ได้ “เฮ้อ แบบนี้เรียกว่าตอนหนุ่ม
ไม่ไขว่คว้า แก่มาน่าสังเวช! ชาตินี้คุณไม่มีโอกาสแล้ว”
ฉินเยว่ยังถือว่าโชคดี ได้เรียนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยดีๆ
มาโดยตลอด แต่ชีวิตนี้เฉินชางเคยอยู่แค่เมืองอันหยาง เคย
มามหาวิทยาลัยชั้นสูงแบบนี้เสียที่ไหน
เฉินชางได้ยินแล้วเดือดดาลเล็กน้อย “สมัยก่อนไม่เหมือน
สมัยนี้! อย่าดูถูกคนหนุ่มสาว พวกคุณไม่มีวิสัยทัศน์”
เฉินตั๋วกลั้นขำไม่อยู่ “ฮ่าๆ หนูเด็กว่าพี่นะคะ!”
เฉินชางพลันพูดอย่างไม่พอใจ “คอยดู เดี๋ยวอีกไม่นานพี่จะ
มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเธอ”
เฉินตั๋วและฉินเยว่หัวเราะขึ้นมาทันที “นี่คือเป้าหมายของคุณ
เหรอคะ”
เฉินชางมองทั้งสองคน โกรธจนกัดฟัน อดตบศีรษะเล็กของฉิน
เยว่ไม่ได้ “คุณอย่าเพิ่งได้ใจ วันหลังผมจะไปเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัย
การแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนสักหน่อย”
เห็นรอยยิ้มของทั้งสอง เฉินชางรู้สึกว่าตนน้อยใจมากอยู่กับคนแบบไหน ก็จะมีความรู้สึกแบบนั้น
มาถึงมหาวิทยาลัย หลังจากเดินอยู่รอบหนึ่ง จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึก
ว่าความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งสัปดาห์ผ่อนคลายลงมาก
บางทีรอตนแก่ไป มาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็ไม่แย่
อยู่กับพวกนักศึกษาทั้งวัน นับว่าผ่อนคลายและอ่อนเยาว์
ตอนเที่ยง ทั้งสามกินข้าวที่โรงอาหาร
แต่แล้วเฉินชางก็ค้นพบว่า ตนมีแรงดึงดูดต่อหญิงวัยกลางคน
มาก ตอนซื้อข้าว มือของคุณน้าไม่ได้สั่นเลย แต่ก็ให้เนื้อมาเยอะกว่า
ปกติ!
ทำให้ความคิดที่เฉินชางจะกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลับ
ในอนาคตหนักแน่นมากขึ้น
เขารู้สึกว่า ตนจะต้องประหยัดเงินได้ไม่น้อยแน่
กินข้าวเสร็จ เฉินชางฉวยโอกาสตอนที่สองสาวกำลังนั่งย่อย
อาหารลุกไปซื้อน้ำ
ไปถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตในโรงอาหาร คนที่รอต่อแถวจ่ายเงิน
เยอะมาก หญิงสาวที่สวยมากคนหนึ่งมองเฉินชางที่ถือน้ำเปล่าสามขวดแล้วอึ้งไป พี่ชายคนนี้หล่อมาก
เธอจึงคิดแผนขึ้นมา ตอนจ่ายเงินแสร้งทำเป็นจ่ายเกิน!
“อุ๊ย ขอโทษด้วยนะคะ ฉันจ่ายเกิน!”
หลังจากนั้นเธอก็มองเฉินชางแวบหนึ่ง “พี่ชาย ถ้าอย่างนั้น
เดี๋ยวหนูจ่ายให้ พี่แอดวีแชทหนูแล้วโอนคืนได้ไหมคะ”
เฉินชางถอนหายใจ มหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ เลย
ตอนเขาเรียนมหาวิทยาลัยก็มีสาวๆ มากมายทอดสะพานใส่ตนแบบ
นี้แหละ
ความรู้สึกที่คุ้นเคยนี้ ห่างหายไปกี่ปีแล้ว!
เฉินชางล้วงเหรียญออกมาหกหยวน เงินจำ นวนนี้เฉิน
ชางเตรียมไว้ในกระเป๋าเพื่อจ่ายค่าจอดรถโดยเฉพาะ
“น้ำเปล่าสามขวดครับ
ขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือมาด้วย!”
การตอบสนองแบบนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้หญิงสาวคนนั้นตกใจ
คุณป้าขายน้ำเองก็อึ้ง
เจ้าหมอนี่ สมแล้วที่โสด…ตอนที่เฉินชางเดินกลับไป ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า ต่อไป
จะมาที่มหาวิทยาลัย และจะมาบ่อยๆ ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ