ปั้ง!
ปั้ง!
ปั้ง!
เวลาไม่ถึงสามนาที บอดี้การ์ดสิบกว่าคนก็ล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
“แกเป็นปรมาจารย์ไว่จิ้งเหรอ”
หม่าตงจ้องไปที่ชายหน้าบากเขม็ง เขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ
บนยุทธภพแห่งนี้ สามารถแบ่งยอดฝีมือออกได้เป็นสามระดับคือ ไว่จิ้ง เน่ยจิ้งและฮั่วจิ้ง
สิ่งที่ปรมาจารย์ไว่จิ้งฝึกฝนคือกังฟูเหิงเลี่ยน
หนังเหนียวราวเหล็กกล้า ยากที่จะทำลาย
ส่วนบอดี้การ์ดของหม่าตง แม้ว่าจะเป็นทหารที่ปลดประจำการออกมา
แต่เมื่อเทียบกับปรมาจารย์ไว่จิ้งแล้ว ยังถือว่าห่างชั้นกันอยู่ไม่น้อย
เย่หมิงหัวเราะเบาๆ “หม่าตง นับว่าแกยังมีสายตาเฉียบคมอยู่บ้างนะ ใช่แล้ว นี่เป็นปรมาจารย์ไว่จิ้งของตระกูลเย่ ฉันขอแนะนำอะไรให้อย่างหนึ่งนะ พรุ่งนี้แกยกโครงการเขตอุตสาหกรรมให้ฉันซะดีๆ ไม่อย่างนั้นแล้วตระกูลหม่าของแกจะกลายเป็นสุนัขจรจัดไปกันทั้งหมด!”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็พาพวกเดินออกไปด้วยท่าทางโอหัง
เมื่อเห็นว่าเย่หมิงกลับไปแล้ว หม่าตงจึงกำหมัดแน่นด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ
หม่าตงรู้ดีว่า ลำพังเพียงพละกำลังของตนเองไม่มีทางรับมือกับเย่หมิงได้แน่
เขาหยิบมือถือออกมาเพื่อโทรหาหยางเฟิง
“คุณหยางครับ ตระกูลเย่แห่งเมืองเอกพาคนมาพบผม......”
“ตระกูลเย่แห่งเมืองเอกงั้นหรือ พวกเขาอยากหาที่ตายหรือยังไง”
พอได้ยินหยางเฟิงก็พ่นลมหายใจออกมา
“คุณหยางครับ พวกมันพาปรมาจารย์ไว่จิ้งมาด้วย และจัดการบอดี้การ์ดของผมหงายหลังไปเป็นสิบๆ คน ดูท่าแล้วพวกเขามีเจตนาไม่ดีสักเท่าไหร่”
“เหอะๆ ก็แค่ปรมาจารย์ไว่จิ้งเอง พรุ่งนี้นายก็แค่ยกโครงการเขตอุตสาหกรรมให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเหมือนเดิม ส่วนตระกูลเย่แห่งเมืองเอก ฉันจะช่วยนายจัดการเอง”
“ขอบคุณมากครับ คุณหยาง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...