เหลิงฉานกับผู้คุมกฎสิบ ตกตะลึง ก้าวเท้าถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้น
ทั้งสองก็มองตากัน
“ฆ่ามัน!”
ภาพมกุฎมังกรได้ปรากฏขึ้นแล้ว
ไม่ต้องจำเป็นต้องพูดเรื่องไร้สาระ
ทันใดนั้น
ทั้งสองคนรวบรวมพลังขั้นสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน
ไม่มีการยั้งมือแม้แต่น้อย
รัศมีอันน่าสะพรึงกลัว 2 ดวงเล็ดลอดออกมาจากผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉาน
โดยเฉพาะผู้คุมกฎสิบ
ในเวลานี้พลังลมปราณของร่างกายเขาแข็งแกร่ง ราวกับหมอกควันแห่งหมาป่าที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
เห็นได้ชัดว่า
ความแข็งแกร่งของผู้คุมกฎสิบนั้นแข็งแกร่งกว่าเหลิงฉานหลายเท่า
“ไอพวกขยะ!”
หยางเฟิงยิ้มเยาะ
ต่อให้เข้ามาอีกก้าว
พลังลมปราณดุจสีรุ้ง
เมื่อพูดจบแล้ว
หมัดเหล็กคู่หนึ่งของเขา หมัดข้างหนึ่งไปทางซ้าย หมัดอีกข้างไปทางขวา กระแทกเข้าหาทั้งสองคนจนกระเด็นไปไกล
หนึ่งหมัดของหยางเฟิง เรียกได้ว่าสั่นสะท้านทั้งโลกา
เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราวกับว่าเป็นระเบิดที่จะทำลายทุกสิ่งในโลก เพื่อที่จะหล่อหลอมจักรวาลขึ้นมาใหม่!
ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉาน สีหน้าเปลี่ยนไป
แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
ทักษะหมัดมวยของหยางเฟิง ได้มาจากการสู้รบนับพันครั้งในกองทัพ วิกฤตชีวิตและความตายนับไม่ถ้วน
หมัดของเขา
มีไว้ฆ่าคนเท่านั้น!
ไม่ได้มีไว้พูดจาภาษาดอกไม้!
กำหมัดยิ่งใกล้เข้ามามากเท่าไหร่
อาการบาดเจ็บของผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉานยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
10ลี้!
5ลี้!
3ลี้!
1ลี้……
ท้ายที่สุด
หมัดก็กระแทกที่เรือนร่างของทั้งสอง
พลั่ก!
พลั่ก!
เสียงดังกึกก้อง
ผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉาน กระเด็นออกไปเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่สองลูก
แต่หยางเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งการขยับเขยื้อน
เปรียบเสมือนเทพเจ้าผู้สำรวจโลกอยู่เบื้องบน!
แม้ว่าผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉาน จะมีพลังแข็งแกร่งแห่งแดนปรมาจารย์ใหญ่ แต่ก็ยากที่จะต่อกรกับหยางเฟิง!
“เจ้า……”
ผู้คุมกฎสิบมีสีหน้าตื่นตกใจ
เขาถูกต่อยโดยหยางเฟิง เขากระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร
ในที่สุดถึงสามารถทรงตัวได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...