บทที่ 57 ที่จริงแล้วรักเธอมาก – ตอนที่ต้องอ่านของ เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น
ตอนนี้ของ เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น โดย BUNNY ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 57 ที่จริงแล้วรักเธอมาก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
กลางคืนค่อยๆ มืดลง พระจันทร์ค่อยๆ ส่องสว่าง เมฆดำล่องลอยผ่านไปบนท้องฟ้า แล้วค่อยๆ ขจัดความสว่างไสวทั้งหลายให้หมดไป พื้นปฐพีตกอยู่ในความมืดมิด
โรงเรียนอนุบาลเซอร์ไพรส์ โนเบิล
บริเวณสถานศึกษาในตรอกเล็กมีเงาเคลื่อนไหวอยู่ ฟูกอันเล็กถูกยกไปที่สนามเด็ก เงาร่างเล็กที่ซุกซนทั้งสี่หายไปอย่างรวดเร็ว
เด็กน้อยอายุห้าขวบ มุมมองโลกยังไม่ทันที่จะก่อตัวขึ้น แต่ก็ทำเรื่องกลั่นแกล้งที่กล้าหาญนี้ขึ้นมาได้ ไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาต่างก็เป็นลูกของครอบครัวที่ร่ำรวย เดิมที่กล้าหาญ เพราะถือว่าถ้าทำผิดไป ก็ไม่มีใครกล้าที่จะมาพูดว่าพวกเขาผิดได้
"พี่ใหญ่หมี่ เด็กเหลือขอนั่นต้องตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วตกใจอย่างแน่นอน"
"โฮะๆ.....รอใช้โทรศัพท์มาถ่ายรูปเขาก่อนเถอะ พรุ่งนี้จะทำให้เขาอับอาย ทำให้เขาเงยหน้าต่อหน้าสาวๆไม่ได้อีกเลย"
"ถ่ายรูปอะไรกัน? มีกล้องวงจรปิด พรุ่งนี้ดึงออกมาก็ได้แล้ว ไป ไปนอนกันเถอะ!"
หมี่อี้โหยวที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ปีนี้อายุเพียงห้าขวบ หวีผมเป็นทรงลูกชายในตระกูลขุนนาง ผมมันเป็นเงา แม้ว่าจะอยู่กลางดึกแล้วก็ยังคงรักษาไว้ไม่ให้ยุ่งได้ เผยให้เห็นถึงสถานะของชนชั้นสูง
ก่อนที่จะเข้าไปในตึกหอพัก เขาตั้งใจที่จะหันกลับไปเหลือบมอง หรี่ตาลงแล้วยิ้มเยาะ : "เซียวอู๋เหิน ใครใช้ให้พ่อแม่ของนางตั้งชื่อนายให้โดดเด่นขนาดนี้กัน ฮีโร่เวอร์ชันย่อของเซียงเจียงงั้นเหรอ? เฮอะ นายก็ไปสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดซะเถอะ เพลิดเพลินกับแสงสว่างของพระอาทิตย์และพระจันทร์ รีบกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ไม่อย่างนั้นนายสู้ฉันไม่ได้หรอก"
หลังจากที่เด็กน้อยเข้าไปแล้ว ไฟแสดงสถานะบนกล้องวงจรปิดในแต่ละแยกหยุดกะพริบอย่างกะทันหัน นี่คือสิ่งที่ชี้บอกว่าการควบคุมและคอยสังเกตการณ์เกิดความขัดข้อง
กลางคืนในเดือนสามยังคงเย็นยะเยือก ความมืดบนท้องฟ้ายามค่ำคืนก็มีฝนตกโปรยปรายลงมา
เอี๋ยนต้าฟาถูกคลุมด้วยผ้าห่มผืนเล็ก นอนอยู่ในสนามเด็กเลยอย่างโดดเดี่ยว น้ำฝนตกลงมาบนใบหน้าเล็กอย่างอ่อนโยน และเย็นเยือก เย็นจนเขาสั่นระริกขึ้นมา
หลังจากที่ครั่นเนื้อครั่นตัวเป็นเวลาต่อเนื่องไม่นานนัก เด็กน้อยก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น และในเวลาเดียวกันนั้น มีมือของผู้ใหญ่คู่หนึ่งมาปิดอยู่ที่ปากของเขาอย่างกะทันหัน ภายในใจของเอี๋ยนต้าฟาตกใจมาก แต่กลับฉลาดไม่ได้ทำการขยับกายใดๆ แสร้งทำท่าทางว่าหลับสนิท
หน้านาทีต่อมา สระน้ำในบริเวณสถานศึกษาก็ส่งเสียงตูมดังขึ้น
“อา——”
อีกด้านหนึ่ง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่เหมือนมีอะไรบางอย่างมาตีที่หัวใจ แล้วลุกขึ้นนั่งอย่างกะทันหัน หายใจหอบแรงอย่างตกใจและหวาดผวา
ลูกชาย! เธอฝันร้ายเหรอ ฝันเห็นลูกชายถูกคนมาฆ่า มีดถูกเหวี่ยงไปในแสงจันทร์ที่หนาวสะท้าน เลือดสดไหลหยดลงมาจากศีรษะอันอ่อนนุ่มของเขา!
"หื้อ?" เมื่อตระหนักถึงการเคลื่อนไหว เซียวเซิ่งก็หลับตา แล้วก็อุ้มหญิงสาวเข้ามากอดในอ้อมแขนใหม่อีกครั้ง น้ำเสียงเซ็กซี่อ่อนโยน "ฝันร้ายแล้วใช่ไหม? ไม่ต้องกลัว สามีอยู่นี่~นอนซะนะ เด็กดี~"
เพื่อแลกกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสูดหายใจร้องไห้สะอึกสะอื้น ฝนน้ำตาตกหนักจนอุปสรรคที่ชัดเจนทำให้หน้าอกที่แข็งแรงของเซียวเซิ่งเปียกชุ่ม
ลูกชายเป็นชีวิตของเธอ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ความฝัน หัวใจของเธอก็ยังคงแหลกสลายอยู่ดี มันเจ็บปวดจนไม่มีทางที่จะหายใจ
"เสี่ยวเนี่ยน?" อาการง่วงนอนของเซียวเซิ่งหายไปหมดแล้ว เขาลุกขึ้นนั่งแล้วเปิดโคมไฟติดผนัง เอาผู้หญิงร่างบางมากอดไว้ในอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น ใช้มือเดียวลูบไปที่หลังอันบอบบางที่สั่นเทา เพื่อปลอบโยน
“บอกฉันมา ฝันอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
"ฉันฝันเห็นลูกชายถูกคนฆ่าแล้ว ลูกชายของฉัน....ถูกคนทำร้ายแล้ว!" เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสะอึกสะอื้น เสียใจด้วยความเจ็บปวดจนหายใจไม่ออกแล้ว
"ความฝันมักเป็นสิ่งตรงกันข้าม ไม่ต้องกลัว หื้ม?" เขายกนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างขึ้นมา แล้วเช็ดหยดน้ำตาจากใต้ตาของเธอ เซียวเซิ่งรู้สึกปวดใจเล็กน้อยแล้วจูบที่หน้าผากของเธอ
ก่อนนอนไม่ใช่ว่าเขาพึ่งคุยโทรศัพท์กับเอี๋ยนต้าฟา และโรงเรียนอนุบาลตอนนอนก็ยังมีคุณครูมาคอยดูแล เย่เฟิงก็อยู่ค่อยปกป้องเขา ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องขึ้นมีไม่มาก
"ให้ฉันโทรศัพท์หาเขาหน่อยได้ไหม?" เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนน้ำตาซึมออกมาเป็นจังหวะและวพิงอยู่บนไหลของเซียวเซิ่ง "คุณไม่มีลูก ดังนั้นจึงไม่สามารถเข้าใจได้....รสชาติของแยกเนื้อและกระดูกออกจากกันตายเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่อีกจริงๆ"
"ไม่ต้องร้องไห้แล้ว โอ๊ย?" ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่เย็นชาและน่าเกรงขามแค่ไหน ต่างก็กลัวเวลาที่ผู้หญิงของตัวเองร้องไห้ เซียวเซิ่งก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เขาเอาเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปอยู่ในผ้าห่มและคลุมไว้อย่างดี แล้วสวมเสื้อคลุมชุดนอนเดินออกไป
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนขยี้ตาที่ร้องไห้จนเจ็บ ยกร่างขึ้นมาแล้วถามว่า "คุณจะไปที่ไหน?"
"ไม่อยากห่างจากฉันเหรอ?" เซียวเซิ่งวางมือไว้ที่ลูกบิดประตู แล้วหันกลับมามองที่เธอ "ไม่ใช่ว่าให้ฉันไปโทรศัพท์เหรอ จะไปโทรที่ห้องหนังสือ"
“โทรศัพท์ในนี้ได้ไหม ให้ฉันได้ยินเสียงเขาสักหน่อย?”
เย่เฟิงกำลังจิตใจจดจ่ออยู่กับการงม และเด็กน้อยที่อ่อนนุ่มนิ่มคนหนึ่งก็ตกลงมาจากท้องฟ้า แล้วก้นก็นั่งอยู่บนหลังที่แข็งแกร่งของเขา
"โอ๊ย!" เย่เฟิงส่งเสียงคร่ำครวญ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ถูกผีทำให้ตกใจกลัว เขาจับข้อเท้าของเอี๋ยนต้าฟาขึ้นมาด้วยความโกรธ แล้วหมุนอยู่สองสามครั้ง ตอนที่คิดที่จะโยนออกไป เขาก็ชักมือของเขาได้ทันเวลา
“พี่ฟา?”
"อืม แค่กแค่ก...." เอี๋ยนต้าฟาา่งเสียงไออยู่สองครั้ง ดวงตาสีดำเงาของเขากะพริบปริบๆ เจิดจรัสราวกับแสงดวงดาวเป็นท้องฟ้า
"พ่อตัวน้อยของผม คุณมีความสามารถมากจริงๆ" เมื่อยืนยันได้แล้วว่าตุ๊กตาตัวน้อยนี้คือเอี๋ยนต้าฟา เย่เฟิงก็ดีใจถึงที่สุดจนร้องไห้ออกมา เขาเกือบที่จะคุกเข่าลงแล้ว "ทำไมในมือของคุณถึงถือรากบัวเอาไว้เหรอ?"
"แม่ของผมชอบกิน" ตัวของเอี๋ยนต้าฟาเปียกน้ำ ขนอ่อนบนหัวของเขาติดอยู่บนหน้าผาก และตัวสั่นเท่าด้วยความหนาวเย็น แต่กลับโลภกอดรากบัวเอาไว้แน่น "ลุงเฟิง ดึงรากบัวมาให้ผมอีกสองสามอัน เก็บไว้ให้แม่ของผมกินตอนกลับมา"
ในใจของเย่เฟิงซาบซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วใช้มือเปล่าขุดรากบัวขนาดใหญ่ออกมา แล้วอุ้มเอี๋ยนต้าฟาวิ่งแล้วกับบินกลับไปที่ห้อง วางไว้บนน้ำอุ่นอาบน้ำให้เขา
เอี๋ยนต้าฟาด้านหนึ่งอาบน้ำ ส่วนอีกด้านก็เอารากบัวมาล้างให้สะอาด
มองดูตุ๊กตาตัวน้อยน่ารักอาบน้ำอุ่นจากขาวจนแดงระเรื่อ เย่เฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา กตัญญูจริงๆ แค่สามขวบก็ดูกได้แล้ว ว่าเด็กคนนี้จะโตมาเป็นเช่นไร
หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรีบร้อน เย่เฟิงก็โทรศัพท์กลับมาหาเซียวเซิ่งในทันที "ประธาน เป้าหมายถึงช้อนขึ้นมาแล้ว พี่ฟ้าบอกว่าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งจับเขาโยนลงไปในสระบัว"
“บาดเจ็บไหม?”
"ไม่ครับ" ภายในใจของเย่เฟิงยังมีความหวาดผวา แต่ก็ยังมีความภูมิใจที่จะพูดออกมาอยู่บ้างว่า "เด็กคนนี้ฉลาด ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น แล้วก็ประจวบเหมาะ เมื่อตอนที่ท่านโทรศัพท์มาหาผม เขาพึ่งจะตกลงไปในน้ำ แต่ถ้าว่ายน้ำไม่ได้ ก็คงต้องสำลักน้ำตายไปแล้ว ประธาน เรื่องในนี้มีลับลมคมใน มาแก้ไขมันในคืนนี้เถอะครับ"
“อืม ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
วางโทรศัพท์แล้ว เซียวเซิ่งก็สาวเท้ากลับไปที่ห้องของตัวเอง ภายในใจของเขาปล่อยเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไปไม่ได้.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น