หยางเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “เจ้าเปิดดูก็รู้แล้วนี่!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
ผู้คุมกฎสิบเปิดดูม้วนกระดาษหนังแกะอย่างไม่รู้ตัว
นี่มันชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรอะไรกัน?
เห็นเพียงตัวอักษรสองตัวใหญ่ๆที่สลักอยู่บนแผ่น ——เศษฟืน
ชิ!
เมื่อเห็นดังนั้น
ผู้คุมกฎสิบโกรธดั่งไฟสุมอก อาเจียนออกมาเป็นเลือด
เขาชี้นิ้วไปทางหยางเฟิง พลางกัดพูดว่า “หยางเฟิง เจ้าคนหน้าไม่อาย!”
หยางเฟิงไม่ได้พูดอะไร
แต่สายตาของหยางเฟิงที่มองผู้คุมกฎสิบเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
บุคคลที่ไร้ความสามารถเฉกเช่นเย่ชิว จะสามารถแย่งภาพชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรจากเขาได้เยี่ยงไร?
ต่อให้เป็นเย่ชิวก็ทำไม่ได้
ในเวลาที่เย่ชิวจะลงมือนั้น
คือเวลาที่หยางเฟิงดูเหมือนจะใจลอย โดยอาศัยช่วงเวลาอันแสนสั้นนั้น เป็นกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล
คิก คิก!
เมื่อเห็นดังนั้น
หนิงชิงเฉิงถึงกับกลั้นขำไว้ไม่อยู่
“เฮียหยาง ท่านนี้ยังเจ้าเลห์เหมือนตอนเด็กๆ เลยนะ !”
หนิงชิงเฉิงยังคงจำได้
ช่วงวัยเยาว์ของหยางเฟิงก็เป็นเช่นนี้ แกล้งนายน้อยประจำตระกูลแห่งจงโจวต่างๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเฟิงเหงื่อไหลไม่หยุด
ช่วงวัยเยาว์ตนเองก็เป็นเช่นนี้แล้วรึ?
ทำไมเขาจำไม่ได้!
“อ้าก!”
“หยางเฟิง ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ทันใดนั้น
ผู้คุมกฎสิบร้องโหยหวนดั่งสัตว์ร้าย
หยางเฟิงเหยียบย่ำความเป็นมนุษย์ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำให้ความอัปยศอดสูของเขากลายเป็นความเกลียดชัง
โกรธดั่งไฟสุมอก!
ความโกรธนี้ไม่ใช่เพราะรู้สึกอับอาย แต่เป็นเพราะความเกลียดชัง! เกลียดตัวเอง ทำไมถึงไร้ความสามารถเช่นนี้ หลายครั้งที่คุณต้องถูกหยางเฟิงหยามหน้า!
แต่ทว่า
หยางเฟิงยืนอยู่ตรงนั้น ยืนอยู่ในสุสานที่ไม่มีแสงแดด มองดูเขาอย่างเย็นชา
ผู้พิทักษ์ทั้งสิบคนไม่กล้าเคลื่อนไหว
ดวงตาของหยางเฟิงทำให้หัวใจของเขาสั่นและทำให้เขารู้สึกเย็นชา!
เวลานั้นเอง
บรรยากาศก็จะเยือกยะเยือก!
สิบผู้คุ้มกันไม่เคลื่อนไหวหรือไม่เคลื่อนไหว
คอของเขาแห้งและเขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่สามารถเปิดมันได้!
ความรู้สึกนี้.
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...