เดิมทีพลังของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีก็แตกต่างกันไม่มาก
ตระกูลหยางถึงแม้อยู่ในสี่ตระกูลมหาเศรษฐีจัดอันดับอยู่ด้านล่าง
แต่ตระกูลหยางทำเรื่องเงียบ ๆ
หลายปีมานี้ใครก็ไม่รู้ว่าตระกูลหยางแอบสะสมพลังมากเท่าไหร่แล้ว
ถ้าหากบวกกับหยางเฟิงคนหนึ่งอีก
เกรงว่า
ตระกูลหยางจะขมขู่ตระกูลหนิง ในตำแหน่งของตระกูลเศรษฐี
ข่าวนี้จะต้องบอกผู้นำตระกูล!
ต้องให้ผู้นำตระกูลเตรียมความพร้อม ไม่ให้หยางเฟิงกลับสู่ตระกูลหยางได้อย่างเด็ดขาด!
พอคิดถึงที่นี่
สายตาที่สวีโหย่วหรงมองไปทางหยางเฟิงมีสีหน้าที่แปลกประหลาดเพิ่มมาเล็กน้อย
ถ้าให้หล่อนรู้
หยางเฟิงถูกเรียกให้มีชื่อว่าเทพสงครามต้าเซี่ย
เป็นการดำรงอยู่ที่ตระกูลเศรษฐีทุกตระกูลต่างก็ต้องให้ความเคารพและคาดหวัง
เกรงว่าก็จะทำให้ตกใจตายในตอนนั้น!
กลับกัน
สายตาที่หนิงชิงเฉิงมองไปทางหยางเฟิงเป็นสีที่คลุมเคลือ
นี่ถึงเป็นผู้ชายที่หล่อนหนิงชิงเฉิงรัก
ผู้ชายที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่เหมือนภูเขาถึงจะเป็นที่พักพึงของหล่อนทั้งชีวิต
กระทั่งผู้ชายคนอื่น ๆ
อยู่ต่อหน้าหยางเฟิง
ก็เหมือนแสงเทียนกับไฟเรืองแสงอย่างนั้น ไม่มีแสงมืดสลัวอย่างสิ้นเชิง
เพียงเห็นหนิงชิงเฉิงพูดพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่แน่วแน่ว่า“เฮียหยาง ไม่ว่าคุณจะหลบหลีกฉันยังไง หลบฉันกระทั่งด่าฉันอย่างเหยียดหยาม ฉันต่างก็จะไม่ปล่อยคุณไป! ต้องมีสักวันหนึ่ง ฉันต้องให้คุณกลายเป็นผู้ชายของฉันหนิงชิงเฉิง!”
ทันใดนั้น
เงาร่างของหยางเฟิงในดวงตาของหนิงชิงเฉิงก็ยิ่งสูงใหญ่ขึ้น!
และเวลานี้
หยางเฟิงยืนตรงอยู่กับที่ สองมือไพล่ด้านหลัง
เสื้อผ้าบนตัวถูกลมพัดดังฟู่ฟ่า
บนหน้าไม่มีความดีใจและเสียใจ
เหมือนที่เขาคำรามถอยไปไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งสามพันคน
แต่เป็นไก่อ่อนสามพันตัว!
หยางเฟิงมองผู้คุมกฎสิบและคนอื่น ๆ อยู่ มุมปากยกขึ้น“คนของผม ไม่ใช่ที่พวกคุณอยากแตะต้องก็สามารถแตะต้องได้! ทำไม? พวกคุณยังกล้าจะต่อสู้เหรอ?”
ประโยคสุดท้าย
เงียบสงบเหมือนลม
กลับเหมือนฟ้าร้องที่ทำให้ตกใจอย่างนั้น แตกระเบิดอยู่ข้างหูของผู้คุมกฎสิบและคนอื่น ๆ
แววตาที่ผู้คุมกฎสิบมองไปทางหยางเฟิงเต็มไปด้วยความมืดมน
เวลานี้ ในที่สุดเขารู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับหยางเฟิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...