เขาลืมตาขึ้นช้าๆ
กวาดสายตามองทุกคน
เย่หลงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “เถียงกันเสร็จรึยัง?”
ทันใดนั้น
คนหมู่บ้านตระกูลเย่ต่างก็ก้มหน้าลง ไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไร
เย่หลงมีอำนาจสูงสุดในหมู่บ้านตระกูลเย่
แค่เขาเอ่ยปาก
ก็ไม่มีใครกล้าแทรกคำพูดของเขา!
เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบล้ว
เย่หลงจึงทำเสียงฟึดฟัดเล็กน้อยพลางพูดว่า “ดูพวกแกสิ ที่นี่คือหอบรรพบุรุษ ไม่ใช่ตลาดผัก จะให้ส่งเสียงเอะอะโวยวายกันทำไม!”
“ผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ว่าเราอยากเถียงกัน แต่พวกเราอยู่ไม่ได้จริงๆ!”
“ใช่แล้ว!ตั้งแต่ที่นักบู๊พวกนั้นมา ทุกที่ในหมู่บ้านก็มีแต่การทะเลาะวิวาท”
“ใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะ เมื่อคืนฉันก็นอนไม่ได้เหมือนกัน……”
ผู้สูงอายุไม่กี่คนในหมู่บ้านพูดอย่างกล้าหาญ
ทุกคนล้วนมีทุกข์
สีหน้าซีดเผือก!
นักบู๊พวกนี้ไม่ใช่คนดีอะไร
ผู้คนนับพันรวมตัวกัน
ต่างก็ไม่ชอบขี้หน้ากันเอง
บางครั้งก็เป็นแค่ประโยค
มึงมองอะไร?
มองหน้าหามารดามึงรึ?
หลังจากนั้น
ทั้งสองฝ่ายก็ตีกัน!
ชาวบ้านของหมู่บ้านตระกูลเย่ล้วนเป็นคนซื่อตรงต่อหน้าที่ของตน จะเคยเห็นท่าทางที่หาเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?
ในช่วงเวลานี้ พวกเขาช่างน่าเวทนา!
ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป
พวกเขาคงต้องย้ายบ้านออกจากหมู่บ้านตระกูลเย่แล้ว!
เมื่อมองไปหาใบหน้าที่ขมวดคิ้วของประชาชน
เย่หลงพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขารู้ว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนในช่วงเวลานี้
เป็นผู้ใหญ่บ้านควรแก้ปัญหาให้ชาวบ้านเหล่านี้
แต่ในใจของเย่หลงก็เต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับสูงและอายุมาก แต่เขายังคงเป็นแค่ผู้ใหญ่บ้าน
แต่นักบู๊พวกนั้น กลับไม่เห็นหัวเขาเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...