เทพสงครามพิทักษ์โลก นิยาย บท 10

หยางเฟิงรู้เกี่ยวกับงานเลี้ยงครั้งนี้

ครั้งนี้เขาต้องการกลับมาแบบไม่เปิดเผย ดังนั้นจึงไม่คิดจะเข้าร่วม

แต่โจวห้าวพูดเช่นนี้แล้ว หากตนเองไม่ไป ครอบครัวของเย่เมิ่งเหยียน จะต้องอยู่ในตระกูลหลันด้วยฐานะที่ต่ำต้อยยิ่งขึ้นแน่นอน !

หยางเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม : “ได้สิ !”

โจวห้าวส่ายหัว ไม่คิดจะสนใจหยาเฟิงอีก

ในสายตาของเขา หยางเฟิงก็เป็นแค่คนเสียสติคนหนึ่ง

งานเลี้ยงที่อภิมหาเศรษฐีตงไห่จัดขึ้น คนที่เชิญล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นสูง คนธรรมดาไม่สามารถเข้าร่วมได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลอย่างหยางเฟิง

หลันเจิ้นถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ : “โจวห้าว หรือว่านายเองก็ได้รับบัตรเชิญด้วย ?”

ตระกูลหลันเป็นเพียงตระกูลอันดับสาม จึงไม่มีสิทธิ์ได้รับบัตรเชิญของอภิมหาเศรษฐีตงไห่

โจวห้าวพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ : “คุณปู่ครับ ที่ผมมาในวันนี้ ก็เพื่อจะนำบัตรเชิญมามอบให้โดยเฉพาะครับ”

พูดจบ โจวห้าวก็หยิบบัตรเชิญที่งดงามออกมา

หลันเจิ้นรับบัตรเชิญด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เมื่อคนอื่น ๆ ในตระกูลหลันเห็นดังนั้น ต่างก็แสดงสีหน้าอิจฉาริษยา

คนที่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่อภิมหาเศรษฐีตงไห่จัดขึ้น ถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างสูง

หลันจื่อเดินเข้ามาใกล้เย่เมิ่งเหยียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “พี่สาว เจ็ดวันหลังจากนี้ฉันกับโจวห้าวจะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน หวังว่าถึงตอนนั้นจะได้เจอกับพี่นะ ฮ่า ๆ ๆ......”

เย่เมิ่งเหยียนหน้าถอดสี เธอรู้ดีว่าหลันจื่อจงใจพูดช่นนี้

ฮึ่ม ๆ !

ตอนนี้เอง ด้านนอกคฤหาสน์ จู่ ๆ ก็มีเสียงของขบวนรถดังกระหึ่มขึ้น

รถเบนซ์กว่าสามสิบคันขับเข้ามา คันที่อยู่ด้านหน้าสุดคือรุ่นมายบัค ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันระดับโลก ซึ่งมีมูลค่ากว่าสิบล้านหยวน

ตุบ ๆ ๆ !

ประตูรถเปิดออก ชายสวมชุดสูทกว่าร้อยคนก้าวออกมา

มีชายสวมชุดสูทคนหนึ่งเปิดประตูรถมายบัค จากนั้นชายวัยกลางคนสวมแว่นตาขอบทองก็ก้าวออกมา

ชายวัยกลางคนผู้นี้ดูน่าเกรงขาม เมื่อก้าวลงจากรถ บอดี้การ์ดทุกคนต่างแสดงความเคารพ

“นี่คือเศรษฐีหม่า ?”

เมื่อเห็นชายวัยกลางคน สีหน้าของโจวห้างก็หยุดนิ่งในทันที

“อะไร ? หรือว่าเขาก็คืออภิมหาเศรษฐีตงไห่ คุณหม่า ?”

“สวรรค์ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหม่าตงจะมาที่ตระกูลหลันของเรา นี่ฉันกำลังฝันไปหรือนี่ ?”

เมื่อเห็นการมาถึงของคุณหม่าตง อภิมหาเศรษฐีตงไห่ คนของตระกูลหลันทั้งหมดต่างรู้สึกตกใจ

หม่าตงคือใคร ?

ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่เกือบจะยิ่งใหญ่ที่สุดในตงไห่ !

คนธรรมดาไม่มีโอกาสจะพบหน้าได้ คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ วันนี้จะเดินทางมาตระกูลหลัน

ทุกคนในตระกูลหลันต่างรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

โดยเฉพาะหลันเจิ้น เขาตกตะลึงจนตาค้างไปสักพักแล้ว

หลันเจิ้นรีบเดินเข้าไป พร้อมด้วยรอยยิ้มประจบประแจง แล้วพูดว่า : “คุณหม่าเดินทางมาระกูลหลันของเรา ถือเป็นเกียรติของตระกูลหลันอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าคุณหม่ามาถึงที่นี่ มีธุระอะไรหรือครับ ?”

หม่าตงไม่สนใจหลันเจิ้นแม้แต่น้อย เขาเดินตรงเข้าไปหาหยางเฟิงแล้วโค้งคำนับ

“คุณหยางเดินทางมาถึงตงไห่ กระผมไม่มีโอกาสได้ต้อนรับ ได้โปรดอภัยด้วย”

วันนี้หยางเฟิงเดินทางมาถึงตงไห่ หม่าตงก็รีบเดินทางไปต้อนรับที่สนามบินทันที แต่กลับถูกพลทหารที่อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ขวางเอาไว้ด้านนอก

หลังจากรู้ว่าหยางเฟิงเดินทางมาตระกูลหลัน หม่าตงก็รีบตามมาทันที

ตอนนี้ คนที่มีฐานะเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีตงไห่ เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฟิงยังต้องทำความเคารพ

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ? นั่นคืออภิมหาเศรษฐีตงไห่ผู้ยิ่งใหญ่เชียวนะ ทำไมถึงนอบน้อมต่อหยางเฟิงเช่นนี้ ?”

เมื่อเห็นดังนั้น พวกของหลันเจิ้งก็ตกตะลึงทันที แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง

หยางเฟิงโบกมือแล้วพูดว่า : “ช่างเถอะ นายมาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ?”

หม่าตงหยิบบัตรเชิญที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ออกมา แล้วยื่นให้ด้วยมือทั้งสองข้างอย่างนอบน้อม แล้วพูดว่า : “คุณหยาง เจ็ดวันหลังจากนี้ กระผมจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับขึ้น หวังว่าถึงตอนนั้นคุณจะยอมมาร่วมงานด้วยตนเอง”

หยางเฟิงรับบัตรเชิญมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมพูดว่า : “ได้ ฉันรู้แล้ว”

แต่สำหรับหยางเฟิงแล้ว หม่าตงก็เป็นเหมือนมดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น

หากเขาต้องการ เพียยงใช้นิ้วบี้ก็ตายแล้ว

“หยางเฟิง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ?” เย่เมิ่งเหยียนถามขึ้นด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

เย่เหมิงเหยียนในตอนนี้ก็งุนงงเช่นกัน

หยางเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม : “ไม่มีอะไรหรอก เสี่ยวหม่าก็แค่รู้ว่าผมอยู่ที่นี่ กลัวว่าผมจะไม่ยอมไปร่วมงานเลี้ยง ก็เลยมามอบบัตรเชิญด้วยตนเอง บัตรเชิญใบนี้ผมให้คุณ ถึงตอนนั้นคุณพาคุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วยกัน”

พูดจบ หยางเฟิงก็ยื่นบัตรเชิญทองคำบริสุทธิ์ให้กับเย่เมิ่งเหยียน

เย่เมิ่งเหยียนรับมาด้วยความงุนงง รู้สึกราวกับตนเองกำลังอยู่ในความฝัน

เสี่ยวหม่า ?

เดี๋ยวสิ หยางเฟิงเรียกหม่าตงว่าเสี่ยวหม่าอย่างนั้นหรือ ?

เศรษฐีอันดับหนึ่งผู้สูงส่งของตงไห่ จะมีสักกี่คนที่กล้าเรียกหม่าตงว่าเสี่ยวหม่า ?

อีกทั้งอายุของหม่าตงก็มากกว่าหยางเฟิงอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ......

หากหม่าตงรู้ว่าหยางเฟิงเรียกตนเองว่าเสี่ยวหม่า เกรงว่าจะดีใจจนนอนไม่หลับไปสามคืนสามวันแน่นอน

“เมิ่งเหยียน รีบส่งบัตรเชิญมาให้แม่ดูซิ !”

หลันซินพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

เย่เมิ่งเหยียนยื่นบัตรเชิญให้กับหลันซิน

หลันซินรีบพิจารณาอย่างละเอียดทันที

“โอ้โห นี่คือบัตรเชิญที่เศรษฐีหม่านำมามอบให้จริงหรือนี่ ? ฉันได้ยินมาว่า นี่คือบัตรเชิญทองคำบริสุทธิ์ ที่มีเกียรติมากที่สุดเลยนะ !”

ขณะที่พูด หลันซินก็หันมองโจวห้าว และจงใจถามขึ้นว่า : “โจวห้าว ไม่รู้ว่านายได้รับบัตรเชิญระดับไหนหรือ ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น โจวห้าวก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวทันที

เมื่ออยู่ต่อหน้าบัตรเชิญทองคำบริสุทธิ์ระดับหนึ่ง บัตรเชิญของเขาก็เป็นเพียงแค่ขยะเท่านั้น

เมื่อเห็นโจวห้ามนิ่งเงียบไป หลันซินก็ยิ่งภูมิใจมากขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก