สวีโหย่วหรงก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาแล้วทันที
“นายอย่าพูดจามั่วสั่ว!”
“ฉันให้นายไปทำให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปแปดเปื้อนเมื่อไหร่แล้ว?”
“ฉันจะบอกนายให้ ถ้าหากนายกล้าพูดจามั่วสั่ว อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจกับนาย!”
พูดถึงสุดท้าย
สวีโหย่วหรงมองหวางเปียวอยู่ด้วยใบหน้าที่ข่มขู่
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนหวางเปียวจะกลัวการข่มขู่ของสวีโหย่วหรงอย่างแน่นอน
ยังไงสวีโหย่วหรงเป็นเลขาของชิงเฉิงกรุ๊ป ขยับนิ้วมือเล็กน้อยก็สามารถบีบให้ตัวเองตายได้
แต่ตอนนี้
มีหยางเฟิงอยู่ที่นี่
เขายังกลัวสวีโหย่วหรงเหรอ?
ล้อเล่นอะไร?
หวางเปียวฮึอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง“เลขาสวี คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกแล้ว คุณนี่คือต้องการที่จะหลอกใช้เสร็จแล้วก็ถีบหัวส่งเหรอ?”
“เหอะ ๆ นายมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ว่าฉันให้นายไปใส่ร้ายเฟิงเมิ่งกรุ๊ป?”
สวีโหย่วหรงมองหวางเปียวอยู่ถามด้วยใบหน้าที่ดูถูก
ก่อนหน้านานแล้วที่สวีโหย่วหรงหาหวางเปียวให้ใส่ร้ายเฟิงเมิ่งกรุ๊ป
สวีโหย่วหรงได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว
หล่อนต่างก็ควบคุมอยู่เบื้องหลังทั้งหมด
เกิดเรื่องใด ๆ ขึ้นต่างก็ไม่เกี่ยวข้องกับหล่อน
หยางเฟิงต้องการคิดบัญชี เขาก็ทำได้เพียงไปหาหวางเปียว
ไม่พูดก็ไม่ได้ว่า
แผนที่มีประโยชน์ต่อตัวเองสวีโหย่วหรงวางไว้ได้ดีมากจริง ๆ
แต่บนโลกนี้ก็ไม่ได้มีเพียงสวีโหย่วหรงที่ฉลาดคนเดียว
หวางเปียวเคยได้รับการฝึกฝนในสังคมมานานหลายปีอย่างนั้น
ประสบการณ์สังคมเล็กน้อยนี้เขายังคงมี!
หวางเปียวยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเสียงหนึ่ง“เลขาสวี ผมก็ทายได้นานแล้วคุณตายก็ไม่ยอมรับความผิด”
“ดังนั้นคบค้ากับคนที่มีเงินและอำนาจอย่างพวกคุณชนิดนี้ ผมต่างก็ทิ้งทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองตลอดเวลา”
พูดอยู่
หวางเปียวก็ควักปากกาบันทึกเสียงด้ามหนึ่งออกมาจากหน้าอก
“นี่คือปากกาบันทึกเสียง การค้าขายแลกเปลี่ยนของพวกเราครั้งที่แล้วผมต่างก็บันทึกลงมาแล้วทั้งหมด!”
ทันใดนั้นสีหน้าของสวีโหย่วหรงเปลี่ยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...