“งั้นผมไปจัดการเรื่องแครนเบอร์รี่ก่อน”เย่เฟิงลุกขึ้นมา “ท่านประธาน เรื่องที่ไห่ถังวางหนอนร้ายยังต้องขุดคุ้ยต่อไหม? ถ้าเกี่ยวกับแฟนเก่าของคุณจริงๆ ผมคิดว่าจัดการทีเดียวเลยก็ดี”
“ไม่ต้องขุดคุ้ยอะไรแล้วล่ะ”เซียวเซิ่งมองไปที่เขาอย่างสงบ พูดอย่างเย็นชา “อีกทั้งผมกับอานเสี่ยวถังก็ไม่ได้คบหากันจริงจัง ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นแฟน”
พูดถึงเรื่องนี้เย่เฟิงอยากจะขำออกมา ท่านประธานกับอานเสี่ยวถังมีวาสนาเพียงได้เจอหน้ากัน ทั้งที่แอบรักมาเป็นสิบปี ถ้าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่มา น่าจะยังคงแอบรักต่อไป?
ชอบลูกสาวของคนอื่นก็ไปขอมาแต่งงานสิ ระยะเวลาตั้งสิบปียังแอบรักอยู่แบบนี้ก็ผ่านไปแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าถูกเขาคนนี้แอบชอบ เสียเวลาจริงๆ
เป็นไปได้ว่าเบื้องบนให้ความสมบูรณ์แบบกับท่านประธานเกินไปแล้ว ชาติตระกูล หน้าตา ตำแหน่งการเงิน ความสำเร็จ......เพื่อรักษาความสมดุล จึงทำให้ความรักของเขาเป็นจุดบอดล่ะมั้ง?
หลังจากเย่เฟิงเดินออกไป ในใจของเซียวเซิ่งไม่สามารถสงบลงได้ ในสมองของเขามีภาพคืนนั้นที่เขาได้เจอกับไห่ถังปรากฏขึ้นมา เทียบกับฉากเมื่อสิบปีที่แล้ว ภายในใจก็หงุดหงิดขึ้นมาอย่างประหลาด――ถ้าพูดว่าไห่ถังกับอันเซียวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถพูดให้ตัวเองเชื่อได้
หลายปีมานี้ เขายังคงเก็บอานเสี่ยวถังเอาไว้ในใจ
เซียวเซิ่งเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้ชอบเธอขนาดนั้น แต่ก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเธอ สำหรับเธอน่าจะเป็นการคนึงหา อานเสี่ยวถังนั้นงดงามเพียบพร้อมราวกับเทพธิดา
แต่ตอนนี้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเดินเข้ามาใจในของเขา ได้เบียดอานเสี่ยวถังกระเด็นตกเวทีไปแล้ว ดังนั้นเขาไม่ควรไปขุดเรื่องไห่ถัง บางครั้งปิดหูปิดตาเสียบ้าง ก็ดีกว่ารู้ไปเสียทุกอย่าง
ลาก่อน อานเสี่ยวถัง ดูแลตัวเองดีๆ
แต่บนโลกใบนี้มีหลายอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ ในตอนที่คุณคิดถึงเธอ เธอไม่มาหาคุณ รอจนคุณอยากจะปล่อยมือ เธอก็จะปรากฏตัว อีกทั้งอยากสลัดออกก็สลัดไม่ออก......
ไห่ถังมาเยี่ยมพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่โรงพยาบาลจิตเวชแห่งที่ 3 ตอนขากลับ จึงเอาอาหารเสริมไปให้น้องสาวที่อยู่ชั้นมัธยมหกด้วยนิดหน่อย อีกประมาณสองเดือนกว่าก็จะสอบแอดมิชชั่นแล้ว หวังว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่หวังเอาไว้ได้ อย่าต้องซ้ำชั้นอีก......
กำลังคิดอะไรบางอย่าง ได้ยินเสียงของเด็กสาวที่มีน้ำเสียงเพาะตัวดังลอยมา ร่าเริงสดใส มีชีวิตชีวาอีกทั้งไม่สูญเสียความไพเราะ คือไห่รุ่ยกำลังร้องเพลง――
“เมื่อวานคุณเดินผ่านบ้านของฉัน ฉันถือถังน้ำสาดออกไป สาดโดนรองเท้าหนังของคุณ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างหัวเราะเยาะ คุณไม่ได้พูดอะไรกับฉันสักคำ คุณเพียงแค่หรี่ตามองฉัน......”
ไห่รุ่ยกำลังฮัมเพลงวิ่งมาที่หน้าป้อมยาม ใบหน้าเล็กมีเลือดฝาด มองดูแล้วกระจ่างใสเป็นอย่างมาก “พี่สาว คุณมาแล้ว”
“อืม เอาของกินมาให้คุณ เมื่อสักครู่ร้องเพลงอะไรเหรอ?”
“ร้องไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”ไห่รุ่ยรับกระเป๋าจากในมือของพี่สาวมา หยิบแอปเปิลลูกหนึ่งมากัดหนึ่งคำใหญ่ ยิ้มแย้มออกมาทันที ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไรถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้
ไห่ถังคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่าง ดึงน้องสาวเข้ามา สำรวจดูรอบๆ “ไม่ใช่ว่าคุณมีความรักแล้วนะ? ฉันจะบอกคุณนะ จะสอบแอดมิชชั่นอยู่แล้ว ขาดไปแค่สองสามคะแนนก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆไม่ได้นะ แล้วกลับมาซ้ำชั้นอีกครั้ง!อยากจะมีความรัก รอหลังสอบแอดมิชชั่นค่อยมี!”
“คุณอย่าเดาอะไรมั่วซั่ว พี่สาว!”ไห่รุ่ยบิดตัวไปมาอย่างไม่พอใจนัก สะบัดมือเธอออกไป “ผู้ชายในโรงเรียนของพวกเราเหล่านั้น ไม่ได้อยู่เข้าตาฉันสักคนเดียว ฉันเข้าไปแล้วนะ”
“ตั้งใจเรียน อย่าได้คิดเรื่องอื่น”มองดูน้องสาวเดินจากไป ไห่ถังจึงหันหลังกลับ ภายในใจยังรู้สึกว่าแปลกๆ ในสมองของเธอมีภาพของเซียวเซิ่งปรากฏขึ้นมา หรือจะเป็นไปได้ว่าไห่รุ่ยกำลังแอบรักพี่เซียว?
นั่นไม่ได้นะ เธอจะต้องนำเอาพี่เซียวถังส่งไปอยู่เคียงข้างเซียวเซิ่ง ไม่ว่าจะด้วยการทำไสยศาสตร์ หรือว่าทำให้เขาค้นพบด้วยตนเองแต่โดยดี สิ่งที่ติดค้างมันก็ต้องต้องชำระปะล่ะ?
ห้องทำงานท่านประธานเอ็นซี
ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ถังเหวยเลขานุการเคาะประตูเข้ามาจัดเก็บเอกสาร เซียวเซิ่งปิดคอมพิวเตอร์ลงลุกขึ้นมาจากที่นั่ง หยิบกุญแจรถขึ้นมาแล้วเดินออกไป
เมื่อถึงหน้าประตูเขาได้หยุดลง หันหน้าไปทางถังเหวย “แถวนี้มีร้านดอกไม้ดีๆไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น