เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ นิยาย บท 947

หลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเขาก็เดินเล่นรอบสนามฟุตบอลไป
สองรอบ
จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่า ช่วงฤดูร้อนนี่แนะนำเจ้าเซ่อหม่าไปทำ
ภารกิจตรวจสมรรถภาพทางกายของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย
สื่อมวลชนได้เลย
นี่คือเรื่องที่มีความหมายมาก เจ้าเซ่อหม่าคงจะชอบมาก
แต่เฉินชางไม่ได้พูดออกมา เขาจะเก็บแผนการนี้ไว้ในใจ
ช่วงบ่าย เฉินตั๋วพาฉินเยว่ไปเดินช้อปปิ้ง ส่วนเฉินชางตามอยู่
ข้างหลัง
แม้บอกว่าเป็นการเดินช้อปปิ้ง พูดให้เจาะจงกว่านี้ ควรจะบอ
กว่าไปลองเสื้อผ้า
ทั้ง
สองไม่ได้อยากซื้อมากนัก
หลังจากลงมายังห้างสรรพสินค้าชั้นหนึ่งก็ได้กลิ่นหอมมาก
มีเคาน์เตอร์สินค้าหรูหรามากมาย เช่น ชาแนล ดิออร์ และแบรนด์อื่นๆ แต่ความสามารถในการแยกแยะสินค้าฟุ่มเฟือยของเฉิน
ชางค่อนข้างจำ กัด
ฉินเยว่และเฉินตั๋วเลือกลิปสติกอยู่ที่เคาน์เตอร์ชาแนล ทั้งสอง
ต่างตื่นเต้น
จู่ๆ เฉินชางก็พบว่า เครื่องสำ อางที่ฉินเยว่รู้จักก็คงมีแค่ลิปสติก
ละมั้ง
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทั้งดูทั้งลอง พนักงานขายที่ยืนอยู่
ข้างๆ ก็ไม่ได้สนใจ ถึงอย่างไร…ความจริงแล้ว ของพวกนี้ คนลอง
มากกว่าคนซื้ออยู่แล้ว
หลายคนแค่มาเอาบรรยากาศเท่านั้น
แต่คิดไม่ถึงว่า ครั้งนี้จู่ๆ ฉินเยว่จะคึกซื้อไปหลายแท่ง ชื่อ
แบรนด์ของลิปสติกทำเอาเฉินชางไม่กล้ามอง…
“จ่ายเงินเลยค่ะ”
พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น ฉินเยว่ออกบิลเรียบร้อยแล้ว พลันยื่นให้
เฉินชาง
เฉินชางพยักหน้า ลุกไปจ่ายเงินถ้าเทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆ นี่ถือว่าประหยัดมากแล้ว
หนึ่งพันหยวน ไม่ได้ถูกหรือแพงเกินไป
เฉินชางหยิบลิปสติกขึ้นมาแล้วพูดกับฉินเยว่ “เฮ้อ ผู้หญิงเนี่ย
เสียเงินง่ายจริงๆ เลย แค่นี้ก็หนึ่งพันกว่าหยวนแล้ว”
เฉินชางไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ”
เฉินตั๋วหัวเราะคิกๆ “เวลาออกไปกินข้าว ใครเป็นคนจ่ายคะ”
เฉินชางพยักหน้า “พี่ไง”
เฉินตั๋วพูดต่อว่า “งั้นก็ถูกต้องแล้วไงคะ”
เฉินชางจนคำพูดเล็กน้อย “ถูกต้องอะไร มั่วจริงๆ เลย…”
ฉินเยว่เองก็ไม่เข้าใจนัก เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ใครเป็นคน
เลี้ยงข้าว
จู่ๆ เฉินตั๋วก็ยิ้มพูดว่า “เพราะ…ลิปสติกก็เป็นอาหารที่พี่สอง
คนกินด้วยกันไงคะ!”
ประโยคนี้ ทำเอาฉินเยว่หน้าแดงขึ้นมาทันที!
แต่…จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีเหตุผลมาก หลักการของเฉินตั๋วได้เปิดโลก
ของฉินเยว่ เธอพลันรู้สึกว่า ถ้าตามหลักการนี้…หลายๆ อย่างก็สมควรเป็นเฉินชางที่เป็นคนซื้อ!
“ในเมื่อทั้งสองกินด้วยกัน อีกอย่าง พี่ก็คงอยากกินของที่อร่อย
ปลอดภัยใช่ไหมคะ พี่ยังจะหาว่าแพงอีก”
ประโยคนี้ ทำให้เฉินชางอึ้งไป
แม้รู้ดีว่าเป็นการเล่นลิ้น แต่…ก็เหมือนว่าเขาจะหาเหตุผลมา
เถียงไม่ออก
ทั้ง
ช่วงบ่าย ฉินเยว่ยึดหลักการนี้ ซื้อกระโปรงไปตัวหนึ่ง และ
น้ำหอมอีกสองขวด และของอีกหลายอย่างที่เฉินชางคิดว่าไม่มีส่วน
เกี่ยวข้องกับตนเองสักนิด!
ทำให้จู่ๆ เฉินชางก็ตระหนักได้ว่า การที่พาเฉินตั๋วออกมาเที่ยว
ในวันนี้ ถือเป็นการขาดทุนอย่างมหาศาล
เดินอยู่ในห้างทั้งบ่าย ทั้งสามจึงหามุมเงียบสงบนั่งพักและสั่ง
เครื่องดื่มสักหน่อย
อาจเพราะรู้สึกว่าคำพูดของตั๋วนั้นช่วยตนได้มาก ฉินเยว่
จึงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เธอตามมารยาท“ตั๋วตั่ว วิทยานิพนธ์ของหนูอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ช่วยดูให้” ฉินเยว่
พูดยิ้มๆ
ได้ยินคำพูดของฉินเยว่ เฉินตั๋วเองก็ดีใจขึ้นมา
แม้ไม่ได้อยู่คณะเดียวกัน แต่หลายอย่างก็อ้างอิงกันได้
ความจริงวิทยานิพนธ์ก็มีอยู่แค่นั้นแหละ โดยเฉพาะวิทยานิพนธ์
ระดับปริญญาโท
“พี่สะใภ้คะ ช่วยให้คำแนะนำหนูหน่อย หนูรู้สึกว่ามีบางจุด
ไม่ค่อยเหมาะสม” เฉินตั๋วยิ้มตอบ “อีกอย่าง ความจริงวิทยานิพนธ์
ของหนูก็ถือว่าเกี่ยวข้องกับการแพทย์อยู่บ้าง!”
เฉินชางได้ยินแล้วก็ประหลาดใจขึ้นมา อดพูดไม่ได้ “ตั๋วตั่ว ส่ง
มาให้พี่ด้วยสิ!”
เฉินตั๋วพยักหน้า ส่งวิทยานิพนธ์ไปที่วีแชทของทั้งสอง
หลังจากพูดจบ เฉินตั๋วก็มองเฉินชาง “รบกวนพี่ช่วยตรวจคำ
ผิดให้ด้วยนะคะ หนูหาไม่เจอแล้ว!”
ประโยคนี้ ทำให้ฉินเยว่เกือบหลุดขำออกมา!สีหน้าเฉินชางยิ่งกระดากเต็มประดา เขารู้สึกกว่าตนถูก
ด้อยค่าอย่างที่สุด
ผมเฉินชางนะ…เป็นแค่คนตรวจคำผิดที่ไหน
วินาทีนั้นเอง เฉินชางก็พลันตระหนักได้ว่า ตนควรหาตำแหน่ง
ทางวิชาการมาเป็นหน้าเป็นตาสักหน่อย อย่างเช่นเป็นอาจารย์ของ
มหาวิทยาลัยสักแห่ง
ไม่อย่างนั้น…
ชีวิตเขาจะลำบากเกินไปแล้ว!
เฉินชางเปิดไฟล์ขึ้นมา
หลังจากเห็นหัวข้อ เฉินชางก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ตา
เป็นประกายขึ้นมาทันที
‘การคำนวณและวินิจฉัยคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์โดย
ใช้คลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อประมาณและจำ ลองโหนดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ’
หลังจากเห็นหัวข้อ จู่ๆ เฉินชางก็ถามว่า “ตั๋วตั่ว พวกเธอ
ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ในการคำนวณและรวบรวมสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ
เพื่อคำนวณความเป็นไปได้ที่หัวใจจะเต้นผิดปกติใช่ไหม”เฉินตั๋วพยักหน้า “ใช่ค่ะ แต่หัวเรื่องนี้ไม่ค่อยโดดเด่น หนูเลย
จำ ลองโดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยคาดการณ์คลื่น
ไฟฟ้าหัวใจในอีกหนึ่งถึงสองวันข้างหน้าด้วยการคำนวณการเต้น
ของหัวใจของกระต่าย แต่…ผลลัพธ์คือล้มเหลว วิทยานิพนธ์ของหนู
ไม่ใช่การพิสูจน์ประสิทธิผล แต่เพื่อพิสูจน์ความล้มเหลวของแนวคิด
นี้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล”
คำพูดของเฉินตั๋ว ทำให้เฉินชางรู้สึกว่าน้องสาวของเขาก็เก่ง
ใช่ย่อย
ความจริงจุดประสงค์ของวิทยานิพนธ์ก็คือการหาข้อสรุป
ไม่ได้สนใจว่าบทสรุปนี้จะผิดหรือถูก
อย่างเช่นยาบางชนิด เพียงแค่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีผลกับโรคบาง
โรค ก็ถือเป็นการวิจัยที่มีความหมายแล้ว
ทว่า แม้เฉินชางจะไม่รู้ว่าการทดลองของเฉินตั๋วเป็นอย่างไร
แต่การใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จำ ลองโครงสร้างและหน้าที่ของ
ร่างกายมนุษย์เพื่อคำนวณสัญญาณบางอย่างถือว่าใช้ได้!
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ไม่มีอารมณ์มาอ่านวิทยานิพนธ์แล้วเขาหลับตาวิเคราะห์ขึ้นมา
ความจริง…
วิธีที่เหมาะสมที่สุดในการใช้แบบจำ ลองคอมพิวเตอร์ในการ
ประมาณค่าอาจเป็นการฟื้นฟูระบบทางเดินอาหาร
ช่วงนี้ เฉินชางหมกมุ่นกับโจทย์ยากนี้มาโดยตลอด
เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร ระบบย่อยอาหารของทุกคนโดยพื้นฐาน
จะเหมือนกัน และโดยรวมแล้วจะไม่มีความแตกต่างกันมากนัก
ทำให้เฉินชางนึกถึงปีเตอร์ โธบี!
ผู้ริเริ่มเวชศาสตร์ความงาม CIS
แนวคิดของเขาคือการใช้สัญญาณคอมพิวเตอร์เพื่อจำ ลอง
โครงสร้างบางส่วนของใบหน้ามนุษย์ จากนั้นจึงจำ ลองและคำนวณ
เพื่อผ่าตัด
การทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าทำได้ ถ้าอย่างนั้น…ก็
ใช้คอมพิวเตอร์จำ ลองระบบทางเดินอาหารของแต่ละคนได้หรือไม่
หากการจำ ลองสำ เร็จ จะได้ไดอะแกรมแบบจำ ลองสามมิติ
ของระบบย่อยอาหารของมนุษย์ด้วยวิธีนี้ ในระหว่างการผ่าตัด การคำนวณและจำ ลองก็
จะทำได้ล่วงหน้าผ่านทางคอมพิวเตอร์
ก็จะสร้างระบบทางเดินอาหารขึ้นมาใหม่ได้ดีขึ้น
ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของการผ่าตัดดีขึ้น และความกดดัน
ในการผ่าตัดของหมอจะลดลง
นี่ดูเหมือนเป็นโครงการที่นำมาวิจัยได้
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ขมวดคิ้ว ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
แม้นี่จะเป็นเพียงแค่ความคิดหนึ่ง แต่เฉินชางรู้สึกว่าควรค่าแก่
การวิจัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ