หยางเฟิงลุกขึ้นยืนและพูดว่า "ดีมาก ถ้านายขาดเหลืออะไร นายติดต่อไปที่ไป๋หู่ได้ตลอด! ถ้านายไม่มีเงินเพียงพอต่อการดูดแลที่นี่ แค่บอกผมมาก็พอ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนั้นเอง!"
หม่าตงพยักหน้าและพูดอะไรไม่ออก
เรื่องของอู๋ซง หยางเฟิงมอบหมายให้หม่าตงและไป๋หู่รับผิดชอบ ส่วนเวลาและความสนใจทั้งหมดของหยางเฟิงนั้นอยู่ที่เย่เมิ่งหยานและเฟิงเมิ่งกรุ๊ปเพียงเท่านั้น
......
ขณะเดียวกัน ในเขตชานเมืองตงไห่ซึ่งเป็นโรงงานร้าง
"ศิษย์สำนักผู้นี้ขอคารวะท่านเจ้าสำนัก..."
ผู้คุมกฎสิบยืนอยู่ตรงหน้าปีศาจหงอ ด้วยสีหน้าสั่นสะท้าน ด้านหลังเจ้าสำนักกุ่ยเหมินมีศิษย์สำนักรวมตัวกันอยู่หลายหมื่นคน แต่ละคนล้วนสวมหน้ากากภูตผี แผ่คลื่นพลังที่น่ากลัวออกมา
ไม่มีใครคิดว่าทุกคนของสำนักกุ่นเหมินจะมาที่ตงไห่ในขณะนี้ได้โดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเลย ถึงแม้ว่าหม่าตงได้จัดตั้งทีมรักษาความปลอดภัยเพื่อจัดการดูแลความปลอดภัยของตงไห่ไว้แล้วตลอดเวลา แต่กำลังคนภายใต้หน้าที่มอบหมายด้านความปลอดภัยส่วนใหญ่ภายใต้การดูแลของเขาอยู่ในเขตเมือง ไม่ใช่เขตชานเมืองของตงไห่ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ ผู้คนเบาบาง และการป้องกันหละหลวม
หม่าตงไม่ได้ทุ่มเททรัพยากรและกำลังคนมากมายนักกับพื้นที่ส่วนนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่กุ่ยเหมินสามารถแทรกซึมเข้าไปในชานเมืองและรวมตัวกันเป็นหมื่นคนได้สําเร็จ
แต่ถึงกระนั้นปีศาจหงอ ก็ใช้ความพยายามอย่างมากในการปกปิดร่องรอยของสำนักของตนเอง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจาะเข้าไปในเขตเมืองต่อไป เนื่องจากไม่เพียงแต่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองคอยเฝ้าระวังผู้ที่แต่งตัวผิดแปลกอย่างนี้เท่านั้น ยังมีผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้มากมายคอยจับตาอยู่ด้วย รวมถึงพนักงานเกือบ 100,000 คนของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่กระจายอยู่ทั่วทั้งเขตเมืองทั้งหมดของตงไห่
ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ตามในเขตเมือง ไม่มีทางหลบซ่อนจากหูตาของหม่าตงได้แน่นอน!
เจ้าสำนักกุ่ยเหมินมองไปที่ผู้คุมกฎด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มและถามว่า "ข้าได้ยินมาว่า วันนี้ เจ้าไปที่อู๋ซง กราบคารวะหยางเฟิงเป็นอาจารย์..."
ตึง!
ผู้คุมกฎสิบไม่ได้รอให้ปีศาจหงอ พูดจนจบ เขารีบคุกเข่าลงทันที เขารู้ดีว่าถ้าไม่รีบแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ เขาต้องตายแน่นอน
เขาร้องไห้และพูดว่า "ท่านเจ้าสำนัก ขออภัยอย่างยิ่งขอรับ ผมทำอะไรไม่ได้เลยขอรับ! ถ้าหากผมไม่กราบคารวะหยางเฟิงเป็นอาจารย์ ผมก็ไม่สามารถเข้าใกล้ตัวเขาได้ ไม่สามารถแย่งชิงชิ้นส่วนแผนภาพจักรพรรดิมังกรมาได้เลย ท่านเจ้าสำนักได้โปรดเมตตาและมองเหตุการณ์ให้กระจ่างด้วยขอรับ!"
ในขณะนี้ ผู้คุมกฎสิบเกลียดหยางเฟิงจนรู้สึกอยากเข่นฆ่าหยางเฟิงให้ตายด้วยมือตนเองตอนนี้เลยขึ้นมา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหยางเฟิงทำให้เรื่องบานปลาย ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ หยางเฟิงยั่วยุ ล่อลวง และล่อหลอกเขาจนเกือบทำให้เขาต้องตายจริงๆ ขึ้นมา!
เมื่อเห็นผู้คุมกฎร้องไห้อย่างขมขื่น เจ้าสำนักกุ่ยเหมินได้แต่โบกมือและพูดว่า "ไม่เป็นไร เจ้าลุกขึ้นได้! ข้ารู้ว่านี่เป็นอุบายของหยางเฟิง มันต้องการกระตุ้นให้เกิดรอยแยกบนความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับข้า เจ้าคิดว่าข้าจะถูกหยางเฟิงหลอกได้ง่ายขนาดนั้นเลยรึ"
"ขอบคุณขอรับท่านเจ้าสำนัก!"
ได้ยินคําพูดของเจ้าสำนัก ผู้คุมกฎสิบถอนหายใจด้วยความโล่งอกและลุกขึ้นยืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...