“ทั้งหมดหกพันสามร้อย” เจ้าหน้าที่การเงินแจ้งยอดเงินกับ อานฉุนซี จากนั้นก็รูดบัตรของเขา “กรุณาป้อนรหัสค่ะ”
“คุณช่วยผมรูดหนึ่งหมื่นแล้วกัน เงินที่เหลือสำหรับชำระครั้งต่อไป”
อานฉุนซีชำระเงินค่าผ่าตัดของหวงฟาง และก็ชำระค่ารักษาพยาบาลของเอี๋ยนจื้อโก๋วไปด้วย ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที เมื่อหันหลังกลับ ก็ไม่พบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแล้ว เขากระวนกระวายใจในทันที
โรงพยาบาลผู้คนเบียดเสียด และก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์มือถือของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ทำได้เพียงตามหาไปทั่ว อานฉุนซีดึงเนกไท เรียกชื่อของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนโดยไม่รักษาภาพพจน์ ตามหารอบหนึ่งแต่ก็ไม่พบ เขาวิ่งไปห้องประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลในทันที เตรียมจะขอให้พนักงานช่วยประกาศเรียก
ที่ข้างห้องประชาสัมพันธ์มีตู้เอทีเอ็มอยู่เครื่องหนึ่ง ตรงหน้าต่อคิวยาวเหยียด คนที่กำลังถอนเงินอยู่คือเด็กผู้หญิงร่างผอมบาง สวมหมวกแก๊ปสีขาว—เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน!
ฝีเท้าหยุดชะงักทันที อานฉุนซีโล่งอก มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า เอนตัวพิงกำแพงที่อยู่ข้างๆ อย่างหล่อเหลา แล้วจ้องมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตาไม่กะพริบ
มองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปลายจมูกโด่ง ที่เต็มไปด้วยความสดใสของหญิงวัยรุ่น
หลายปีมานี้ ทุกครั้งในตอนดึกดื่นเงียบสงัด ในหัวของเขาก็จะมีคนคนหนึ่งปรากฏขึ้น คนคนหนึ่งที่เขาอยากดูแลอย่างอ่อนโยนเป็นพิเศษ ตอนนี้เขารู้แล้ว คนคนนั้นก็คือเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
ในตอนที่คิดได้ ทุกอย่างตรงหน้าหายไปหมด ทั้งโลกเหลือเพียงเธอคนเดียว อานฉุนซีไม่คิดอะไรทั้งนั้น เขาพุ่งเข้าไปดึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้ามาในอ้อมกอด แล้วโอบกอดร่างกายอ่อนนุ่มของเธอไว้แน่น
“ว้าย...” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนึกว่าเจอโรคจิต เมื่อเห็นชัดว่าเป็น อานฉุนซี ก็โล่งอกเล็กน้อย เธออยากจะดิ้นหลุดออกมา “พี่ซี เป็นอะไรคะ?”
“เสี่ยวเนี่ยน เธอทำพี่ตกใจหมดเลย” อานฉุนซีกอดเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม “สี่ปีก่อนเธอไม่บอกกล่าวแล้วหนีไป ครั้งนี้ก็เป็นแบบนี้อีก เมื่อไหร่เธอจะเปลี่ยนแปลงสักที? คิดถึงความรู้สึกของพี่หน่อยได้ไหม? พี่เกือบจะออกประกาศแล้ว”
น้ำเสียงอ่อนโยน ตึงเครียดและโอดครวญของชายหนุ่ม ฟังแล้วทำให้คนรู้สึกเข้าใจ และรู้สึกสบายใจ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้มขึ้น
อานฉุนซีช่วยเธอจ่ายเงิน เธอซาบซึ้งมาก แต่จะใช้เงินคนอื่นไม่ได้จริงๆ ติดหนี้สวี่เจียนคนเดียวก็พอแล้ว ดังนั้นเธอจึงแอบมาถอนเงิน
“เธอยังกล้ายิ้มให้พี่อีก? เดี๋ยวตีตายเลย” อานฉุนซีก็ขัดแย้งกันมาก น้ำเสียงโหดเหี้ยมอย่างบอกไม่ถูก แต่สายตากลับรักใคร่จะเป็นจะตาย จากนั้นเขาก็จับมือของเธอไว้ “ไปกันเถอะสาวน้อย ผู้ป่วยยังรออยู่นะ”
“เดี๋ยวก่อน พี่ซี นี่คืนให้พี่ค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยัดเงินก้อนหนึ่งใส่มือของเขา
“เธอหมายความว่ายังไง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน?” อานฉุนซีจ้องมองเธอด้วยสีหน้าต่อว่า “เธอไม่ได้เห็นพี่เป็นพี่ชายของเธอ?”
“เห็นว่าเป็นพี่...” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบยิ้มขอโทษเขา “ฉันเห็นพี่เหมือนพี่ชายแท้ๆ แต่พี่น้องกันแท้ๆ ก็ต้องชำระบัญชีกันให้ชัดเจน! แต่ว่าพี่ทำแบบนี้เห็นได้ชัดว่ารังแกที่ฉันจนกว่าพี่”
“ใครรังแกเธอ?” เขาอยากจะชำระเงินให้เธอตลอดชีวิตด้วยใจจริง นี่เพียงแค่เริ่มต้น
“พี่ซี ฉันรู้ว่าพี่หวังดี แต่ว่า...”
“เสี่ยวเนี่ยน รู้ไหมตอนที่เห็นเธอใส่หมวก และผมสั้นที่อยู่ใต้หมวก พี่กลัวมากแค่ไหน?”
มือข้างหนึ่งของ อานฉุนซีวางลงบนไหล่ของเธอเบาๆ แล้วจ้องมองดวงตาของเธอ “พี่ไม่กล้าถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาล อันที่จริงไม่ใช่เพราะพี่กลัว แต่เพราะเสียใจมากๆ เกรงว่าเธอจะเป็นโรคร้ายแรงอะไร...”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกตะลึง เข้าใจความหมายของ อานฉุนซีในทันที
เธอปราฏตัวที่โรงพยาบาล แถมยังโกนผม ทำให้คิดถึงคนที่ป่วยระยะสุดท้ายได้ง่าย ในเมื่อผู้ป่วยมะเร็งมักจะต้องโกนผมเพื่อทำเคมีบำบัด...
อานฉุนซีก็คิดแบบนี้จริงๆ พวกกับที่ศาสตราจารย์เอี๋ยนเป็นกังวลว่าเสี่ยวเนี่ยนจะเป็นลม เขาจึงสงสัยมากกว่าเดิมว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นโรคร้ายแรง เขาปวดใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น