เขากัดฟัน พร้อมพูดขึ้นว่า “จะให้พวกเราหลายตระกูลสูญเสียหายเปล่าๆไม่ได้ ไป พวกเราไปหาตระกูลจ้าว จะให้ตระกูลจ้าวอาศัยความขัดแย้งของคนอื่นเพื่อตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัวไม่ได้”
“ไป”
เพิ่งพูดเสร็จ ผู้นำตระกูลหลายตระกูลใหญ่ต่างเห็นด้วย แล้วไปตระกูลจ้าวพร้อมกัน
ทันใดนั้น ความคึกครื้นสะนั่นไปทั่วทุกทิศทาง
จินหลิง
หอคอยบุษบาฝน
มีอาคารสมัยราชวงศ์ชิงหมิงอาคารหนึ่ง
อาคารหลังนี้พื้นที่กว้างใหญ่มาก อาคารหลังใหญ่มีทางเข้าออกสี่ทาง
ที่นี่
ที่นี่คือตระกูลจ้าวหนึ่งในหกตระกูลใหญ่ของจินหลิงที่ไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจที่สุด ลึกลับที่สุด
เวลานี้
ภายในลานกว้างตระกูลจ้าว
ชายชราอายุเจ็ดสิบกว่าคนหนึ่ง สวมชุดสมัยราชวงศ์ถัง นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้จินสื่อหนาน
คนคนนี้ก็คือเจ้าบ้านจ้าว จ้าวเทียนหลง
ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านจ้าว จ้าวเทียนหลงที่ไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจอย่างที่สุด
เขาไม่ได้ออกจากตระกูลจ้าวมาหลายปีแล้ว
แต่ตอนนี้ ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความโศกเศร้า
คนที่นั่งอยู่ด้านข้าง เป็นผู้ชายอายุห้าสิบกว่า มีชื่อเรียกว่าจ้าวหาน
เขาเป็นลูกชายคนเดียวของจ้าวเทียนหลง
และเป็นผู้ดูแลตระกูลจ้าวในตอนนี้
จ้าวหานกำลังรายงานเรื่องงานประลองบู๊ ตลอดจนความเคลื่อนไหวของตระกูลใหญ่ทั้งสี่ ให้จ้าวเทียนหลงฟัง
“เฮ้อ”
จู่ๆจ้าวเทียนหลงก็ถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ตระกูลจ้าวตกอยู่ในอันตราย”
จ้าวหานถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “พ่อ ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? เฉินป้าเซียนไม่ได้เป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ไม่ใช่เรื่องดีหรือ?”
จ้าวเทียนหลงมองเมินจ้าวหาน พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเฉียนหม่านถังสนับสนุนให้หยางเฟิงเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ทำลายแผนของเฉินป้าเซียน เจ้าคิดว่าเขาจะปล่อยคนของเฉียนหม่านถังไปหรือ?”
“ตระกูลจ้าวถือเป็นหนึ่งในหกตระกูลใหญ่ เป็นพวกเดียวกัน เฉินป้าเซียนลงมือกับคนเฉียนหม่านถัง แน่นอนว่าจะต้องลงมือกับตระกูลจ้าวด้วยแน่ พวกเราตระกูลใหญ่หลายตระกูล มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่จะขาดจากกันไม่ได้”
พูดเสร็จ
จ้าวเทียนหลงแสดงสีหน้าจนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...