เย่กวงตวาดลั่น ความโกรธแค้นที่มีต่อหยางเฟิงเอ่อล้นทะลักออกมาราวน้ำที่ไหลทะลัก
หากไม่ได้เป็นเพราะหยางเฟิง ครอบครัวของเขาคงไม่ต้องตกอยู่ใต้อำนาจของเย่ลั่วแบบนี้
เพียงชั่วครู่ สายตาของทั้งสองก็มองไปที่เย่ลั่ว
เย่ชิวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่ลั่วแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน “ท่านประธานโปรดจัดการแย่งเอาสิ่งที่ควรเป็นของพวกเราตระกูลเย่กลับมาทั้งหมดด้วย!”
เย่กวงเอ่ยปากเช่นกันว่า “ใช่แล้วหลานชาย ตอนนี้หลานเป็นประธานของเย่ซื่อกรุ๊ปแล้ว หลานจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้นะ!”
เย่ลั่วเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน สายตาของเขาปรากฏความดูถูกดูแคลน ก่อนจะหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “ก็แค่ลูกเขยเกาะเมียกินไม่ใช่หรือไง ทำไมพวกคุณสองคนถึงได้โมโหมันได้มากขนาดนี้ ไปสิ ฉันจะพาพวกคุณกลับไปแย่งของที่เป็นของพวกคุณกลับคืนมาเอง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
เย่กวงกับเย่ชิวหันไปสบตากันด้วยสีหน้าสะใจ
……
“ท่านประธานครับ ในบริษัทแห่งนี้มีพนักงานทั้งหมดสามพันคน ธุรกิจหลักของพวกเราคือเครื่องสำอาง อาหารเสริมและพวกของใช้สำหรับเด็กครับ มูลค่าในตลาดของพวกเราอยู่ที่พันล้านโดยประมาณ......”
หาวเจี้ยนกำลังรายงานสถานการณ์คร่าวๆ ของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปให้เย่ไห่ฟัง
เย่ไห่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ดีมาก รบกวนผู้จัดการหาวส่งข้อมูลพวกนี้ไปที่ออฟฟิศของผมด้วย ผมอยากอ่านดูก่อนสักรอบ”
เมื่อได้กลายเป็นประธานของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปแล้ว เย่ไห่จึงต้องตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นการตอบแทน
หาวเจี้ยนกล่าวตอบอย่างนอบน้อมว่า “ได้ครับ ท่านประธาน!”
เมื่อหยางเฟิงเห็นท่าทีเช่นนี้ของเย่ไห่ก็ยิ้มแล้วกล่าวกับเย่เมิ่งเหยียนว่า “ที่รัก ดูท่าทางพ่อของคุณสิ สมกับเป็นประธานบริษัทมากเลย”
เย่เมิ่งเหยียนกล่าวอย่างตื้นตันว่า “หยางเฟิง ทั้งหมดเป็นเพราะการช่วยเหลือของคุณนะ”
หยางเฟิงกอดเย่เมิ่งเหยียนเอาไว้ในอ้อมอกแล้วกล่าวว่า “อย่าพูดอย่างนี้สิ เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ”
“ไปลากตัวไอ้เย่ไห่กับหยางเฟิงออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ในช่วงเวลานั้นเอง
ก็มีเสียงตวาดลั่นดังขึ้นมา
หยางเฟิงขมวดคิ้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...