สำหรับสมุนไพรเหล่านั้นที่มีมานานหลายทศวรรษแล้ว แม้ว่าจะมีผลต่อนักบู๊อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์เท่ากับสมุนไพรที่มีอายุมากกว่าร้อยปี
หยางเฟิงไม่สนใจแม้แต่น้อย
นักบู๊ที่ตามมาทีหลังอยากจะแย่ง ก็ปล่อยให้พวกเขาไป
หยางเฟิงหันหน้าไปมองเย่หลงและพลางถามว่า "นายท่าน ท่านว่าชิ้นส่วนของภาพมกุฎมังกรอยู่ที่ใด?"
เย่หลงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าอย่าได้รีบร้อนไปนักเลย โดยธรรมชาติชิ้นส่วนของภาพมกุฎมังกรชิ้นนี้ถูกฝังไว้พร้อมกับบรรพบุรุษ แต่สุสานของบรรพบุรุษก็ยังห่างไกลออกไป ข้าคาดว่าน่าจะใช้เวลาเดิน1วัน 1 คืน จึงน่าจะถึงที่หมาย ! "
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินดังนั้น
หยางเฟิงพลันตกตะลึงไปชั่วขณะ
สุสานเย่เวิ่นนี้ยังคงอยู่ห่างไกลจากที่นี่
และยังใช้เวลาเดินตั้ง1วัน1คืน
เมื่อคิดได้ดังนี้
หยางเฟิงจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นายท่าน หุบเขานี้สรุปแล้วกว้างใหญ่มากแค่ไหนกัน?”
เย่หลงเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยความอาลัยอาวรณ์ว่า: “บอกตามตรง ตามคำอธิบายของพ่อข้า หุบเขานี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายร้อยลี้! นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าค้นพบโดยบังเอิญขณะไล่ล่าโจรสลัดแคระ”
เมื่อร้อยปีก่อนโจรสลัดแคระได้เข้ารุกรานต้าเซี่ย
นักบู๊มากมายต่างทยอยต้านการต่อสู้
ในฐานะที่เย่เวิ่นเป็นปรมาจารย์บู๊รุ่นที่1 จึงมีต้องทำหน้าที่นี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
ในการไล่ล่าหน่วยโจรสลัดแคระครั้งหนึ่ง
ได้บังเอิญหลงมาที่นี่
ในท้ายที่สุด
เย่เวิ่นประสบความสำเร็จในการฆ่ากลุ่มโจรสลัดแคระกลุ่มนี้
ยังทำให้เขาตัดสินใจว่า เขาจะสร้างสุสานของตนเองที่นี้
“อะไรนะ! รัศมีหนึ่งร้อยลี้!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
หยางเฟิงถึงกับตะลึงงัน
เดิมทีเขาคิดว่าหุบเขาเล็กๆ แห่งนี้อาจยาวเพียงไม่กี่ลี้ แต่เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางร้อยลี้!
เมื่อเห็นท่าทีที่ตกใจของหยางเฟิง
เย่หลงจึงกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า: “เจ้าหนุ่ม ทึ่งเลยละสิ! ข้าบอกเจ้าแล้ว หากไม่ใช่เพราะข้าเป็นผู้นำทางเจ้า เจ้าก็ไม่มีทางที่จะหาสุสานของบรรพบุรุษเจอหรอก”
เมื่อได้ยินดังนั้น
หยางเฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น
เป็นการยากที่จะหาสุสานเย่เวิ่นในรัศมีหลายร้อยลี้
ดูเหมือนการพาเย่หลงมาด้วยจะเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...