เทพสงครามพิทักษ์โลก นิยาย บท 11

“นี่ ๆ ! ดูสิ ๆ ! ลูกเขยของฉันต่างหากที่มีหน้ามีตา แม้แต่เศรษฐีหม่าก็ต้องนำบัตรเชิญมาให้ด้วยตนเอง”

“ไม่เหมือนคนบางคน ถือบัตรเชิญธรรมดาเหมือนถือสมบัติล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้น !”

เมื่อมีโอกาสที่จะได้คุยโวโอ้อวด หลันซินก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป

ทันใดนั้น ทุกคนในตระกูลหลันต่างก้มหน้าก้มตา ใบหน้าถอดสี ไม่กล้าพูดอะไรอีก !

“หึ !”

ตอนนี้เอง หลันจื่อไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป จึงลุกยืนขึ้น

“คุณป้าคะ อย่าเพิ่งดีใจไป หนูว่าบัตรเชิญทองคำใบนี้คงไม่ได้ส่งให้หยางเฟิงแน่นอน”

หลันซินขมวดคิ้ว แล้วถามด้วยความไม่พอใจ : “หลันจื่อ เธอพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ? ทุกคนก็เห็นแล้วว่า เศรษฐีหม่าส่งบัตรเชิญให้ลูกเขยของฉัน หยางเฟิง ด้วยตนเอง หรือว่าเธอตาบอดไปแล้ว ?”

หลันจื่อพูดด้วยสีหน้าดูถูก : “คุณป้าคะ อย่าหาว่าหนูดับฝันคุณป้าเลยนะคะ แต่หยางเฟิงลูกเขยของคุณป้า เป็นเพียงแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่เท่านั้น”

“อีกทั้งหนูได้ยินมาว่า ก่อนที่จะเป็นเขยแต่งเข้าตระกูล หยางเฟิงก็เคยเป็นคนจรจัดมาก่อน แล้วคุณป้าคิดว่าเศรษฐีหม่าจะนำบัตรเชิญมามอบให้เขาด้วยตนเองหรือคะ ?”

“หนูว่าเศรษฐีหม่าคงจำคนผิดมากกว่า บัตรเชิญใบนี้ต้องไม่ได้มอบให้หยางเฟิงแน่ !”

“นี่มัน......”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลันจื่อ หลันซินก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้เช่นไรดี

เมื่อเห็นหลันซินเงียบไป หลินจื่อก็หัวเราะออกมาอย่างภูมิใจ : “ฮ่า ๆ คุณป้าไม่พูดแล้วหรือคะ ดูเหมือนว่าจะยอมรับสิ่งที่หนูพูดแล้วสินะ หรือรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว”

“เป็นแบบนี้นี่เอง เศรษฐีหม่าต้องจำคนผิดแน่นอน”

“ตกใจหมดเลย ฉันเองก็คิดไว้แล้วว่า อภิมหาเศรษฐีตงไห่ผู้สูงส่ง จะส่งบัตรเชิญให้กับลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลคนหนึ่งได้อย่างไร !”

“ทุกคนว่า หากหยางเฟิงถือบัตรเชิญใบนี้ไปร่วมงานเลี้ยง จะถูกเศรษฐีหม่าไล่ออกมาหรือไม่ ?”

“แน่นอน ! เมื่อเศรษฐีหม่าเห็น คงคิดว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ต้องขอโทษด้วยที่เมื่อคืนส่งบัตรเชิญผิดคนแล้ว”

“ฮ่า ๆ ๆ......”

ทุกคนในตระกูลหลัน กลับมาถือไพ่เหนือกว่าอีกครั้ง

“ทุกคนพูดจาไร้สาระอะไรกัน เศรษฐีหม่าไม่มีทางจำคนผิดแน่นอน !”

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของคนในตระกูลหลัน เย่เมิ่งเหยียนก็ตะโกนออกมาเสียงดังอย่างอดไม่ได้

ถึงแม้หยางเฟิงยังไม่ได้เล่าอะไรให้เธอฟังโดยละเอียด แต่เธอก็เชื่อว่าสามีของตนเอง จะต้องเป็นคนมีความสามารถแน่นอน

นี่คือความเชื่อมั่นทางจิตวิญญาณ !

ตอนนี้เอง หลันจื่อเดินเข้าไปหาแล้วยิ้มเยาะ : “เย่เมิ่งเหยียน เธอยอมรับความจริงเสียเถอะ ! สามีของเธอก็คงเป็นไอ้สวะตลอดไป ไม่มีทางเทียบกับโจวห้าวของฉันได้หรอก”

“อีกทั้งเธอเองก็เป็นแค่ลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่มีทางจะบินขึ้นไปบนยอดไม้เหมือนหงส์ได้หรอก”

“เธอ......”

เย่เมิ่งเหยียนหันมองหลันจื่อด้วยความรู้สึกโมโหจนพูดไม่ออก

“เย่เมิ่งเหยียน ไม่เชื่อหรือ ? เช่นนั้นฉันจะทำให้เธอรู้เองว่า ความสิ้นหวังนั้นเป็นอย่างไร ?”

หลันจื่อหัวเราะเยาะ แล้วดินเข้ามาหาหยางเฟิง พร้อมทำเสียงฟึดฟัดแล้วพูดว่า : “หยางเฟิง นายคิดว่าบัตรเชิญใบนี้ส่งให้นายจริง ๆ หรือ ?”

หยางเฟิงพูดเบา ๆ : “แน่นอน !”

“ฮ่า ๆ ๆ !”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฟิง หลันจื่อก็หัวเราะร่าออกมาทันที

“หยางเฟิง นายช่างไร้ยางอายจริง ๆ เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเท่านั้น นายคิดว่าเศรษฐีหม่าจะนำบัตรเชิญมาให้นายด้วยตนเองอย่างนั้นหรือ ?”

หยางเฟิงหรี่ตาลงแล้วถามว่า : “หากไม่ได้ส่งให้ผม หรือว่าจะส่งให้คุณกันล่ะ ?”

“ใช่แล้ว บัตรเชิญใบนี้เศรษฐีหม่าส่งให้กับโจวห้าวของฉัน !” หลันจื่อพูดเสียงดัง

อะไรนะ ?

ส่งให้โจวห้าว ?

“ยินดีด้วย ๆ โจวห้าว นายยอดเยี่ยมจริง ๆ”

“ตระกูลโจวกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง ต่อไปตระกูลหลันของพวกเราก็คงได้พึ่งใบบุญแล้ว”

“ไม่เหมือนบางคน ที่ทำให้ตระกูลหลันของเราต้องอับอายขายหน้า”

คนของตระกูลหลันหันมองครอบครัวหลันซินด้วยท่าทีดูถูก และวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่

หลังเจิ้งพูดด้วยความยินดี : “ดี ๆ ๆ โจวห้าว ต่อไปตระกูลหลันของเราต้องพึ่งนายแล้ว”

หลันเฟิงพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม : “คุณพ่อครับ ช่างไม่ดูเอาเสียเลยว่าลูกเขยใคร ? ไม่เหมือนคนบางคน ไม่มีความสามารถอะไรสักนิด ทำได้เพียงคุยโวโอ้อวดเท่านั้น”

ขณะที่พูด หลันเฟิงก็หันมองครอบครัวหลันซินอย่างดูถูก

เมื่อพวกหลันซินเห็นดังนั้น หน้าก็ถอดสีทันที

หลันจื่อหัวเราะ อล้วหันไปพูดกับเย่เมิ่งเหยียนว่า : “ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะ โจวห้าวของฉันยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้แต่อภิมหาเศรษฐีตงไห่อย่างคุณหม่าตงยังต้องให้เกียรติ”

“ต่อไปหากพวกเธอต้องการความช่วยเหลือก็เอ่ยปากมาได้เลย อย่างไรเสียเราก็เป็นญาติกัน ต่อให้พวกเธอจะเหมือนยาจกก็ตาม แต่อย่างไรก็จะช่วยพวกเธอแน่นอน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เมิ่งเหยียนก็โกรธจนหน้าเขียว

หลันจื่อพูดเช่นนี้ เท่ากับกำลังดูถูกตนชัด ๆ

แต่เย่เมิ่งเหยียนเองก็จนใจ ใคร ๆ ก็รู้ว่านั่นคือบัตรเชิญทองคำจากอภิมหาเศรษฐีตงไห่ !

แม้แต่ตระกูลเย่ก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้รับ

โจวห้าวยิ้มแล้วพูดอย่างถ่อมตน : “ก็แค่บัตรใบเดียวเท่านั้น ไม่เห็นต้องประหลาดใจเลย”

หลันเจิ้นหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า : “โจวห้าว ปู่ขอดื่มให้นายหนึ่งแก้ว !”

โจวห้าวดื่มเหล้าหนึ่งแก้ว ความภูมิใจที่ปรากฏบนใบหน้ายิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

จู่ ๆ หยางเฟิงก็พูดขึ้นว่า : “โจวห้าว นายหน้าใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ ? นี่คือบัตรเชิญของนายหรืออย่างไร ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก