เย่ชิวพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรนี้เป็นของข้า ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามมาแย่ง!”
หากมีชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรนี้
เขาก็สามารถเป็นปรมาจารย์โลกบู๊ได้
ถึงตอนนี้แล้ว เขายังต้องไว้หน้าผู้คุมกฎสิบอีกรึ?
การนำชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรออกมาได้
เขาคงจะเป็นบ้าเป็นแน่
เมื่อเห็นว่าเย่ชิวไม่ยอมให้ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร
ใบหน้าของผู้คุมกฎสิบดูมืดมน
“เย่ชิว เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
ผู้คุมกฎสิบพูดด้วยแววตาอาฆาตว่า “มึงอย่าลืมว่า ครั้งที่มึงถูกหยางเฟิงตัดแขนและขาทั้งสองข้างโยนขึ้นไปบนสะพานลอยเห่งยาจก กูสงสารเลยช่วยมึงไว้!”
“กูเองที่รักษามึง และสอนให้มึงฝึกศิลปะการต่อสู้ เพื่อให้ความแข็งแกร่งของมึงจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้น! มึงกล้าดีอย่างไรที่หักหลังกู?”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำตำหนิของผู้คุมกฎสิบ
เย่ชิวจึงพูดอย่างดูถูกว่า “เจ้าอย่าทำมาเป็นพูดดีหน่อยเลย เจ้าช่วยข้าในตอนนั้นเพียงเพราะอยากให้ข้าทำงานให้เจ้า! ข้าทนเป็นวัวเป็นควายเพื่อเจ้ามานานมากแล้ว จัดการเรื่องต่างๆแทนเจ้าตั้งหลายเรื่อง เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจนี่?”
“ตอนนี้จะให้ข้ามอบชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรให้ ฝันไปเถอะ!”
ต่อหน้าผลประโยชน์มหาศาล เย่ชิวได้เปิดเผยความโลภของมนุษย์อย่างเต็มที่!
หากมีชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรนี้
เขาก็สามารถเป็นหนึ่งในจำนวนคนมากมาย ที่เปลี่ยนเป็นปรมาจารย์โลกบู๊ได้
ผลประโยชน์เช่นนี้
มีหรือที่เขาจะปล่อยไปง่ายๆ
“มึง……”
ผู้คุมกฎสิบกัดฟันด้วยความโกรธแค้น
เขาเกลียดตัวเองที่มองเย่ชิวผิดไป
“เหอะเหอะ วิเศษมาก ช่างน่าวิเศษจริงๆ!”
เมื่อเห็นผู้คุมกฎสิบกับเย่ชิวกัดกันราวกับสุนัข
หยางเฟิงพลันปรบมือแล้วพูดพลางหัวเราะว่า “ผู้คนในกุ่ยเหมินมีความเห็นแก่ตัวกันจริงๆ เย่ชิว ผู้คุมกฎสิบ ท่านทั้งสองได้ทำการเบิกเนตรข้าจริงๆ!”
“เหอะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
เย่ชิวถอดหายอย่างเย็นชาพลางพูดว่า " หยางเฟิงเอ๋ยหยางเฟิง !ไม่ว่าเจ้าจะมีไหวพริบเช่นสุนัขจิ้งจอก ในท้ายที่สุดชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรก็ยังตกอยู่ในกำมือของข้า!"
เย่ชิวพูดไปด้วย
พลางมองพื้นที่รอบๆไปด้วย
เขาเจอหนทางหนีรอดพอดี
ต่อให้หยางเฟิงลงมือจริงๆ
ก็ไม่มีทางฆ่าตนเองได้
และเขา
ตราบใดที่เขาเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร
คนที่เขาจะฆ่าคนแรกก็คือหยางเฟิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...