Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 344

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 344
บทที่ 344 – พระเจ้า (5)

พวกเขาได้รู้ว่าทัศนคติของพระเจ้าเปลื่ยนแปลงไปเมื่อไหร? พระเจ้าที่ควรจะเฝ้าดูแลโลกทั้งหมดได้กำลังเล็งไปที่อะไรที่เหนือยิ่งกว่านั้น เมื่อไหร่กันที่พวกเขารู้เรื่องนี้? นั่นมันกาเบรียลได้เป็นคนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้

[นี่มันไม่ได้นะ]
[นายได้เห็นอะไรอีกไหม?]

มิคาเอลไม่ได้ชอบในการพยากรณ์ของกาเบรียลเลย แต่ว่าเขาก็ยังเชื่อในพยากรณ์นี้ทำให้เขาต้องย่นคิ้วถามออก ทั้งห้าคนที่เป็ฯที่รู้จัในนามของเทวทูตที่แข็งแกร่งที่สุดได้มองไปที่กันและกัน การที่พวกเขาจะมาบังเอิญเจอกันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

แน่นอนว่ากาเบรียลน่าจะต้องเป็นคนที่รวบรวมพวกเขามาที่นี่แน่นอนเพราะแต่ล่ะคนต่างก็มีหน้าที่ต้องทำ

กาเบรียลได้มองไปที่ทุกๆคนและจ้องมองไปที่ชายคนหนึ่ง

[…ลูซิเอล]
[ฉันลูซิเอล]
[ฉันคือลูซิเฟอร์ อย่ามาพูดชื่อที่พระเจ้ามอบให้กับฉัน]
[โอเค ลูซิเฟอร์ช่วยทีนะ]
[…ฟู่ นายนี่น่ารำคาญ]

ด้วยระดับพลังของพวกเขาแล้วทำให้พวกเขาสามารถทำอะไรได้อย่างอิสระโดยไม่มีการแทรกแซงจากพระเจ้า แต่หากว่าพระเจ้าได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดและทำให้เกิดการเข้าใจผิดนั่นมันอาจจะไม่ดี ยังไงก็ตามการที่พวกเขาได้มาทำอะไรแบบนี้ที่นี่มันก็เพราะลูซิเอลหรือก็คือลูซิเฟอร์

เขาคือคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทั้งห้าคน เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในพระเจ้าน้อยที่สุดและถึงขนาดใช้พลังของตัวเองทำให้พลังของพระเจ้าบิดเบี้ยวไป เพราะแบบนี้จึงเป็นปกติที่เขาสามารถจะสร้างช่องว่างมิติที่อยู่นอกเหนือความรู้จากพระเจ้าได้

[ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ พูดได้ตามที่คิดเลยนะ]
[ฟู่… ฉันไม่อยากจะสงสัยพระเจ้าหรอกนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันมั่นใจแล้ว ฉันเห็นมันอย่างชัดเจน]
[คุณหมอดูช่วยพูดให้เราเข้าใจทีสิ]

ยูเรียลที่ไม่ได้ซ่อนความชอบต่อกาเบรียลได้จิ้มแก้มเขาเล่นและเร่งเขาขึ้นมา มิคาเอลกับราฟาเอลที่เห็นแบบนี้ต่างก็รู้สึกอึดอัดใจ กาเบรียลคือคนที่มีพลังในการล่วงรู้อนาคต แต่ในด้านความละเอียดอ่อนแบบนี้เขามีคะแนนเป็นศูนย์ เขาได้พูดต่อไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง

[พระเจ้ากำลังมองหาสิ่งอื่นอยู่]
[ตอนนี้ฉันกำลังจ้องแก้มนายอยู่ แก้มนี่กำลังเหมาะมือเลย]
[เขากำลังมองหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ เขาอยากที่จะกลายเป็นผู้สร้าง]

มิคาเอลได้เบิกตากว้างตอบกลับไป

[พระเจ้าเป็นผู้สร้างอยู่แล้วนี่]
[ไม่]
[นั่นยังไม่ใช่ผู้สร้างที่แท้จริง]

ลูซิเฟอร์กับกาเบรียลได้ปฏิเสธออกมาแทบจะพร้อมๆกัน

[สิ่งที่เขาสร้างน่ะบิดเบี้ยว มันไม่อาจจะสมบูรณ์ได้และอยู่ใกล้กับการทำนายนับตั้งแต่กำเนิดขึ้นมา]
[ทุกๆสิ่งมีจุดจบ แต่ว่าเขาได้ทำมันขึ้นมาโดยไม่มองถึงจุดจบเลยเพราะงั้นมันถึงได้บิดเบี้ยว เขาไม่อาจจะกลายเป็นผู้สร้างได้]
[นี่พวกนายกำลังปฏิเสธในพระเจ้า!]
[มันคือความจริงที่ฉันหวังที่จะทำให้ได้ ยังไงก็ตามปัญหาก็คือพระเจ้าคือตัวตนที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่]

น้ำเสียงกาเบรียลได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

[หากเป็นแบบนี้ทุกๆอย่างจะถึงจุดจบ มันอีกไม่นานแล้วและมันจะเกิดขึ้นแน่นอน ทุกๆโลกจะได้เผชิญกับจุดจบ]
[ทำไมกันล่ะ?]
[เพราะเขากำลังพยายามจะทำลายทุกชีวิตและสร้างขึ้นมาใหม่ไงล่ะ]
[…]

มิคาเอลได้เงียบลงไป เขาอยากจะปฏิเสธคำพูดกาเบรียล แต่ว่าเขาก็ไม่อาจจะทำได้เพราะว่าเขาเคยได้ยินอะไรคล้ายๆแบบนี้ในตอนที่เขาคุยกับพระเจ้าอยู่

เขาได้แต่เอามือจับหน้าผาก ตอนนี้เองกาเบรีบลได้พูดออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นถึงความลังเลของมิคาเอล

[เขาจะต้องถูกฆ่า]
[ได้ยังไงกัน เราจะไปฆ่าท่านหัวหน้าได้ยังไง? นั่นคือพ่อของพวกเรานะ!]
[ลูซิเฟอร์เราทำมันได้ใช่ไหม?]
[ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้กันไหมล่ะ]

ลูซิเฟอร์ได้ตอบกลับมาอย่างไม่ใส่ใจและกระพือปีกทั้งห้าคู่ที่อยู่บนหลัง ในระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่ ปีกของเขาก็ได้เปลื่ยนไปมาระหว่างสีขาวกับดำ เขามีศักยภาพทีหลบหนีออกไปจากอาณาเขตอิทธิพลจากพระเจ้าได้นานแล้ว

เขาได้อยู่อย่างนี้ไปโดยไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ก่อนที่จะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาที่ริมฝีปาก

[แต่นี่มันฟังดูน่าสนใจเอามากๆ มาลองดูกันเถอะ ไม่สิ ฉันจะทำมัน ต่อให้พวกนายจะไม่เห็นด้วย ฉันก็จะทำ]
[ฉันก็หวังว่ามันจะสนุกสำหรับเราเช่นกัน…]
[กาเบรียล ฉันจะช่วยนายเหมือนอย่างที่ฉันทำมาตลอด ทุกๆคนก็จะร่วมด้วยใช่ไหม?]
[มะ แม้แต่ยูเรียลก็เอาด้วย… ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้]

กาเบรียลได้ชักจูงลูซิเฟอร์กับยูเรียลที่มักจะทำตามไม่ว่ากาเบรียลจะทำอะไรมาเสมอ เขายังได้ชักจูงคนอื่นๆอย่างราฟาเอลที่มีรอยยิ้มบางๆเช่นกัน พวกเขาทุกๆคนได้มองไปที่มิคาเอล

[มิคาเอล ช่วยทีเถอะนะ หากไม่มีนายช่วยมันก็คงเป็นไปไม่ได้]
[พวกนาย… นี่พวกเราจะทำมันจริงๆ…?]
[มิคาเอล]

กาเบรียลได้มองตรงออกไปและถามออกมา สายตานี่ได้มองผ่านเข้าไปในหัวใจที่ไม่บริสุทธิ์ของมิคาเอล มิคาเอลเกลียดสายตาคู่นี้มาก

[นายยังคิดว่าเขาอยู่ในที่ที่เหมาะสมงั้นหรอ?]
[ฉัน… ไม่]

มิคาเอลได้เม้มริมฝีปากออกมา

เขาไม่คิดว่าพระเจ้าเหมาะสม จริงๆแล้วเขาคิดว่ามีเรื่องที่ผิดพลาดอยู่ตลอดเวลา ระฆังได้ปลุกสติเขาขึ้นมาแล้ว

พระเจ้าที่เขาต้องแหงนหน้ามองไม่ควรจะเป็นแบบนี้ คนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่แสดงด้านใดด้านหนึ่งออกมา

[แต่ว่า… ช่วยให้ฉันได้จับตาดูอีกซักหน่อยนะ]
[ตามใจนายเลย มันจะไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลงไปอยู่ดี ถ้างั้นตอนนี้ก็กลับกันก่อนเถอะ ฉันคิดว่าฉันจะต้องเตรียมตัวสำหรับเรื่องนั้น]
[อย่าให้เขารู้ตัวเพราะท่าทางอวดดีของนายล่ะลูซิเฟอร์]
[เมื่อเขารู้ตัว นั่นก็คือเวลาที่ฉันจะ ‘ต่อต้านสวรรค์’]

ลูซิเฟอร์ได้หัวเราะออกมาพร้อมๆกับเวทย์ของเขาที่หายไป ทูตสวรรค์ท้งสี่คนได้ถอนหายใจกลับไปยังตำแหน่งของตนเอง แต่มีเพียงมิคาเอลเท่านั้นที่ยังยืนครุ่นคิดอยู่ที่เดิม

‘…พระเจ้ามีคุณสมบัติในการเป็นผู้สร้างจริงไหมนะ?’

หลังจากนั้นมิคาเอลก็ได้เฝ้าสังเกตถึงสถานะของพระเจ้า เขาได้เฝ้ามองดูพระเจ้าส่งทูตสวรรค์ออกไปดูแลโลกระดับต่ำเพื่อขยายอาณาเขตสวรรค์ด้วยการยกระดับโลกพวกนั้นที่พร้อมอยู่แล้วไปเป็นระดับสูง และจัดการดูแลโลกพวกนั้น

และในวันหนึ่ง

[…ไม่น่าพอใจเลย]
[พ่อ มีอะไรหรอครับ?]
[มานามีความผิดปกติมากเกินไป บันทึกนภาไม่มีมาตราฐานเลยและชีวิตมักจะนำภัยคุกคามมาด้วยเสมอ]
[นี่มันคือผลจากการที่ท่านรักโลกใช่ไหมครับ?]
[ใช่แล้วล่ะ]

พระเจ้าได้หยักหน้าออกมาก่อนที่จะเดาะลิ้นขึ้น

[ดูเหมือนว่าจะต้องตั้งค่าใหม่ให้มันถูกต้องแล้ว]
[…ผมจะทำตามคำสั่งท่าน]
[มิคาเอลลูกชายที่น่ารักของฉัน ตอนนี้กลับไปก่อนเถอะ เมื่อถึงเวลาแล้วฉันจะเรียกนายมาเคียงข้าง]

ในตอนนี้เองคือช่วงเวลาที่มิคาเอลได้ตัดสินใจที่จะต่อต้านสวรรค์

เขาได้ไปหาลูซิเฟอร์กับกาเบรียลในทันที ลูซิเฟอร์ได้หัวเราะออกมาอย่างสุขใจ ในขณะที่กาเบรียลได้มองเขาด้วยรอยยิ้มเศร้าสลด

[สมาชิกหลักคือฉันกับนาย]

ลูซิเฟอร์ได้พูดออกมาอย่างหยิ่งยโส

[ฉันจะทำให้พระเจ้าไม่อาจควบคุมเขาได้ ข้อจำกัดของเขาต่อเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ และมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของบันทึกนภา เมื่อนายได้รู้เรื่องนี้การหลบหนีไปจากเขาก็ง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเลยล่ะ]
[แล้วหลังจากนั้นล่ะ?]
[ในตอนนั้นเราก็จะกลายเป็นอิสระ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังคงมีพลังที่มหาศาลอยู่ดี… เพราะแบบนั้นในฐานะที่เป็นคนที่แกร่งที่สุดในหมู่พวกเรา ฉันจะเป็นคนต่อสู้ขัดขวางเขาเอง]นิ้วของลูซิเฟอร์ที่ชี้ที่ตัวเองได้ขยับไปทางมิคาเอล
[ในเวลาเดียวกันนายจะต้องจัดการขโมยทั้งพลัง ระดับชั้น และบันทึกของพระเจ้า]
[…ฉันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้]
[นายก็แค่ต้องแบ่งมันมาให้พวกเราทุกคน หากเป็นการหารห้ามันก็คงจะเป็นไปได้]

มิคาเอลได้กัดฟันและถามออกมาอีก

[แล้วต่อจากนั้นล่ะ….?]
[เราต้องฆ่าเขา]

[ฆ่าพระเจ้าแล้วจัดการดูแลโลกทั้งหมดด้วยตัวเอง]
[พวกเราต้องจัดการโลกทั้งหมด… ใช่แล้วคำพยากรณ์]

[โอ้ มิคาเอล นายดูจะชอบแสดงสีหน้าถึงสิ่งที่คิดออกมานะ]
[เงียบไปเลยลูซิเฟอร์… ฉันเพียงจะรู้ตัว พระเจ้าที่ฉันต้องการน่ะไม่มีตัวตนอยู่จริงตั้งแต่แรกแล้ว เพราะแบบนั้นฉันจะต้องเติมเต็มสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเอง]
[เยี่ยม เป็นความคิดที่ดี ฉันชอบในส่วนนี้ของนายมาตลอดเลย]

[ทำไมนายถึงได้มาอยู่ที่นี่! นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน!]
[นี่นายไม่ได้สังเกตเลยงั้นหรอ? ฉันกำลังใช้พลังที่ฉันได้ขโมยไปจากนายไงล่ะ]
[ขโมยไปจากฉัน? ได้ยังไง….]

[นี่คือข้อจำกัดที่ฉันได้ร่ายเอาไว้ในตอนที่ฉันรับนายเข้ามาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ลูซิเฟอร์ก็ยังดิ้นรนหลบหนีจากมัน แต่แล้วก็ล้มเหลว มิคาเอลลูกของฉัน นายไม่รู้เลยหรอ?]
[ฉัน… ไม่ได้รู้เลย]
[ใช่แล้วนายมันโง่เง่า…และเป็นเช่นนี้มาตลอด]

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี