ส่วนหยางเฟิงกลับมีสีหน้าเฉยเมย สายตานิ่งไม่สั่นคลอน
เหลิงฉานและคนอื่นๆ ก็เป็นเพียงฝูงมดเท่านั้น
ก็เหมือนกับแมวจับหนู เล่นให้พอก่อนแล้วค่อยจับกินทีหลัง
จะฆ่าช้าหรือฆ่าเร็ว เป็นเพียงเรื่องของเวลา ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความประสงค์ของหยางเฟิง
จุดประสงค์หลักของเขา
คือเพื่อขู่ให้นักบู๊นับหมื่นที่อยู่นี่ตกใจกลัว!
แล้วก็จริงๆ
ณ ตอนนี้ สายตาของนักบู๊นับหมื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ มองหยางเฟิงเปลี่ยนไปแล้ว
สายตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกังวล
ยิ่งไปกว่านั้น
มีนักบู๊ไม่น้อยถึงขั้นรู้สึกสิ้นหวังในใจ!
หยางเฟิงแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วพวกเข้าจะแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรได้อย่างไร?
"ฮิฮิ!"
ในเวลานี้
จู่ๆ ผู้คุมกฎสิบก็หัวเราะด้วยเสียงประหลาด
เขาหรี่ตาลง มองไปที่หยางเฟิงและกล่าวว่า "เก่งกาจมาก! เก่งกาจจริงๆ! สมกับที่เป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ แม้แต่เหลิงฉานก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า ดูเหมือนว่าคราวนี้ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรต้องเป็นของเจ้าแน่!”
"ฮึ!"
หยางเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา
ไอ้ผู้คุมกฎสิบนี่แค่อ้าปาก ก็รู้เลยว่ามีเจตนาชั่วร้ายซ่อนอยู่
นักบู๊นับหมื่นที่อยู่ที่นี่ ล้วนมุ่งมั่นที่จะชิงเอาชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรมาครอบครอง
ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าเทพโลกบู๊!
แล้วก็จริงๆ
พอได้คำพูดของผู้คุมกฎสิบ
สายตาของนักบู๊ทุกคนที่มองไปยังหยางเฟิง ล้วนปรากฏความเคร่งขรึมดุดันขึ้นมา
หากสามารถทำลายหยางเฟิงได้
ความหวังที่แต่ละคนจะแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรมาได้ก็จะเพิ่มขึ้น!
ศัตรูต้องเลือกฆ่าตัวใหญ่ก่อนอยู่แล้ว!
"ฮ่าๆ!"
หยางเฟิงหัวเยาะเย้ยขึ้นทันใด และพูดอย่างเหยียดหยาม "ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เจ้า ไอ้คนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง!"
พอได้ยิน
ทุกคนต่างก็ตกใจ
แท้จริงแล้วในสายตาของทุกคน
คนของกุ่ยเหมิน เดิมทีก็ผีไม่ใช่คนไม่เชิงอยู่แล้ว!
แต่กุ่ยเหมินนั้นแข็งแกร่งทรงพลัง ลึกลับยากจะคาดเดา และยังมีสาวกนับไม่ถ้วนอีก
ยิ่งไปกว่านั้น!
คนของกุ่ยเหมิน จิตใจคับแคบ โหดร้ายไร้ความปรานี!
ใครก็ตามที่ทำให้พวกเขาขุ่นเคือง ล้วนมีจุดจบที่ไม่ดี!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...