เขารู้ดีว่าชีวิตนี้ไม่ใช่ของตนเองอีกต่อไปแล้ว
ผู้คุมกฎสิบสั่งให้ทำอะไร เขาก็ต้องทำตาม
ไม่เช่นนั้น
เขาจะเหมือนกับตายทั้งเป็น
ฉับ!
ฉับ!
ฉับ!
……
เย่ชิวกับสาวกหนึ่งร้อยคน มาที่ด้านหน้าโลงศพหิน
เห็นแค่เพียงซากศพที่กองอยู่เต็มพื้น
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
กลิ่นคาวเลือดตลบอบอวลไปทุกทิศทาง
แม้ว่าทุกคนของกุ่ยเหมินจะเคยชินกับชีวิตและความตาย
แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าสลดใจเช่นนี้ ก็อดที่จะขนหัวลุกไม่ได้
เย่ชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ
ระมัดระวังในการพาคนเดินไปด้านหน้า
ก้าวที่หนึ่ง!
ก้าวที่สอง!
ก้าวที่สาม!
……
เย่ชิวและคนอื่นค่อยๆเข้าใกล้โลงศพหิน
ในโลงศพเย่เวิ่น เงียบสงบ
ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่มีอะไรผิดปกติ
ในขณะเดียวกัน
สีหน้าของผู้คุมกฎสิบก็เต็มไปด้วยความกังวล
หากยังมีกลไก
หากเย่ชิวและลูกสมุนตาย
ถ้าเป็นเช่นนั้น การเปิดโลงศพหิน
จะต้องจ่ายด้วยราคาแพงเพียงใด
ดีที่
ทุกอย่างราบรื่น
เย่ชิวและคนอื่นๆก็สามารถมาถึงโลงศพหินได้สำเร็จ
เขาส่งสัญญาณมือให้กับผู้คุมกฎสิบ เพื่อเป็นการบอกว่าทุกคนปลอดภัยดี
เมื่อเห็นดังนั้น ผู้คุมกฎสิบก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ดูเหมือนว่าปืนใหญ่เหล่านั้นยังมีประโยชน์อยู่
เมื่อคิดได้ดังนั้น
ผู้คุมกฎสิบก็พยักหัวให้เย่ชิว
เย่ชิวกัดฟันพลางพูดว่า “เปิดโลงศพหิน!”
เมื่อสิ้นสุดเสียงคำสั่ง
ลูกสมุนนับร้อย เริ่มเปิดฝาโลงศพหิน
เย่ชิวค่อยๆถอยห่างไปทีละก้าว
ถึงแม้เขาจะเข้าร่วมกุ่ยเหมินแล้ว
แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาไม่กลัวตาย
ด้วยความพยายามร่วมกันของลูกสมุนกุ่ยเหมินนับร้อย
เห็นแค่เพียงโลงศพหินขยับเล็กน้อย
ย้าก!
ย้าก!
ย้าก!
สายตาของทุกคน
จับจ้องไปที่โลงศพหิน
“นายท่าน”
หยางเฟิงดึงชายเสื้อของเย่หลง
เย่หลงรู้ดีถึงสิ่งที่หยางเฟิงกังวล เขาหัวเราะเบาๆพลางพูดว่า “ไว้ใจเถอะ ที่นี้เป็นที่พำนักของบรรพบุรุษ หากมันเปิดง่ายดายเช่นนั้น ก็เหมือนเป็นการดูถูกบรรพบุรุษมากเกินไป!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...